ประชุมคร่ำเคร่งและแจกทุนปีการศึกษา 2562 (ปีที่ 33)
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
จากแนวคิดที่เริ่มต้นเพียงวลีเดียว “คนเราเกิดมาไม่เท่ากัน จึงอยากให้โอกาสแก่คนที่ด้อยโอกาสได้มีโอกาสบ้าง” ที่นายสมเพิ่ม กิตตินันท์ อดีตรองอธิบดีกรมป่าไม้ให้ทุนการศึกษาเริ่มต้นเพียง 20,000 บาท เมื่อปีพ.ศ.2525 แต่ชั่วเวลาไม่กี่เดือนถัดมา วันที่เพื่อนๆวนศาสตร์ รุ่น 15 ต้องเสียใจเพราะเสียเพื่อนไปในวันที่ 8 มิถุนายน 2526 จากสาเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกขณะขึ้นบินเพื่อไปตรวจราชการ ที่จังหวัดนครราชสีมา
เพื่อนๆของท่าน วนศาสตร์ รุ่น 15 จึงได้ระดมทุนเพื่อส่งเสริมการศึกษาอย่างต่อเนื่องตามเจตนารมณ์ และจัดตั้งเป็นมูลนิธิ สมเพิ่ม กิตตินันท์ ในเดือนมกราคม ปีพ.ศ.2529 ด้วยเงินทุนเริ่มต้น 200,000 บาทเศษ โดยใช้บ้านพักกลางหุบเขา หลังนี้เป็นที่ทำการมูลนิธิตลอดมา เพื่อใช้เป็นที่ทำการประชุมสามัญประจำปี มายาวนานถึงปีที่ 33 และใช้เป็นที่พักแรมของคณะกรรมการมูลนิธิและกรรมการกิตติมศักดิ์ โดยมีหน่วยจัดการต้นน้ำห้วยสามสบและชาวบ้านกิตตินันท์เป็นผู้ทำนุบำรุง
ทุกปี ราวๆกลางเดือนมกราคม คณะกรรมการทั้งหลายจะได้กลับมาร่วมกันสืบสานเจตนารมณ์เพื่อส่งเสริมการศึกษาแบบต่อเนื่อง โดยให้ทุนการศึกษาเด็กคนไหนก็จะให้ต่อเนื่องจนกว่าเด็กคนนั้นจะเรียนสำเร็จปริญญาตรี (อนุบาล-ปริญญาตรี รวมเวลา 19 ปี) เว้นแต่ เด็กนักเรียนทุนคนใดจะเรียนไม่ไหวหรือเรียนไม่สำเร็จ ทั้งนี้ มูลนิธิจะไม่เรียกรับเอาเงินทุนที่ให้คืนแต่อย่างใด เป็นทุนให้เปล่าแบบให้จนกว่าจะเรียนต่อไปไม่ไหว
ได้เวลาคณะกรรมการมูลนิธินำโดยท่านประธานกรรมการ ท่านอุดม หิรัญพฤกษ์ เข้านั่งประจำที่ประธาน โดยชาวบ้านได้จัดที่ประชุมแบบเปิดโล่งกลางแสงแดดยามเช้าที่หน้าที่ทำการมูลนิธิดังในภาพ ชาวบ้านและนักเรียนทุนจะนั่งรายล้อมกันอยู่ในบริเวณมูลนิธิ ท่าประธานจะกล่วเปิดประชุมและแจ้งให้ที่ประชุมทราบ ถัดมาจะเป็นการตรวจรายงานการประชุมปีที่ผ่านมา การตรวจสอบบัญชีงบดุลโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาต การพิจารณารายได้จากเงินฝากประจำ และผลของการระดมทุนของท่านประธานและคณะกรรมการ วาระสำคัญมาถึงเมือพิจารณาเงินรายได้ของมูลนิธิและเงินรายจ่ายตามวัตถุประสงค์ แล้วก็เริ่มถกถึงการพิจารณาทุนปี 2562 ตลอดจนถึง ปีนี้มีนักเรียนทุนสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีเพิ่มอีกกี่คน
เมื่อเสร็จสิ้นภาระกิจจากการประชุมคณะกรรมการทุกวาระแล้วก็ร่วมกันแจกทุนการศึกษาของเยาวชนแบบต่อเนื่องให้กับนักเรียนทุน สรุปว่า ปีนี้ได้เงินสมทบทุนเพิ่ม ประจำปีการศึกษา 2562 จำนวน 179,440 บาท มีเงินปันผลจากเงินฝากในบัญชีสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ปี 2562 เป็นเงิน 110,000 บาท รายจ่ายเพื่อทุนการศึกษาของเยาวชนต่อเนื่องปี 2562 จำนวน 75 ทุน เป็นเงิน 268,100 บาท
