ตลาดน้ำสุ่มยักษ์วัดทองประดิษฐ์
อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ตำนานตลาดน้ำที่เคยโด่งดังคือ ตลาดน้ำตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร และตลาดน้ำดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี นักท่องเที่ยวมีทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ นิยมไปท่องเที่ยวกันตอนเช้าพอสายก็วาย ต่อมาเกิดตลาดน้ำอัมพวา จ.สมุทรสงคราม โด่งดังมากด้วยการเปิดเป็นตลาดน้ำยามค่ำ คือเปิดตั้งแต่บ่ายๆจนค่ำมืดดึกดื่น เป็นตลาดน้ำที่ได้รับความนิยมทั้งชาวต่างชาติและชาวไทย ส่วนใหญ่เปิดเฉพาะวันเสาร์และอาทิตย์
ตลาดน้ำยังมีอีกหลายแห่งแต่ไม่มีตลาดน้ำแห่งไหนดังทะลุมิติ จนกระทั่ง เมื่อนายกองค์การบริหารส่วนตำบลต้นตาล อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี นายภูวนาถ จารุภูมิ หยิบจับเอาวัสดุอุปกรณ์การหาปลาตามวิถีชีวิตคนริมน้ำมาใช้ ด้วยการใช้ไม้ไผ่ทั้งลำตกแต่งเป็นสุ่มยักษ์ แล้วเชื่อมต่อด้วยตลาดน้ำคลองสองพี่น้อง บนที่ดินของวัดทองประดิษฐ์
ประกอบกับเป็นยุคดิจิตอล ทุกคนมีมือถือ สามารถถ่ายคลิปแล้วส่งข่าวได้อย่างทันทีทันใด ไม่ต้องรอหนังสือพิมพ์หรือรายการทีวีช่องไหนมาช่วยประชาสัมพันธ์ให้แต่อย่างใด เรื่องจึงเกิด “โป๊ะแตก” ขึ้นทันที ตลาดน้ำสุ่มยักษ์โด่งดังไปทั่ว ทั้งๆที่เป็นตลาดน้ำเฉพาะวันหยุดนักขัตฤกษ์และวันหยุดเสาร์อาทิตย์ ตั้งแต่เช้ายันค่ำ
ตัวตลาดปูด้วยไม้ไผ่เป็นลำตัดสั้นๆ มัดแน่นด้วยวิถีชาวบ้าน เพิงขายของก็มุงด้วยจาก แฝก ทอดตัวยาวจากเชิงสะพานโค้งข้ามไปวัดทองประดิษฐ์ ไปยังสุ่มยักษ์ มีการสร้าง "รอบนอน"และ"รอบตั้ง"ประดับเป็นระยะ เป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยว โดยมีบึงบัวหลวงดอกสีชมพูในสระเป็นส่วนประกอบภาพที่สวยงาม สินค้าในตลาดน้ำก็บ้านๆ เช่นผักบุ้ง ผักกะเฉด สายบัว ปลาสด ปลาแห้ง และหมูย่าง ที่ขาดไม่ได้คือก๋วยเตี๋ยวเรือ มีให้กินหลายร้าน ร้านน้ำดื่มสมุนไพร ขนมหวาน ผลไม้พื้นบ้าน เช่นมะม่วง กล้วยน้ำว้า กล้วยหอม มะพร้าวน้ำหอม ฯลฯ
เชิงสะพานโค้งข้ามไปวัด มีเรือแต่งแต้มด้วยหลังคาโค้งกันแดดร้อนๆ มีฝีพายแจวหัวท้ายขึ้นล่องชวนสัมผัสบรรยากาศคลองสองพี่น้องที่ใสสะอาดตา มีปลาดำผุดดำว่ายให้เห็นตลอดแนวคลอง แถมด้วยแพผักบุ้งที่ปลูกไว้ขาย โอย ไปเดินหาซื้อกินและซื้อฝากทางบ้านกันเองเถอะ บรรยายไม่ไหว มันเยอะ
พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เป็นสมาชิกในท้องที่อบต.ต้นตาล ใช้สิทธิอาสามาค้าขายให้กับตลาดน้ำสุ่มยักษ์ รายได้จากพ่อค้าแม่ค้า อบต.เป็นผู้บริหารจัดการ บนที่ดินเป็นของวัดทองประดิษฐ์ ประมาณ 20 ไร่ เลียบคลองสองพี่น้อง ซึ่งเป็นที่ตั้งวัดแต่ดั้งเดิม ก่อนที่จะย้ายวัดไปอีกฝั่งคลอง อันเป็นคนละตำบล แต่อำเภอเดียวกัน
วัดทองประดิษฐ์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนที่ดินเดิมเพียง 7 ไร่เศษ ต่อมาได้รับบริจาคที่ดินจนเป็น 40 ไร่ คนละฝั่งคลองสองพี่น้อง และตั้งอยู่ตำบลบางเลน อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี มีกุฎีทรงไทยฝาเฟี้ยมรองรับพระสงฆ์ที่วันนี้มีจำพรรษา 17 องค์ ไม่มีเณร ศาลาการเปรียญยกพื้นชั้นเดียวกว้างขวาง เป็นเรือนไม้ เสาถากกลม โบสถ์ขนาดกลางหลังหนึ่งซึ่งชำรุด หลังคาทำท่าว่าจะหล่นใส่ ไม่สามารถซ่อมได้ -ข้างๆกุฎีมีมณฑปจตุรมุขหลังหนึ่ง ภายในประดิษฐานพระประธานศิลปะสุโขทัย สร้างด้วยทองสัมฤทธิ์ งดงามยิ่งนัก พุทธศาสนิกชนวนเวียนกันเข้าไปชมและกราบขอพร
วัดทองประดิษฐ์มีเจ้าอาวาสมาแล้ว 3 องค์ เดิมท่านชื่อ อำนวย เทียมจันทร์ บวชเมื่ออายุ 21 ปี แล้วก็จำวัดนี้ตลอดมาถึง 50 พรรษา ท่านพระครูสุวรรณ
อโนมคุณ อายุ 75 ปี ท่านเป็นเจ้าอาวาสองค์ที่ 4 ปัจจุบันนี้มีพระสงฆ์จำพรรษา 17 องค์ เณรไม่มี ลูกศิษย์วัดตามพระบิณฑบาตไม่มี วัดตั้งอยู่ริมฝั่งคลองสองพี่น้องฝั่งตะวันออกท้องที่ตำบลบางเลน
“โบสถ์ชำรุดเกินซ่อมแซม ฉันกับชาวบ้านญาติโยมลงมติจะสร้างโบสถ์ใหม่ ขนาดหลังคา 3 ชั้น ค่าก่อสร้างประมูล 19 ล้านบาท วางศิลาฤกษ์ ณ จุดสร้างโบสถ์ใหม่ไปแล้วเมื่อ
วันศุกร์ที่ 18 เดือนมกราคม พ.ศ.2562 เวลา 09.09 น.ลักคณาสถิตราศีตุลย์ประกอบด้วยราชาฤกษ์"
ในการจะสร้างโบสถ์ก็ได้รับฉันทานุมัติจากศรัทธาของวัด ขอรับเงินบริจาคทั่วไป และได้รับการสนับสนุนจาก คุณสนิท เกษตรเสริมวิริยะ คหบดีตลาดสองพี่น้อง ประธานชมรม
จิตอาสาพาเพลินของรพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 สมาชิกมากมายล้วนเป็นทั้งสว.(ผู้สูงวัย)และผู้มีจิตศรัทธา มาช่วยกันร้องเพลงคาราโอเกะเพื่อกระตุ้นให้เกิดการสมทบทุนสร้างโบสถ์
