คันทรีเลค บ้านอิงธรรมชาติ โดยลุงดำ

คันทรีเลค บ้านอิงธรรมชาติ 
   
โดย ลุงดำ

          ลุงดำนี่แก่เปล่าไปเสียแล้ว เคยไปเมืองอุทัยธานีมากกว่า 15 ครั้ง แต่เชื่อไหมครับว่าแก่ขนาดไม่รู้ว่า ที่เกาะเทโพมีบ้านอิงธรรมชาติ น่านอนมากๆ แม้ว่าจะเข้าออกยากไปนิด แต่อย่างว่า นักเที่ยวตัวยงต้องปากถาม มือขับขยับไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ถึง ผ่านหมู่บ้านห่างๆ เลาะเลียบไปตามริมน้ำ เอ๊ะ แม่น้ำอะไร ด้วยความสงสัยแต่ก็เก็บงำไว้ ตามเพื่อนไปก่อนดีกว่า แก่แล้วไม่อยากปล่อยไก่ กะต๊ากๆๆๆ ไก่อ้วนๆ เสียด้วย


           


          เส้นทางเลียบชายน้ำไปเข้าป่าไผ่ ครึ้มเชียว เขียวสดใสไปตลอดทาง ผ่านโรงเรือนมุงหญ้าคาบ้าง บ้านหลังเล็กๆ ทาสีเขียวบ้าง ตกแต่งพื้นๆ ไม่สไตล์รีสอร์ทจ๋าเหมือนที่อื่นๆ ไม่งั้นก็คงจะตกแต่งไม่เก่ง หรือว่าขี้เกียจ อาจไม่ใช่อย่างที่ลุงดำคิด เรื่องอย่างนี้เขาว่าอย่าปล่อยให้สงสัยคาใจ เดี๋ยวเข้าใจผิดละก้อ เสียใจได้โง่เชียว 
          แสดงตัวจนได้กุญแจ รู้เบอร์ห้อง และเส้นทางที่โค้งไปโค้งมา เล่นเส้นสายไปตามธรรมชาติ แต่แทบจะไม่ได้สัมผัสแดดแดงๆ เลย มีต้นไม้ขึ้นเขียวขจีไปทั่ว พื้นที่ทั่วไปเรียบๆ แบนๆ แต่ก็มีความรู้สึกว่า สงบ นิ่ง เว้นแต่ไก่ป่าวิ่งกันเกลื่อน ขันเกี้ยวตัวเมียบ้างเป็นครั้งคราว ให้ตาย เหมือนกลับบ้านนอกที่อ่างทองไม่มีผิด ผิดก็แต่ที่นี่เขาทำเพื่อเป็นที่พักแรมของนักท่องเที่ยวที่ชอบความเรียบง่าย สงบ ร่มรื่น ร้อนบ้างเย็นบ้าง 
          ไม่มีทีวีในห้องนอน มีแอร์เย็นฉ่ำ ห้องน้ำสะอาด  ตู้เย็น เตียงนอน จัดวางผ้าขาวม้าตกแต่งสไตล์หรูเลิศ อดีตรูมบอยโรงแรมนารายณ์ (สีลม) ยอมรับราบคาบเลย เครื่องเคราครบอย่างโรงแรมในเมือง เห็นราวผ้าที่ใช้ไม้ไผ่แล้วนึกในใจ ถ้าจะขี้เหนียวโว๊ยเจ้าของ แต่มาคิดดู ไอ๊หยา นี่เขาหัวศิลป์ มีอารมณ์สุนทรี ใช้วัสดุที่มีอยู่ในท้องถิ่นอย่างคุ้มค่า ก็ที่นี่มีป่าไผ่เต็มไปหมด มีกระทั่งหวายที่ทอดยอดเลื้อยขึ้นไปตามต้นกอไผ่ คลาสสิคครับ คลาสสิค
           ค่ำนั้น เดินออกจากห้องไปนั่งกินอาหารร่วมกับคณะ ได้เห็นการจัดแบบบุฟเฟท์เก๋ๆ แล้วนึก นี่มันหลอกลวงแท้ๆ ทำทีเป็นเชยๆ ที่ไหนได้ จัดเสียแจ่มแจ๋วแหว๋วเลย ได้ของถูกใจแล้วก็หันรีหันขวาง จะเลือกนั่งมุมไหนดีหว่า ตรงมุมไหนก็น่านั่งไปหมด สวยจังครับ  ลุงดำต้องตัดใจ
เลือกที่โล่งแจ้งกลางแปลงไว้ก่อนดีกว่า กะว่า ลุกไปซ้ำละก้อ เร็วเลย 


                           

