จิตอาสา คาราโอเกะ เพื่อรพ.กำแพงแสน

จิตอาสา คาราโอเกะ เพื่อรพ.กำแพงแสน

โดย ผู้อาวุโส ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

            เดิมทีเดียว ชมรม มก.อาวุโส ร้องคาราโอเกะกันในห้องแอร์ ที่อาคารเรียนรู้ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน โดยมีท่านรองศาสตราจารย์ ปริทรรศ-ดร.ชัชรี  นฤทุม เป็นผู้อำนวยการให้  สมาชิกของชมรมก็มีทั้งอาจารย์ ข้าราชการ พนักงานของวิทยาเขตกำแพงแสน และประชาชนคนรอบมหาวิทยาลัย ระดับ สว.มาร่วมด้วย

            วันหนึ่ง ระหว่างนั่งรอคิวเพลงที่จะร้อง เพื่อนๆ ก็ได้พูดคุยกันว่า พวกเราน่าจะไปตั้งวงร้องคาราโอเกะที่ รพ.กำแพงแสนอย่างโรงพยาบาลอื่นๆ บ้างนะ  ทุกคนเห็นด้วย จึงกำหนดให้ อดีตนายก อบต.หนองกร่าง คุณนพรัตน์  เล้าอรุณ  เป็นผู้ไปประสานงานกับทางโรงพยาบาล  เรื่องก็เงียบไปสักระยะหนึ่ง

อ.ชัย นาคทองดี

            นายกฯนพรัตน์ มารายงานว่า ที่ รพ.มีกลุ่มศิษย์เก่าโรงเรียนกำแพงแสนวิทยา รุ่น8   ตั้งคาราโอเกะร้องเพื่อหาทุนสมทบให้กับโรงพยาบาลเป็นเวลา 20 วัน โดยมีอาจารย์ ชัย นาคทองดี อายุ 63 ปี  ดำเนินรายการ แทนเพื่อนร่วมรุ่น

           “บ้านผมอยู่ในเขตเทศบาลกำแพงแสน  ผมใช้บริการตรวจสุขภาพ รพ.กำแพงแสน ผมเส้นเลือดตีบ มารักษาที่นี่แหละ พอผมหายดีผมก็เลยคิดว่าอยากจะหาทางช่วยโรงพยาบาล ผมยืมเครื่องคาราโอเกะจากหลาน แล้วได้เพื่อนๆร่วมรุ่นนำเงินมาสมทบให้ ตั้งชื่อว่า สร้างสรรค์ปันน้ำใจ โดยมีผมคีย์เพลง ร้องเพลง แฟนผมลัดดา พี่ลัดดา พี่พิชัย พี่ช้าง พี่ดำสมพงค์  พี่ธงชัย พี่นำชัย พี่พยัก เปิดตู้นับเงินได้ 100,000 บาท มอบให้ นพ.สมชาย เจนลาภวัฒนกุล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลกำแพงแสน โดยคุณพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ  ศิริเพ็ญ เลาหบุตรครับ”

            “หลังจากนั้น ก็ร่วมกับชมรม มก.อาวุโส ได้ประสานกันว่าจะร่วมกันทำกิจกรรมดังกล่าวสืบต่อไปในนาม จิตอาสา คาราโอเกะ เพื่อ รพ.กำแพงแสน   

            ทางโรงพยาบาลโดย ผู้อำนวยการโรงพยาบาล นพ.สมชาย  เจนลาภวัฒนกุล           เห็นชอบและอนุมัติให้สำรองจ่ายเงินเพื่อจัดซื้อเครื่องคาราโอเกะทั้งชุด เมื่อเจตนารมณ์ตรงกันอย่างนี้   เรื่องก็จบลงด้วยความบริสุทธิ์ใจ   สถานที่ยังเป็นใต้ซุ้มไม้เลื้อยหน้าโรงพยาบาลที่มีทั้งชาวบ้านมาขายสินค้า  ญาติคนป่วยมานั่งรอคนป่วยตรวจรักษา และรถสามล้อเครื่อง นั่งกันอยู่ทั่วไป

