ไปไหว้พระพุทธรูปแกะสลักผนังหินแห่งที่3 ของโลกที่สุพรรณบุรี
หลวงพ่ออู่ทอง
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
วัดป่าเลไลยก์ ต้นธารการประชาสัมพันธ์
เมื่อแนวคิดการสร้างพุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรีเกิดขึ้น ณ วัดเขาทำเทียม เทือกเขาทางทิศตะวันตกเมืองอู่ทอง และจะสลักพระพุทธรูปางโปรดพุทธมารดา ให้ชื่อว่า พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ เป็นพระพุทธรูปสลักบนผนังหินแห่งที่ 3 ของโลก จึงได้จำลองรูปพระขนาดย่อมมาตั้งโชว์หน้าวัดป่าเลไลยก์ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี
เพราะพุทธศาสนิกชนคนพุทธนั้นหากได้เยี่ยมกรายเข้ามาถึงจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วไซร้ จะละเลยไม่ไปกราบไหว้หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์นั้นไม่มี ด้วยว่าเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่ว่ากันว่ามีอายุยาวนานมากกว่า 1,200 ปี ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน องค์พระปางพระทับนั่งห้อยพระบาท สูง 2747 เมตร ปัจจุบันครอบด้วยหลังคางดงาม
ครั้นเห็นว่าจะมีการสลักหน้าผาหินด้วยรูปพระพุทธรูปปางโปรดพุทธมารดา องค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 25 เมตรสูง 35 เมตร ท้าทายในใจชาวพุทธแน่นอนว่า จะออกมารูปแบบใด จะเหมือนพระพุทธรูปที่บามิยัน ประเทศอัฟกานิสถาน หรือที่เลอซาน ประเทศจีนไหม
“เมืองสุพรรณบุรีไม่มีทรัพยากรท่องเที่ยวทางธรรมชาติ จึงต้องสร้างทรัพยากรท่องเที่ยวขึ้นใหม่”
อดีต นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 นายบรรหาร ศิลปะอาชา ได้เคยกล่าวไว้ เช่นเดียวกับหอนาฬิกา มังกรยักษ์ที่ศาลหลักเมือง
เมืองโบราณอู่ทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง
อู่ทองเป็นเมืองโบราณในอดีตยุคทวารวดี เชิญเข้าชมหลักฐานและวัตถุโบราณได้ในพิพิธภัณฑสถาน ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกัน แล้วทำไมจึงคิดว่า เขาทำเทียมเป็นเมืองโบราณอู่ทอง ก็เพราะว่ากรมศิลปากรได้ขุดค้นพบ หมายเลข 11 และ 12 คือเสมาธรรมจักรและเสาฐานพระพุทธรูปปางแสดงธรรม 4 องค์
อีกทั้งยังพบว่า ศิลาจารึกภาษาสันสกฤตโบราณว่า ปุษยคีรี ซึ่งแปลว่า ภูเขาและดอกไม้ แถมพบโบราณวัตถุสมัยทวารวดีจนถึงยุคอยุธยา ถือได้ว่า ปุษยคีรีคือสัญลักษณ์การเผยแพร่พระศาสนาพุทธสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช สันนิษฐานว่า วัดเขาทำเทียมเป็นร่องรอยการเผยแพร่พุทธศาสนาแห่งแรกในสุวรรณภูมิ
พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ณ วัดเขาทำเทียม
จังหวัดสุพรรณบุรีจึงเสนอให้ตั้งเป็น พุทธมณฑลประจำจังหวัดสุพรรณบุรี ที่วัดเขาทำเทียม บนพื้นที่วัด 39 ไร่ ป่าไม้ 140 ไร่ และยกเลิกสัมปทานเหมืองหินเก่าและยุติการระเบิดย่อยหินเทือกเขาแห่งนี้ตลอดไป ด้วยพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ปางโปรดพุทธมารดา ขนาดหน้าตกกว้าง 25 เมตร สูง 35 เมตร
เจาะอุโมงค์หลังองค์พระเพื่อประดิษฐานสิ่งอันควรกราบไหว้ แกะสลักหน้าผาส่วนอื่นๆเป็นพระพุทธรูปเพิ่มขึ้นๆ ตกแต่งพื้นที่เป็นอาคารขายของที่ระลึก ร้านอาหาร สุขาชายหญิง แปลงดอกไม้ประดับสวยงาม น้ำตกเทียม กระทั่งหลุมลึกเป็นสระเลี้ยงปลามากมาย ศาลท้าวเวสสุวรรณ โรงเจศาลเจ้าจีน ฯลฯ
ทรัพยากรท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น
ผนังหินกว้างใหญ่ไพศาล สลักเป็นพระพุทธรูปองค์โต ปางโปรดพุทธมารดา ตระหว่านบนกำแพงหินขนาดกว้างใหญ่ ด้วยนิสัยของพี่น้องชาวพุทธนั้น หากมีสิ่งประดิษฐ์ใดละม้ายคล้ายพระพุทธรูปแล้วไซร้ ย่อมกราบไหว้สนิทใจ สมญา “หลวงพ่ออู่ทอง” จะถูกกล่าวขวัญถึงตลอดไป และพึงระลึกถึงด้วยว่า หากปล่อยให้การระเบิดย่อยหินทำลายโบราณสถานๆย่อมเสื่อม และสูญสลายหายไป
หลวงพ่ออู่ทอง จะกลายเป็นทรัพยากรท่องเที่ยวอุบัติใหม่ที่ได้รับการยอมรับในชั่วเวลาไม่นาน จะเป็นพระพุทธรูปที่ได้รับการกราบไหว้ไม่น้อยไปกว่าพระพุทธรูปองค์ใดๆ เมื่อสร้างเสร็จสมบูรณ์ ผมเชื่อว่าจะต้องมีงานใหญ่ “เบิกเนตรพระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ” ตามพุทธนิยมอย่างแน่นอน
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯถึงจังหวัดสุพรรณบุรี ถนนสีเลน มาลัยแมนไปอำเภออู่ทอง ผ่านพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง แวะเข้าไปศึกษาและเรียนรู้ ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง มื้อเที่ยง ตลาดอู่ทอง มีอาหารหลากหลายให้เลือกได้ แล้วต่อถนนลาดยางสองเลนเข้าไปยังเมืองโบราณอู่ทอง เลาะเลียบไปถึง พระพุทธรูปปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ ได้ไม่ยากเลย ระยะทางไม่เกิน 150 กม.
จากกรุงเทพไปนครปฐม ไหว้องค์พระเจดีย์ แล้วเดินทางต่อไปตามถนนมาลัยแทน ผ่านอำเภอกำแพงแสน ไปถึงอำเภออู่ทอง พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอู่ทอง มื้อเที่ยงในตลาดอู่ทอง และเข้าถึงเมืองโบราณอู่ทองได้ด้วยถนนลาดยาง จนถึงองค์พระแกะสลักบนหน้าผาหินกว้างใหญ่ไพศาล ระยะทาง 150 กม.ปางโปรดพุทธมารดา
ประสานการเดินทาง ททท.สุพรรณบุรี โทร.035-525880หรือ พื้นที่พิเศษเมืองอู่ทอง 6 โทร.035-565562
กำลังแกะสลักพระเพิ่ม
#thongthailand.com
#ท่องไทยแลนด์ดอทคอม
#TAT.SUPUNBURI
#dasta.or.th7
#dasta.or.th6
#dasta.or.th
#ATTA
#ADT