            ยังไม่ทันอิ่ม มีเสียงเรียกร้องให้เพื่อนหนุ่มๆ คนหนึ่ง ขึ้นไปกล่อมด้วยเสียงเพลง คาราโอเกะเตรียมไว้เหมือนรู้ใจ มาที่นี่กันเองๆ กลุ่มเพื่อนๆ ก็คนกันเอง สนุกได้อย่างไม่ต้องกังวลว่าจะไปรบกวนใคร เอาแล้วซี ขึ้นไปร้องได้ลงไม่เป็นอีกแล้ว โอ้ พระเจ้าจอร์จ ลุงดำก็เล็งๆ ไว้เหมือนกันแหละ  กะว่าได้ทีต้องร้องสักสี่เพลง ไม่งั้นนอนไม่หลับ เสียงเพลงคือชีวิตเหมือนกัน
            แต่แล้วก็ต้องทำใจ พระเจ้าไม่เป็นใจ ฝนเทลงมาพอดี เลยหนีไปห้องนอนฟังเสียงเม็ดฝนหยดกระทบใบไม้ดังเปาะแปะๆ อากาศที่ร้อนๆอยู่พลันก็เย็นลง หลับไปเมื่อไรไม่รู้ แต่เช้ามืด ตีห้าปลายๆ ไก่ป่าขันกันเพรียก ปลูกให้ลุงดำตื่นได้ด้วยความสนใจ ดีเลย จ้องไว้แล้ว บึงกว้างขวางหน้าทางเข้าที่พัก มีเรือประมงท้องถิ่นหากินอยู่ ยังไงเช้าๆ ก็คงต้องมากู้ตาข่ายที่แกลงไว้แน่นอน อาจได้ภาพเด็ด วิถีชีวิตชาวบ้านๆ เลย

                               


            ก็อย่างที่เห็นเป็นภาพตัวอย่าง เห็นได้เลยว่าสถาพพื้นที่และบรรยากาศให้ มือซ้ายรองเลนส์กล้อง บรรจงกดชัตเตอร์ทีละภาพๆ อย่างใจเย็น ยังไงเสียตาลุงเสื้อแดงก็คงต้องกู้ตาข่ายของแกไปเรื่อยๆ เลือกมุมแล้วมุมอีก แสงสีทองเริ่มแผ่ส้านไปยังท้องน้ำ หรือแท้ที่จริงแม่น้ำเจ้าพระยาสายที่ถูกกระแสน้ำทอดท้งไปอย่างใจร้ายที่สุด กลายเป็นบึงน้ำนิ่งแสนงาม 
            นึกในใจว่า สภาพรีสอร์ทลักษณะนี้นักท่องเที่ยวไทยไม่ค่อยนิยมแน่นอน หนักธรรมชาติไปหน่อย แต่กลายเป็นว่า ที่นี่คือรีสอร์ทที่ฝรั่งต่างชาติชื่นชอบเสียนี่ เห็นไหม? บรรยากาศบ้านนอกอย่างนี้แหละกลับเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวต่างชาติ ได้ความรู้เพิ่มเติมว่า เป็นฝรั่งแถวยุโรป เป็นลูกค้าขายตรงจากการนำเสนอ เก๋งครับ เยี่ยมครับ ยอมรับเลยครับว่า เจ๋ง เป็นอีกผู้หญิงเก่งที่ช่างน่าทึ่ง 


                              


            ปัดโธ่ ก็ลุงดำน่ะมีเกาะส่วนตัวอยู่แหลมสิงห์ จันทบุรี ห่างจากฝั่งอ่าวยางฝั่งพื้นที่ประเทศไทย 2.5 กมเท่านั้น ไปเกาะด้วยเรือประมงเล็กๆแค่ 15-20 นาทีแค่นั้น ทั้งปีไปได้แทบตลอดเวลา เว้นแต่วันที่คลื่นลมแรงจริงๆ บนเกาะมีสวนมะพร้าว ยางพารา และมีหาดทรายส่วนตัวยาวยืด ติดชายฝั่งทะเลตั้ง 400 เมตร น้อยซะเมื่อไร ประการสำคัญทั้งเกาะ 90 ไร่ เป็นสวนของลุงดำเสีย 31-2-25 ไร่(ทำกินมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่ไม่มีเอกสารสิทธิ์ใดๆ) เจ้าเดียวบนเกาะนี้เลย มีความเป็นส่วนตัวที่สุด 
            ลุงดำนี่เป็นเจ้าเกาะเลยก็ว่าได้ เดี๋ยวจะหาว่าคุย ขาดก็แต่ปัญญาที่จะพัฒนาให้มันเป็นบ้านอิงธรรมชาติเช่นเดียวกับคันทรีเลค อ้อ วัยเริ่มชรามากขึ้นทุกปีด้วย ก็เลยหมดบ้อท่าเชียว 
อิจฉาครับ มีที่ดินกับเขาก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนที่นี่ โฮๆๆๆ 
            อยากมาพักค้างเปลี่ยนบรรยากาศละก้อ ติดต่อที่กรุงเทพ โทร.0-2641-7433
E-mail: rsvn@countrylake.net : www.countrylake.net 
ติดต่อที่พยุหคีรีหรือที่อุทัยธานี โทร.056-205-205-6 มือถือ 08-1822-0138, 08-9499-3209  ทุกอย่างไม่ยากเลย วันนี้มันเป็นยุคดิจิตอล อะไรๆ ก็ง่าย สะดวก รื่นปึดๆ ไปซะทุกอย่าง