             วันเริ่มต้น ราวๆเดือนมีนาคม ผู้อาวุโสจากสมาชิกของชมรม ผู้สูงอายุของ รพ.กำแพงแสน และผู้อาวุโสจากชมรม มก.อาวุโส คาราโอเกะ นำทีมโดย รศ.ปริทรรศ-ดร.ชัชรี นฤทุม สานสัมพันธ์ร่วมเจตนารมณ์เดียวกันอย่างกลมกลืน  โดยทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้อนุมัติให้ คุณหมอปุ๊ เป็นผู้ประสานงานแทนทางโรงพยาบาล  ทุกเรื่องจนถึงการเปิดตู้บริจาค นับเงินที่ได้รับ เข้าเป็นกองทุนสมทบ

            “มันเป็นบุญบริสุทธิ์ที่พวกเราเสียสละเวลาคนละนิดคนละหน่อย เพื่อมาช่วยกันร้องเพลง  แต่ผมหยอดตู้ทุกครั้ง 20 บาทขึ้นไป” อดีตนายกฯนพรัตน์ กล่าว

            อดีต ผอ.โรงเรียนชั้นประถมศึกษาในท้องที่อำเภอกำแพงแสน  อาจารย์สมศรี จำนงค์ทอง อายุ 64 ปี “จิตอาสา รพ.กำแพงแสน  ถือเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ รักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต แถมได้พบปะเพื่อนฝูงมากหน้าหลายตา  แต่วันอื่นๆก็ไปร้องคาราโอเกะหลายแห่ง เช่น นครปฐม  สุพรรณบุรี ม.เกษตร กำแพงแสน ครัวทวารวดี  รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 บางลี่ เท่าที่กำลังยังไปได้ ”  

          “เราร้องในห้องแอร์ของมหาวิทยาลัยก็โอเค แต่เราก็อยากจะไปร้องเพื่อหาเงินสมทบให้กับโรงพยาบาลซึ่งมีผู้ป่วยมาจากทุกทิศทาง  บางคนมีอันจะกิน แต่ส่วนใหญ่ยากจน  ทางโรงพยาบาลต้องเกลี่ยจ่ายเพื่อให้รองรับผู้ป่วยได้ทุกคน บางอย่างก็ขาด นโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรคนั้นดี  ผมเองก็มีเงินจำกัดเบิกต้นสังกัดได้  แต่เพื่อส่วนรวมด้วยแรงกาย ก็โอเคครับ”  นักเขียนอิสระ บก.บริหารเว็บไซต์ทองไทยแลนด์ดอทคอม ธงชัย เปาอินทร์ อายุ 70 ปี กล่าว

            สมพงค์ จงมีสุข “ผมอายุ 68 ปี บ้านห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม สมัครใจปั่นจักรยานยนต์จากบ้านมา 4 กม เพื่อร่วมร้องเพลงแบบ จิตอาสา เพราะ ชอบเสียงเพลง ชอบทำบุญ และอยากมีสุขภาพดี  ผมก็เลยมาทุกวันที่เปิดให้ช่วยร้องเพลง  บริจาคลงตู้ครั้งละ 20 บาท มีมากก็ใส่ลงไปมากตามกำลังครับ”

            เฉลิมศักดิ์  ซารัมย์  อายุ 70 ปี “บ้านผมอยู่ทะเลบก ต.กระตีบ อ.กำแพงแสน ห่างจาก รพ.ราวๆ 12 กม. ขับรถไปกลับก็ 24 กม. แต่ผมชอบร้องเพลงลูกทุ่ง  ผมแก่แล้ว เกษียนงานแล้ว ว่างมาก มาร้องเพลงจิตอาสาก็ได้พบปะเพื่อนร่วมรุ่นหริใกล้เคียง อยากกินอะไรก็ซื้อมาวางบนโต๊ะนั่งคุยกันไปกินกันไป อ๋อ หยอดตู้สมทบทุนด้วยแทบทุกครั้ง ก็ 20 บาทขึ้นไป แฮปปี้ดีครับ ถ้าวันไหนไม่มาร้องจิตอาสาก็ไปเป็นจิตอาสาที่รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 บางลี่ หรือที่อื่นๆครับ ผมว่าอยู่บ้านก็ได้แต่นอนๆๆๆ”

