พม่าไม่ไปไม่รู้18
อรุณสวัสดิ์ย่างกุ้ง กับสามล้อพม่า ประทับใจปิ่นโต
“เอื้อยนาง”
เช้าตรู่วันนั้น ฉันสะดุ้งตื่นจากความฝัน ลุกขึ้นมากล่าวอรุณสวัสดิ์ ย่างกุ้ง
ฉันอยากจะเดินช้า ๆ ก้าวไปแต่ไม่รู้จุดหมาย บนถนนอันว่างเปล่าของนครย่างกุ้งที่ทอดยาวผ่านหน้าโรงแรมที่พัก ที่ชื่อ โรงแรม Trader พระอาทิตย์เพิ่งจะแง้มหน้าต่างโลก สาดแสงส่องต้องกลุ่มเมฆสีเทา ๆ เป็นสีส้ม ชมพู ดูประหลาดลึกลับในความรู้สึก
ตึกสีชมพูสูงเด่นอมยิ้มเป็นนัย ๆ อยู่ฝั่งตรงกันข้ามท่ามกลางอาคารสูงต่ำทั้งเก่า และใหม่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ คล้ายคนครึ่งหลับครึ่งตื่น
อรุณสวัสดิ์ย่างกุ้ง
แขกอื่น ๆ ของโรงแรม รวมทั้งเพื่อนพ้องน้องพี่ชาวคณะยังคงหลับเป็นสุขอยู่ในเตียงนุ่ม แต่พนักงานของโรงแรมยังทำหน้าที่กันแข็งขัน ฉันเดินผ่านคนที่ยืนโค้งให้ที่หน้าประตู เดินออกสู่ถนนด้านหน้าเพียงเดียวดายขณะฟ้ากำลังไขแสง
คนมีนิสัยตื่นเช้าก็เป็นอย่างนี้ ตื่นขึ้นมาขณะคนอื่นยังหลับใหล ก็จึงต้องออกไปที่ใด ๆ ในตอนเช้า ๆ อย่างเดียวดาย ชินเสียแล้ว จึงไม่คอยใคร ๆ ให้เป็นกังวล เช้า ๆ อย่างนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดิน หรือวิ่งเหยาะ ๆ กล่าวอรุณสวัสดิ์กับพระอาทิตย์แรกขึ้นกับสถานที่แปลกและแตกต่าง เคยทำมาเป็นประจำอยู่แล้ว (แต่ที่ทำไม่ได้คือที่กรุงเทพฯเมืองฟ้าอมรของเรา เพราะขี้หมาเยอะมาก...จริง ๆ นะ)
ฉันอยากจะเดินช้า ๆ ไปตามถนนอันว่างเปล่า ตามหาสถานที่บางแห่งที่เห็นในความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา
ท่ามกลางความแปลก ๆ หลากหลายของสถาปัตยกรรมในนครกลางเก่ากลางใหม่แห่งนี้ ที่มียอดเจดีย์สีทองสูงเด่นเหมือนผุดขึ้นมาจากหมู่แมกไม้ อาคารสถาปัตยกรรมยุคอาณานิคมที่เก่าคร่ำ เรียงรายในขณะอาคารใหม่แห่งยุคสมัยก็กำลังผุดโผล่ แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าจุดหมายของฉันอยู่ที่ใดในนครอันน่าพิศวงแห่งนี้
เสน่ห์จริง ๆ ของย่างกุ้งยามนี้คือความเงียบสงบ นาน ๆ จะมีรถวิ่งผ่านไปสักคันหนึ่ง ถนนว่างเปล่าในยามรุ่งรางนาน ๆ จะมีคนผู้นุ่งโสร่งก้าวยาว ๆ ข้ามไปมาให้เห็น
ฟ้าสว่างมากขึ้นเมื่อฉันเดินเก้กังบนถนนเยื้องจากหน้าโรงแรม มีสายตาของคนที่หน้าประตูสองสามคู่มองตามอยู่เงียบ ๆ คล้ายเป็นห่วงกังวล คล้ายหวาดระแวง ความเงียบของย่างกุ้งคล้ายแฝงอยู่ด้วยความอึกทึกภายในที่ใครหยั่งไม่ถึง ทำให้ความรู้สึกที่อยากเดินช้า ๆ ไปอย่างไร้จุดหมายของฉันเหมือนถูกฉุดดึง จึงได้แต่เก้ ๆ กัง ๆ หันรีหันขวาง จนกระทั่งกลุ่มสามล้อที่คอยผู้โดยสารอยู่ใต้ต้นไม้ เยื้อง ๆ ออกไปเห็นเข้าและพากันมารุมล้อมไถ่ถาม