ใหม่ ณ ศาลาพักร้อนหลังเล็กๆ เชิงสะพานโค้งฝั่งวัดทองประดิษฐ์ ซึ่งมีที่จอดรถให้กับนักท่องเที่ยวกว้างขวาง ก่อนจะข้ามไปเที่ยวชมตลาดนัดสุ่มยักษ์
“ทุกวันจันทร์ พวกเรา จิตอาสาหาทุนสมทบให้ รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 จะใช้เวลาร้องคาราโอเกะข้างๆโรงพยาบาล จาก 09.00-14.00 น. แต่วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ พวกเราจะเคลื่อนขบวนไปร้องเพลงกันที่วัดทองประดิษฐ์ เวลา 09.00-16.00 น. กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวได้รับข้อมูลข่าวสารการสร้างโบสถ์ใหม่ครับ” ประธานสนิทเล่าให้ฟัง
“ผมทำหน้าที่บริหารจัดการทั้งเครื่องเสียง และอาสาสมัครที่ต้องทำหน้าที่เสริมให้กับจิตอาสาที่เสียสละเวลามาร้องเพลงให้กับชมรม ระหว่างนั่งชมก็ทำหน้าที่เป็นพิธีกรบอกกล่าวเล่าเรื่องเชิญชวนญาติโยมและนักท่องเที่ยวตลาดน้ำสุ่มยักษ์ได้รับรู้และร่วมสนุกกับพวกเรา โอย หลายคนครับมาร่วมร้องด้วย” คุณกิมเลี้ยง ดวงจินดา ผู้ได้รับมอบหมายให้จัดการคุมวงและก็ร้องเพลงไปด้วย บางวันภรรยาอาซ้อมาลีก็จะมาร่วมด้วยอีกคน
“ผมกนกภพ พิศลบุตร อดีตข้าราชการกรมที่ดินเกษียนแล้ว รับผิดชอบในการขนย้ายและติดตั้งเครื่องเสียงจากรพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 เพราะมีรถจี๊ปเปิดประทุน สะดวกที่จะบรรทุกเครื่องเสียงขึ้นๆลงๆ อีกหน้าที่คือร่วมร้องเพลงตามคิวด้วย และทำหน้าที่ถ่ายคลิปเพื่อประชาสัมพันธ์ไปยังกลุ่มต่างๆทางไลน์”
“หนู แจง ขวัญชนก คำหอมรื่น เดิมหนูก็เป็นแค่จิดอาสาร้องเพลงและตั้งแผงขายกิ๊ฟฟารีนสำหรับคนชอบสวยๆงามๆไปด้วย ตอนป๋าเหมียวต้องไปผ่าตัด จึงสอนวิธีปรับมิกเอร์ เครื่องเสียง และคีย์เพลงให้ หนูจึงรับหน้าที่ทั้งคีย์เพลง ปรับเสียง ให้กับนักร้องจิตอาสาแล้วก็ทั้งร้องและเต้นละค่ะ วัยหนู 50 ยังแจ๋ว ก็ต้องเพลงเร็วๆมันส์ละค่ะ ”
“ดิฉัน อดีตครู กศน.อุไทวรรณ อุบลเลิศ เพื่อนกับแจง วัยเดียวกัน แต่ก็ใช่จะร้องแต่เพลงเร็วนะคะ เพลงคู่เพลงช้าๆหวานๆก็ได้ค่ะ ว่างมาร่วมบริจาคสมทบทุนสร้างโบสถ์กับพวกเรานะคะ ร้องเพลงคู่ฟรีค่ะ ไม่มีค่าตัว” พูดแล้วครูก็กระโดดขึ้นเวทีไปส่ายสะโพกพยับๆๆ