            พิชัย เกียรติสำรอง  “ผมอายุ 68 ปี อาชีพค้าขาย บ้านอยู่ในเขตเทศบาลกำแพงแสน แต่ละวันมีเวลา 3-4 ชม.ก็แว๊บมาร้องเพลงเป็นจิตอาสาครับ ชอบร้อง สมัครใจมา อยากทำบุญ เวลาเปิดตู้นับเงินสะสมให้กับ รพ.รู้สึกดีครับ มีคุณค่าที่ช่วยทางการได้ อ้อ ผมและครอบครัวพึ่งพาโรงพยาบาลนี้ ตอบแทนได้แค่นี้ก็ประเสริฐที่สุดแล้วครับ”

            นางลัดดา ทองยา  “ฉันอายุ 69 ปี แม่หม้ายลูก 3 อาศัยอยู่กับลูกที่หมู่บ้านเกษตร1 เดิมก็มีอาชีพค้าขาย เคยเป็นนักร้องไนต์คลับแบบมืออาชีพ พอถึงวัยเกษียนงานแล้ว ก็ยังชอบร้องเพลง และก็ยังมีกำลังพอที่จะมาร่วมกับเพื่อนๆสว.ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิก ชมรม ผู้สูงวัยของ รพ.กำแพงแสน พอเพื่อนๆชวนก็มาร่วมด้วยช่วยกัน อ๋อ ร้องเพลงได้ทุกแนวค่ะ”

            “คิดว่ายังพอมีกำลัง อยากทำประโยชน์แก่สังคมบ้าง  เป็นจิตอาสาร้องคาราโอเกะสุขภาพก็ดี สดชื่นค่ะ และรู้สึกว่าได้ตอบแทนโรงพยาบาลของเรา ที่สำคัญได้พบปะเพื่อนฝูงวัยใกล้เคียงกัน ได้นั่งดื่มน้ำชากาแฟ กินขนมตามแต่ใครจะซื้อมาฝากกัน อ๋อ หยอดตู้ 20 บาทขึ้นไปมีมากก็หยอดมากค่ะ  ทำบุญครั้งนี้ไม่ได้หวังขึ้นสวรรค์แค่อธิษฐานจิต ตายแล้วไม่อยากเกิดมาอีก”  นิพพานๆ

            กิมเลี้ยง  ดวงจินดา  “ผมอายุ 78 ปี บ้านผมอยู่หลังอำเภอเก่าสองพี่น้อง ห่างจากรพ.กำแพงแสน ว่า 30 กม. แต่ผมยังขับรถได้คล่อง เมียผม(มาลี) ก็ยินดีที่จะมาร่วมด้วยช่วยกันร้องเพลง ทั้งผมและเมียมีความสุขมากที่ได้ร้องเพลงแบบจิตอาสา ใจรักว่างั้นเถอะ  นอกจากนี้ผมยังเป็นจิตอาสาของรพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 บางลี่เรียกว่า ชมรมจิตอาสาพาเพลิน  และที่อื่นๆอีก” เฮียกิมเลี้ยงเป็นจิตอาสาที่ไปแทบทุกเวที เพลงที่ชอบร้องก็เป็นเพลงลูกทุ่งเสียเป็นส่วนใหญ่   

            คงศักดิ์ ฉิมวารี  อายุ 60 ปี อาชีพทำไร่อ้อย  “ผมป่วยเป็นต่อมลูกหมากโต ก็มารักษาที่ รพ.กำแพงแสนนี่แหละครับ มาเห็นเพื่อนๆพี่ๆเขาตั้งวงร้องคาราโอเกะ รอรับบริจาค ก็สนใจเพราะชอบร้องเพลงอยู่แล้ว  แม่บ้านผมก็ชอบฟัง ตกลงเราก็เลยมาร่วมเป็นจิตอาสาอีกคู่หนึ่ง ว่ากันตามความจริง ผมมาใช้บริการโรงพยาบาลนี้ก็ฟรี”