แต่ละปี คณะกรรมการหมดอายุกรรมการลง กรรมการที่เหลือก็จะเป็นผู้เลือกกรรมการชุดใหม่ แต่ส่วนใหญ่ก็ยกชุดเดิมเข้ามาเป็นต่อไปอีก เว้นแต่คณะกรรมการท่านใดเสียชีวิตไปหรือลาออกหรือไม่ประสงค์จะสืบทอดอายุกรรมการ ก็พิจารณาเสนอคนใหม่เข้าทำหน้าที่แทน ปีนี้ได้ นพ.สุวิทย์ เกียรติเสวี รับการเสนอให้เป็นรองประธานกรรมการมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ ต้องขอขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ที่ยอมเสียสละเวลา แรงกายและแรงใจด้วยเจตนารมณ์อุดมการณ์ที่เข้มแข็ง สืบสานเจตนารมณ์ที่จะช่วยกันส่งเสริมการศึกษาของเยาวชนอย่างยิ่ง
ได้เวลาพักเที่ยง อาหารที่เตรียมการไว้ด้วยแรงงานของชาวบ้าน นักเรียนทุน ช่วยกันบริการให้ความสะดวกแก่คณะกรรมการมูลนิธิและแขกผู้มีเกียรติตามแบบอย่างบ้านป่าเมืองดอย ผลไม้ตามฤดูกาลท้องถิ่น ปีนี้เป็นปีแรกที่ได้เห็นชาวบ้านและนักเรียนได้มีโอกาสนั่งกินข้าวมื้อเที่ยงร่วมกับคณะกรรมการมูลนิธิ แตกต่างที่คณะกรรมการนั้นล้วนแต่ผู้อาวุโส ก็จัดโต๊ะให้นั่งบนระเบียงริมน้ำหน้าที่ทำการมูลนิธิ
ระหว่างรับประทานอาหารก็ได้ชมการแสดงของเยาวชนที่อุตสาห์ฝึกกันเป็นสัปดาห์ เพื่อจะได้สร้างความอภิรมย์แก่คณะกรรมการผู้เปี่ยมเมตตาจิต เริ่มตั้งแต่นักเรียนทุนระดับชั้นประถมศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นและตอนปลาย นักศึกษาทุนของมูลนิธิระดับอุดมศึกษาออกมากล่าวขอบพระคุณ ตามด้วยครูใหญ่และผู้ใหญ่บ้าน
ของฝากของชาวบ้านยังคงเป็น ฟักทองพันธุ์พื้นเมือง ลูกเบี้ยวๆบูดๆแต่หอมหวานอร่อยมาก นึ่งทั้งเปลือกและกินทั้งเปลือก อร่อยเหลือ ฟักเขียวลูกกลมๆ เหมือนลูกฟุตบอลเขียว กล้วยน้ำว้า(กล้วยอ่อง) กล้วยเล็บมือนาง ฯลฯ สุดแต่ว่าครอบครัวใดจะมีพืชผักใดมาฝาก เป็นธารน้ำใจเล็กๆแทนคำขอบคุณคณะกรรมการผู้มีจิตเมตตากรุณาแด่ผู้ยากไร้และต้อยต่ำกว่า
แต่แทบไม่น่าเชื่อว่า บรรดาแขกผู้มีจิตเมตตาทั้งปวงกลับดีอกดีใจที่ได้ของฝากจากชาวบ้าน ของฝากบ้านๆ ไม่มีราคาค่างวดเป็นตัวเงิน ใจสมานใจโดยแท้
หลังอาหารมื้อเที่ยง ก็ได้เวลาที่ต้องจรลีไปยังบ่อเกลือ เมืองน่านตอนบนเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศบ้านป่าดงดอยกันต่อไป ไปกันมา 33 ปี จนแทบจะหาดอยไปไม่ได้กันแล้ว ไปแต่ละแห่งก็ใช่จะสะดวกสบาย กินนอนแสนยากลำบากและไม่หรูหรา แต่บรรดาคณะกรรมการมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ก็ยินดีปรีเปรมที่จะได้ไป ลำบากกับที่นอนเพียงใด เหนื่อยกายเพียงไหน หัวใจไม่เคยหยุดพัก เพราะรักที่จะเผชิญไพรไปกับทริปทรมานมูลนิธิสมเพิ่มกิตตินันท์ ปีที่ 33
คณะกรรมการมูลนิธิ เจ้าถิ่น ยังเป็นคณะเดิมครอบครัวของกรรมการและเหรัญญิก คุณประสิทธิ์ – ครูเธียรทอง พัฒนใหญ่ยิ่ง และเจเจ ธีระภาพ พัฒนใหญ่ยิ่ง ซึ่งรับแขกมาตั้งแต่เด็กวัย 5-6 ขวบจนถึงวันนี้ อายุ 25 ปีบริบุรณ์ บวชเรียนในพุทธศาสนาวัดป่าแห่งอำเภองาวจังหวัดลำปางมาแล้ว ปีหน้า จะไปทางไหน แต่จะไปทางไหน ก็จะตามไปทุกที่ๆ