ด้วยภาษาอังกฤษงู ๆ ปลา ๆ เช่นกันทั้งฉันและพวกเขาก็พอสื่อสารกันได้รู้เรื่องแต่ฉันก็บอกออกไปไม่ถูกว่าฉันอยากไปที่ไหน
ฉันรู้จักย่างกุ้งมามากมายจากการอ่านก็จริง แต่ไม่ใช่สิ่งที่ปรากฏในความฝันเมื่อคืนที่ผ่านมา แม้มันจะชัดเจนราวกับเรื่องจริงแต่ทุกสิ่งก็หายไปเมื่อตื่นขึ้น มันคงเป็นเรื่องราวในหนังสือ ในประวัติศาสตร์ที่ฝังแน่นในจิตใจ ในตำนานของคุณติ๊กที่ได้ฟังอยู่แจ้ว ๆ ตลอดการเดินทางสองวันที่ผ่านมา ผสานกับจินตนาการของตนเองในเวลาที่ได้มาสัมผัสย่างกุ้งครั้งแรกในชีวิตก็ได้ ที่ก่อกันเป็นรูปร่าง เรื่องราวในความฝัน
ฉันรู้ แต่กระนั้นฉันก็ยังอยากก้าวเดินไปช้า ๆ สอดส่ายสายตาหาสถานที่และบุคคลที่แจ่มชัดในความฝัน ที่คล้ายกับจะเป็นชุมชนโบราณของไทย
“ฉันพาคุณไปได้ทุกที่”
สามล้อหน้าซื่อแต่ตาเป็นประกายน้ำเสียงกระตือรือร้นบอกเล่าจริงจัง แต่ฉันกลับลังเลและหวาดหวั่น จะความปลอดภัยไหม
ในที่สุดฉันก็เดินกลับมาที่หน้าโรงแรม บอกพนักงานที่คอยบริการอยู่ตรงนั้นว่าอยากนั่งสามล้อไปเที่ยวดูย่างกุ้งและกลับมาภายในหนึ่งชั่วโมง
“ได้ครับ สามล้อเหล่านี้คุ้นเคยกับที่นี่ดีทุกคน รับรองไปกับเขาได้อย่างสบายใจ เดี๋ยวผมจะเจรจาให้นะครับ”
นั่นแล้ว ฉันจึงได้นั่งสามล้อเที่ยวกล่าวอรุณสวัสดิ์กับย่างกุ้งได้อย่างสบายใจในเช้าวันนั้น เป็นเช้าตรู่แห่งเดือนตุลาคม ๕๓ ขณะฟ้าสาดแสงสีทองลงมาย้อมย่างกุ้งให้เย้ายวนใจ
เมืองย่างกุ้งที่พระเจ้าอลองพญาทรงยึดเอามาจากชาวมอญเมื่อ พ.ศ. ๒๒๙๘ ช่วงปลายสมัยอยุธยานั้นเป็นเพียงหมู่บ้านชาวประมงตั้งอยู่รายล้อมองค์พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากอง ตั้งอยู่ในทำเลที่เป็นที่บรรจบของแม่น้ำย่างกุ้ง แม่น้ำพะโค และลำน้ำปาซันดอง เมืองย่างกุ้งขยายใหญ่โตขึ้นเมื่อเมืองสิเรียมถูกทำลายลง และกลายมาเป็นเมืองหลวงของพม่าในสมัยอังกฤษเข้าปกครอง ทำให้ย่างกุ้งขยายขึ้นทุกด้าน เป็นทั้งศูนย์การค้า การอุตสาหกรรม และการศึกษาของประเทศ อังกฤษได้จัดวางผังเมืองอย่างเป็นแบบแผน มีศูนย์การค้า การศึกษา และสวนสาธารณะ
ว่ากันว่าย่างกุ้งเป็นเมืองแห่งสวนสาธารณะ ซึ่งมีอยู่กว่าสิบแห่ง ทำให้ย่างกุ้งเขียวสดชื่นด้วยแมกไม้ในสวน เป็นที่น่าอิจฉาเพราะเห็นชาวพม่าทั้งครอบครัวไม่ว่าเด็ก ผู้ใหญ่ หญิงชายมักไปพักผ่อนกันเป็นกลุ่มตามสวน ซึ่งมีทั้งที่โล่ง ใต้ต้นไม้ ในศาลาที่พักกลางสวนกลางทะเลสาบ เช่น สวนสาธารณมหาบัณฑุละ สวนสารธารณโบซ่กอองซาน สวนอุทยานเพาะพันธุ์ไม้ สวนสัตว์ เป็นต้น
“ไปตามถนนนี้แหละแล้วเลี้ยวขวา เลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวา...”