            “ผมตัดสินใจเข้ามาสอบถามและขอเป็นจิตอาสาด้วยอีกคนหนึ่ง ได้ร้องเพลงร่วมสมัยกับพี่ๆ บ้านผมก็อยู่ใกล้ๆนี่เองครับ  ไปมาสะดวกและไม่ได้สิ้นเปลืองอะไร หยอดตู้บริจาคครับ ซื้อของว่างมานั่งกินด้วยกัน  และที่ผมมาร้องนี่ก็ไม่ได้คาดหวังสิ่งใด อยากตอบแทนโรงพยาบาลด้วย เมียผมเหรอ ตามมาดูแลทุกครั้ง ชอบและไปไหนไปด้วยกันครับ”    

            นางกำไล  เมืองนก  “หนูอายุ 40 ปี บ้านทุ่งบัว อาชีพค้าขายและรับจ้างร้องเพลงตามงาน  มีลูก 2 คน เสียชีวิตไป 1 คน หย่าร้างค่ะ เครียด เป็นโรคซึมเศร้า นอนไม่หลับ ก็มารักษาตัวที่โรงพยาบาลกำแพงแสนค่ะ ทุก 2 เดือนก็มารับการตรวจรักษา  ได้เห็นจิตอาสาคาราโอเกะ ก็เลยอยากเป็นจิตอาสาด้วย แต่ก็ไม่กล้า”

            “หนูเคยรับจ้างร้องเพลงตามงานบวชงานแต่ง พี่ๆสามล้อที่โรงพยาบาลเคยเห็น ก็จ้างหนู 50 บาทมั้ง 100 มั้งให้ขึ้นมาร้องเพลงให้ฟัง แต่เงินที่ได้ หนูก็หยอดลงตู้ไปหมดแหละค่ะ  ตอนหลังนี่ หนูขอร่วมร้องจิตอาสาด้วยตนเอง  มาร้องช่วงมารอรับยา  3-4 ชมก็จะต้องกลับไปดูพ่อที่บ้าน  ตั้งแต่ได้มาร้องจิตอาสา หนูนอนหลับ สบายใจมากขึ้น และมีความสุขมากเลย “

               นำชัย จิระอรุณ  เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการ โชคแสนชัย-โชคอรุณ เฟอร์นิเจอร์ตลาดกำแพงแสน  “ผมอายุ 77ปี ผมยกกิจการให้ลูกๆทำหมดแล้ว ว่างมาก แต่ผมชอบฟังเพลงมาแต่หนุ่มๆ ก็เลยตระเวนไปหาร้องคาราโอเกะตามร้านที่เปิดบริการ  เพลงละ 10 บาท 12 เพลง 100 ที่นครปฐม  บิ๊กซี บ้านโป่ง  แถวบ้านทัพหลวง  ปักหลักร้องที่ชมรม มก.อาวุโส คาราโอเกะ  ไปกระทั่ง ชมรมเพื่อนและเพลง ที่ศาลเจ้าสุพรรณบุรี  รพ.สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 บางลี่  ฯลฯ ไปกับเพื่อน ๆ ที่มีเวลาว่างๆ  อ๋อ การพักผ่อนนี่ ไปร้องคาราโอเกะประหยัดที่สุดครับ”

            “ผมไปร้องที่ไหนก็หยอดตู้ตั้งแต่ 20 บาทขึ้นไปจนถึง 500 บาท ตามแต่โอกาส อ้อ ในสัปดาห์หนึ่ง 7 วัน ผมไปร้องคาราโอเกะ 5 วัน แก่แล้วไม่รู้จะไปไหน อยู่บ้านก็เหงา มาพบเพื่อนฝูงแก่ๆด้วยกัน ได้พูดคุย ได้หยอกล้อกัน แล้วก็ได้ร้องเพลงที่ชื่นชอบ ผมร้องหมดแหละครับ ลูกกรุง ลูกทุ่งรุ่นเก่าและลูกทุ่งกึ่งสติง สบายใจดีครับ  พอพรรคพวกมาเป็นจิตอาสา ผมก็มาร่วมด้วยช่วยกันครับ”