“ที่บ้านทรงชัย เล้าไก่ เปิดคาราโอเกะเฉพาะวันที่ 10 และ 20 ของทุกเดือน พอวันอื่นๆที่ไม่ตรงกันก็ว่าง จึงได้ยกครอบครัวมาร่วมร้องด้วย เพื่อความสุขตัวเราและได้ช่วยให้เกิดการสมทบทุนสร้างโบสถ์สร้างอุปกรณ์การแพทย์ได้ ก็ถือเป็นกุศลครับ เรามากันทีหนึ่งก็คุ้ม 3-4 คน”
“ผมช้าง เฉลิมศักดิ์ ซารัมม์ จากบ้านทะเลบก ชมรม ชุมชนบ้านยางกำแพงแสน จ.นครปฐม มาช่วยเสริมเติมเวทีให้หลากหลายครับ เผอิญชอบร้องเพลงและวัยก็ใกล้ฝั่งเต็มที ภาระอื่นๆก็ไม่มีแล้ว เป็นงานอดิเรกที่มีแต่ความสุขครับ”
“ผม เรือง รุผักชี อดีตครูเกษียนราชการจากชมรมชุมชนบ้านยาง กำแพงแสน ชื่นชอบเสียงเพลงของทูล ทองใจมากเป็นพิเศษ ก็อยากช่วยให้เกิดการบริจาคเงินสมทบทุนสร้างโบสถ์จนสำเร็จ ว่างๆตรงกับวันร้องเพลงเวทีนี้ก็ขับรถมากับน้องๆ “
บางวัน อาซ้อมาลี ดวงจินดา ก็พกเครื่องเคราทำครัวมาบรรเลงให้เป็นอาหารมื้อเที่ยง แบบฟรีทั้งน้ำ ข้าวและกับข้าว แต่บางวันก็ท่านประธานสนิท เกษตรเสริมวิริยะ ก็ยกหม้อแกงมาประเคนถึงที่ เวียนสลับกันไปตามแต่ใครจะสมัครใจ หากไม่มีกินวันไหนก็เดินข้ามสะพานไปกินที่ตลาดน้ำสุ่มยักษ์
ขออนุโมทนาบุญกุศลที่ร่วมสร้างจากนักท่องเที่ยวเป็นเงินใส่ตู้ รวมๆแล้วถวายหลวงพ่อไปกว่า 300,000 บาทแล้วจ้า
"ผมเดินทอดน่องไปตามแนวคลองสองพี่น้อง ขึ้นไปจนถึง เจดีย์คาเฟ่ ของเจ้าหนุ่มรูปหล่อ เขาเล่าว่าที่ดินของพ่อแม่อยู่ติดชายคลองช่วงโค้งหน้าวัด เลยขอทำร้านกาแฟสดเผื่อนักท่องเที่ยวอยากมานั่งสัมผัสบรรยากาศบ้านริมคลองริมน้ำ ไม้เก่าที่เหลือสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ และบ่อกุ้งของพ่อ ใช้ประโยชน์ได้มากกว่ากองทิ้งไว้ ผมศิษย์เก่าสาธิตเกษตรครับ จบสถาปัตย์กรรมจากมหาวิทยาลัยลาดกระบัง รับงานทางออนไลน์ที่เพื่อนๆส่งมาให้ ได้อยู่ดูแลร้านกาแฟและพ่อกับแม่ ก็โอเค ไม่ว่ายอดขายจะได้วันละกี่แก้ว"
"โอย คุณลุง เครื่องชงกาแฟของผมสองเครื่องนี้เหยียบสองแสนบาท เรื่องจะได้คืนเมื่อไรนั้นคงตอบยากแต่มีความสุขใจที่ได้อยู่บานเกิดมากกว่าครับ แนวคิดการพัฒนาที่ดินชายคลองของพ่อก็มีอยู่ในสมองเหมือนกัน อาจมีบ้านพักริมคลอง ลงเล่นน้ำได้ตามความเหมาะสม พายเรือเล่นกันเอง หรือจะตกปลา ล้วนเกิดต่อเนื่องในการพัฒนาครับ"
"คิดตังส์ครับ เอสเปรสโซ่ 1 ช็อต"
"40 บาทครับ" แหม มาตั้งไกลในทุ่งในนามีกาแฟสดดื่มแก้วละเพียง 40 บาท โอ้ สวรรค์"