            สาโรจน์ จงเพิ่มวัฒนผล  เสี่ยใหญ่เจ้าของกิจการพันล้าน อายุ 72 ปี “ผมยกกิจการให้ลูกๆหมดแล้ว ก็เลยว่าง ได้เฮียนำชัยนี่แหละชวนกันไปร้องคาราโอเกะที่ต่างๆ  ผมชอบร้องเพลงของ สมยศ ชรินทร์ ทูล ก็จะร้องแต่เพลงเดิมๆ  แล้วก็ได้นั่งพูดคุยกันไปตามประสาคนสูงวัย  ใครมีอะไรก็หยิบติดมือมานั่งกินด้วยกัน ไปร้องที่ชมรมไหนก็หยอดตู้บริจาค 20 บาทขึ้นไป จนถึง 9000 บาท”

            “เฮียนำชัยไปร้องที่ไหน ชวนผมไปก็ได้ไปเป็นเพื่อนกัน บางหลวง บางลี่ นครปฐม บ้านโป่ง สุพรรณบุรี ฯลฯ  ไปร้องที่ไหนหากเป็นจิตอาสาก็หยอดตู้สะสมบุญ ไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ  ที่บริจาค 9,000 บาทนั้นเน้นเลข เก้า ซึ่งผมถือว่าเป็นเลขมงคลของในหลวง”

            เรือง รุผักชี  “ผมอายุ 75 ปี เคยรับราชการเป็นครู เออรี่รีไทม์ แล้ว อยู่บ้านหมู่ 4 บ้านวังสระกลัด  ต.รางพิกุล อ.กำแพงแสน ห่างจากโรงพยาบาลกว่า 20 กม.แต่ไม่รู้สึกไกล  ไปมาก็ขับรถบ้างให้ลูกมาส่งบ้าง มาแต่ละครั้งก็หยอดตู้บริจาค 20 บาทขึ้นไป อ้อ ผมชอบร้องเพลงมากครับ ที่มาสมัครเป็นจิตอาสานี่ก็เพราะศรัทธา และอยากช่วยหาทุนให้กับโรงพยาบาลของเรา”

            “ผมก็ป่วยเป็นโรคเบาหวาน มารักษาที่นี่เหมือนกัน พอได้ร่วมเป็นจิตอาสาคาราโอเกะ เพื่อรพ.กำแพงแสน รู้สึกเป็นหน้าที่ มีความสุขที่จะได้มาตามกำหนดเวลา ข้อสำคัญทั้งเมียทั้งลูกๆชอบที่พ่อมาทำหน้าที่เพื่อสังคมครับ”

            บุญเตือน บุญวงษ์  “หนูเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านวัดกำแพงแสน ต.ห้วยหมอนทอง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม อายุ 53 ปีค่ะ หนูชอบเสียงเพลงลูกทุ่งอยู่แล้ว พอได้มาร่วมชมรมจิตอาสาเพื่อโรงพยาบาลของเราก็ชวนเพื่อนๆมาช่วยกัน หยอดตู้ทุกครั้งค่ะ บางวันก็ทำกับข้าวมาเผื่อเพื่อนๆ ได้นั่งกินด้วยกัน พูดคุยสัพเพเหระ  แต่อยู่ในกรอบของสถานะเพื่อนๆร่วมอุดมการณ์ค่ะ ไม่มีเรื่องชู้สาวค่ะ”

            “ถ้าหมดหน้าที่จิตอาสาที่นี่ก็จะไปร้องแถว บางลี่ ทุ่งคอก บางหลวง บ้านโป่ง โพธาราม อู่ทอง ม.เกษตร กำแพงแสน และไปจนถึง บ้านเพื่อนเพลงที่นพวงศ์  อาชีพอิสระ เป็นเจ้าของตลาดนัดค่ะ”

            ลัดดา เรือนมูล “หนูอายุ 63 ปี เป็นผู้สูงอายุอยู่กับบ้านเฉยๆแล้วค่ะ บ้านอยู่ในเขตเทศบาลกำแพงแสน ใช้บริการโรงพยาบาลกำแพงแสนด้วย ชอบร้องเพลงมาแต่เด็กๆ เป็นอาชีพร้องเพลงตลอดมา  รายได้ ลูกเลี้ยงแล้วค่ะ เริ่มมาทำหน้าที่จิตอาสาเมื่อต้นเดือนมีนาคม 2561  โครงการสร้างสรรค์ปันน้ำใจ ร่วมกับสามี ชัย ดวงจินดา ค่ะ “

            “หนูมาร้องเพลงจิตอาสานี่ ได้ทั้งร้องและเต้นออกกำลังกายไปตลอดเวลา 09.00-14.00 น.แม้จะแค่สัปดาห์ละ 2 วัน แต่ก็ได้เคลื่อนไหวร่างกายตลอด  ร้องเพลงลูกทุ่งค่ะ ชอบเป็นชีวิตจิตใจ  คิดว่าได้ร่วมเป็นสะพานบุญให้ผู้มีจิตเมตตามาหยอดตู้สะสมเงินสมทบให้กับโรงพยาบาล เพื่อใช้ประโยชน์แก่ผู้ป่วยผู้ยากไร้ทั่วไปค่ะ  เชื่อว่าทำอย่างนี้ ได้บุญแน่นอนค่ะ”

          ธนภพ อภินันท์ธนากร อายุ 55 ปี บ้านทุ่งบัว บจก.สมปองค้าไม้ โทร.081-8661879  ริมถนนสายกำแพงแสน-พนมทวน  เล่าว่า ผมชอบร้องเพลงแต่เด็กๆ ร้องได้ทุกประเภท แทบจะทุกเพลง กระทั่งเพลงฝรั่ง ผมจึงอยากมาร่วมกับจิตอาสา และเห็นว่าเวทีที่ใช้จะพังไม่พังพอๆกันก็เลยทำมาให้ใหม่เป็นไม้สักปลูกที่โรงงานผมซื้อมามากมาย  และตู้กึ่งโต๊ะใส่เครื่องเสียง กิจการของผมแรกทีเดียวก็หัดทำทอง แต่เพิ่งจะมาทำโรงเลื่อยไม้ป่าปลูกเมื่อไม่กี่ปีมานี้

            สานนท์ ชัยธวัช อายุ 67 ปี บ้านจอมทอง อ.บางเลน จากบ้าน 21 กม. ไม่ไกลเพราะใจชอบร้องเพลง มันคลายเครียด ก็ร้องไปทั่ว รพ.บางเลน เพื่อนเพลงนพวงศ์ มาที่นี่เพราะเห็นว่าเป็นการร้องเพลงเพื่อให้มีคนที่มารพ.ร่วมบริจาคสมทบเงินเข้ารพ.โอย ครอบครัวผมเห็นด้วย วันๆผมก็ไม่ได้หมดเปลืองอะไรมาก แค่วันละ 100 กว่าบาท และก็ไม่ได้มาทุกวัน สัปดาห์ละ 2 วันแค่นั้นเอง  แนวเพลง สุเทพ ธานินทร์ ชรินทร์ เป็นหลักครับ

            สุธรรม กำแพงแก้ว อายุ 79 ปี อดีตครู บ้านอ้อกระทิง ต.ทุ่งลูกนก อ.กำแพงแสน "ผมขับมอเตอร์ไซต์มาทุกวันที่มี ราวๆ 18 กม.ไปกลับก็แค่นั้นแหละไม่รู้สึกว่าไกลเลย ผมแก่แล้วแต่ชอบร้องเพลงมาก ยิ่งร้องแล้วได้ประโยชน์ให้กับ โรงพยาบาลของเราด้วยแล้ว เต็มใจมากครับ แถมได้พบปะเพื่อน ๆ ร่วมชมรม ประโยชน์ที่เห็นคือได้ทั้งส่วนรวมและความสุขใจส่วนตัว"  คุณพี่สุธรรมเป็นเพื่อนร่วมชมรมที่อาวุโสสูงสุด แต่สม่ำเสมอที่สุดคนหนึ่งทีเดียว

          เขษมศักดิ์ มลจันทะสมบัติ อายุ 54 ปี หนุ่มโสดสูงวัย บ้านลาดหญ้าไทร ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน "ผมได้ยินข่าวเรื่องชมรมนี้จากเพื่อนบ้าน ชอบมาก คิดว่าน่าจะมีความสุขกับพี่น้องทุกท่าน มีอิสระ ทำให้โอกาสเป็นของตนเองมากขึ้น  ตั้งใจว่าจะมาทุกวันที่เปิดเวที เพื่อรพ.กำแพงแสนของเราครับ"

            ร.อ.ต.ศักดิ์สิชล มีโชค  อายุ 64 ปี บ้านฐานบิน ต.กะตีบ อ.กำแพงแสน "เดิมผมทำหน้าที่เป็นนักร้องนำวงของฐานบินกำแพงแสน หลังเกษียนก็ชอบร้องและรับงานจ้าง ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ครอบครัวสนับสนุน ยิ่งมาร้องเพื่อหาทุนสมทบให้กับรพ.กำแพงแสน ยิ่งได้ประโยชน์ เป็นการอุทิศให้ทุกคนมีความสุข ได้ประโยชน์ อุดมคติคือจะยึดถือสิ่งที่ถูกต้อง จะไม่ยึดสิ่งที่ถูกใจ  ปรบมิอเลย จิตอาสาพันธุ์แท้

            วีรชัย เรืองศรี อายุ 64 ปี บ้านกำแพงแสน ต.ทุ่งขวาง อ.กำแพงแสน  "ครอบครัวมีกิจการเครื่องเสียงรับงานทำให้มีเวลาไม่มากนัก แต่อยากจะบริจาคเวลาที่เหลือให้เกิดประโยชน์ แก่โรงพยาบาล เพื่อสุขภาพตัวเอง แถมได้บุญกุศล  สะสมบุญนั่นแหละครับ  ผมมาร่วมกับอาจารย์ชัยตั้งแต่โครงการแรก ตั้งใจว่าจะทำจิตอาสานี้ตลอดไป"  

            ปรีชา  โสภากุล  หนุ่มลูกสอง ชอบร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ร้องได้ทุกสไตล์ของนักร้องลูกทุ่ง ด้วยลีลาสนุกสนาน คร่ำครวญชวนสงสาร โดยมีเมียและลูกมาเฝ้ารอรับกลับบ้านทุกครั้ง  ถามว่าร้องเก่งมากทำไมไม่ไปแข่งไมค์ทองคำ ก็ได้รับคำตอบว่า ไม่มีตังส์ค่ารถ แต่มาร้องจิตอาสา รพ.กำแพงแสน ขับมอเตอร์ไซต์พ่วงข้างของครอบครัวมาได้ 

            คุณ ศิริเพ็ญ เลาหบุตร พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลกำแพงแสน เล่าว่า โรงพยาบาลกำแพงแสนมีสมาชิกผู้สูงอายุ 753 คน  15 ตำบล ปัจจุบันกระจายความรับผิดชอบให้แต่ละโรงพยาบาลชุมชนต่างๆ เพื่อจะได้เข้าไปดูแลผู้สูงอายุได้อย่างใกล้ชิดมากขึ้น  กลุ่มจิตอาสาที่ร้องคาราโอเกะนี้ ครั้งแรก ได้เงินบริจาค 100,000 บาท หลังจากนั้นก็ได้เงินดังนี้คือ 60,000 บาท 25,500 บาท สจ.ปัญญวัฒน์ คชศิลา บริจาค 10,000 บาท คุณสาโรจน์ จงเพิ่มวัฒนผล บริจาค 9,000 บาท รวมได้เงิยสมทบให้กับโรงพยาบาลแล้ว 214,000 บาท ค่ะ”

            นพ.ณัฏฐิคเณศ คงคาเพชร รก.ผอ.รพ.กำแพงแสน และคณะรับมอบเงิยบริจาคจากท่าน สจ.หนุ่ม ปัญญวัฒน์ คชศิลา  เป็นเงิน 10,000 บาท และบริจาคสมทบตู้น้ำร้อนน้ำเย็นอัตโนมัติให้คนไข้บนตึกรพ.ได้ดื่มอีก 20,000 บาท แถมด้วยการร้องเพลงกับภรรยาให้พี่น้องผองจิตอาสาและญาติผู้มาโรงพยาบาลอีก 2 เพลง  ขอให้บุญกุศลส่งให้ท่านได้ดังปรารถนาจงทุกประการเทอญ 

 

 

           ผมเดินสอบถามแม่ค้าขายขนมครก กล้วยปิ้ง ผักถุง กล้วยแขก ผลไม้ ลูกชิ้นทอด ว่ารำคาญเสียงร้องเพลงของเหล่าจิตอาสาไหม ได้รับคำตอบว่า วันไหนไม่ได้ยินเสียงเพลง รู้สึกเหงาๆ ขายสินค้าได้น้อยลง  ผมเดินไปนั่งในห้องโถงของโรงพยาบาล ซึ่งปัจจุบันนี้ ปิดกระจกมิดชิดติดแอร์บริการคนไข้อย่างดีเยี่ยม ได้ยินเสียงเพลงแค่แว่วๆแผ่วๆ เสียงดนตรีและเสียงนักร้องไม่ได้รบกวนคนไข้ที่มารอรักษาแต่อย่างใด 

            ปัจจุบันนี้ เปิดวงดนตรีคาราโอเกะ เฉพาะวันพุธและวันพฤหัสบดี ตั้งแต่เวลา 09.00-14.00 น. โดยอาจารย์ชัย นาคทองดี และเพื่อน สว.ที่สมัครใจมาช่วยกันทุกวันทำการ  กาน้ำร้อน แก้วกระดาษ น้ำดื่ม น้ำต้มในกา กาแฟแบบผสมและกาแฟแบบไม่ผสม สมาชิกช่วยกันซื้อหามารวมกันไว้   โดยไม่ได้เบิกจากกองทุนบริจาคหรือรบกวนใครคนใดคนหนึ่ง 

            ระหว่างที่ได้พบปะกันนั้น ใครอยากกินขนมครก กล้วยปิ้ง กล้วยแขก ลูกชิ้นทอด ผลไม้ เท่าที่มีขายอยู่หน้าโรงพยาบาล ก็หาซื้อกันมากิน ตามชอบ  ใครไม่อยากกินก็ไม่มีใครว่า จะหยอดตู้บริจาคหรือไม่ก็ไม่มีระบบหรือระเบียบเข้มงวดแต่อย่างใด  กลุ่มจิตอาสาของเราไม่เครียดกับกติกามากนัก สบายๆให้ไม่ต้องกังวลจนเป็นทุกข์

            ครั้นร้องๆกันไป ก็ไม่ได้ให้สิทธิพิเศษแก่ใครคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษ ไม่เลือกเศรษฐีร้อยล้านหรือเกษตรกรชราๆ เพราะที่นี่ ทุกคนถอดหัวโขนออกหมดแล้ว  มีแต่เพื่อนร่วมกลุ่มจิตอาสา สถานะเท่าเทียมกัน ใครมาก่อนร้องเพลงก่อน คนไหนมาช้าก็แซงคิวไม่ได้  ถ้าสมาชิกมาเกิน 10 คนขึ้นไป อาจารย์ชัยผู้คีย์เพลงก็จะปรับคิวจากคนละ 2 เพลงเหลือคนละเพลงเดียว เพื่อให้เหมาะสมยิ่งขึ้น

            มื้อเที่ยง ใครหิวก็เดินไปหาซื้อกินเองจากร้านสวัสดิการของโรงพยาบาล  หรือถ้าเข้าเทศกาลกินเจจะออกไปกินที่ศาลาประชาคมของตลาดกำแพงแสนก็ไปกัน กลุ่มใครกลุ่มมัน    สำหรับเพื่อนบางคน ไม่กินมื้อเที่ยง ก็ไม่มีใครว่าอะไร พฤติกรรมการมีส่วนร่วมกลุ่มจิตอาสาเช่นนี้ จึงทำกันด้วยใจ ไม่ใช่ด้วยสถานะทางสังคม ฐานะทางเศรษฐกิจ หรือหน้าที่ในระบบราชการ                       

            “ทุกคนเป็นจิตอาสาคาราโอเกะเพื่อรพ.กำแพงแสน เท่าเทียมกัน”