ฉันบอกสารถี เขาทำหน้างง ๆ แต่ก็ยังยิ้ม
“เอาเป็นว่าไปที่ไหนก็ได้ที่น่าสนใจ ไปแบบช้า ๆ ให้เวลาฉันลงไปถ่ายรูปตามที่ต้องการ และกลับมาที่นี่ภายในหนึ่งชั่วโมงนะจ๊ะ”
แล้วสามล้อก็พาฉันเลี้ยวไปตามถนนในย่างกุ้งตั้งแต่รุ่งอรุณจนแดดเริ่มจ้าแจ่ม ชาวย่างกุ้งคงตื่นสายเพราะถนนยังว่างเปล่า ที่มีก็เห็นจอดนิ่งคงนอนรอเจ้าของ แม่ค้าขายอาหารเห็นมีอยู่หน่อยตรงมุมถนน บ้างเพิ่งก่อไฟควันโขมง เจ้าปาท่องโก๋นั้นทอดเสร็จแล้ว ล้วนตัวใหญ่เท่าแขนเด็กนอนเรียงกันอยู่ในตะกร้า
หยุด ๆ ๆ... ฉันสั่งสามล้อเสียงระรัวที่มุมถนนแห่งหนึ่ง
“เงียบ ๆ เลยนะฉันจะถ่ายรูปนก”
ฉันเผลอบอกเป็นภาษาไทยซึ่งพ่อสามล้อก็เข้าใจด้วยเห็นอาการกระวีกระวาดชี้มือชี้ไม้พลางยกกล้องของฉัน
นกอะไรมีมากมายส่งเสียงจิ๊บๆ จ๊าบ ๆ เจี๊ยวจ๊าวไปหมด ทำให้นึกถึงการประชุมสภาของประเทศแห่งตนขึ้นทันใดเชียวหละ อย่างนี้ต้องเก็บภาพไว้ทันที แต่ที่ได้รูปมาก็มืด ๆ มัว ๆ ค่ะ ต้องโทษแสง และมุมที่ถ่ายละ
อรุณสวัสดิ์ย่างกุ้ง
กลับมาถึงหน้าโรงแรม ก่อนเวลานัดของชาวคณะ จึงยังอ้อยอิ่งอยู่ข้างถนน ดูผู้คนเดินผ่านไปมา ซึ่งเริ่มมีมากขึ้นเพราะได้เวลาออกทำมาหากินของผู้คนทั้งหลายแล้ว
หนุ่มพม่ารุ่นใหม่มีบ้างแล้วที่นุ่งกางเกงยีน ส่วนผู้หญิงยังคงนุ่งผ้าถุงยาวกรอมเท้า แม้จะตัดเย็บเป็นกระโปรงแต่ยังใช้ผ้าพม่า แต่ละนางรูปร่างน่าอิจฉา หาพุงยุ้ย ๆ ไม่ค่อยเจอ
เขาและเธอส่วนมากสะพายย่าม และที่เห็นมีติดมือแทบทุกคนคือ ปิ่นโต
ปิ่นโต นี่ก็เป็นสิ่งน่าอิจฉาสิ่งหนึ่งที่เห็นในย่างกุ้ง ในวัด ในสวนสารธารณะเท่าที่เห็นที่ผ่านมา เห็นกลุ่มหนุ่มสาว นักท่องเที่ยว กลุ่มครอบครัวที่ไปไหว้พระธาตุ ไปเที่ยวพักผ่อน หรือเดินทางอื่นใด ได้เวลาอาหารก็ตั้งวงกินข้าวโดยไขปิ่นโตที่หิ้วมาออกกินด้วยกัน จึงมองหาขยะในเมืองพม่าไม่ค่อยเจอ
สมัยเมื่อไปทำงานในสำนักงานประถมศึกษาจังหวัดอุบล เคยหิ้วปิ่นโตจากบ้านไปกินกลางวัน ชาวสปจ.อุบลบางคนเห็นแล้วยิ้มเชิงหยันว่าช่างเชย หรือไม่ก็หาว่าประหยัดขี้ตืดไปโน่น แต่ก็มีศึกษานิเทศก์ท่านหนึ่ง และรองผู้อำนวยการอีกท่าเห็นแล้วออนซอนหลายบางวันมาขอกินด้วย ท่านว่า การหิ้วปิ่นโตมาจากบ้านได้ในตอนเช้า ๆ ก่อนมาทำงานแสดงถึงความพร้อมในครอบครัว ความมีวินัยในการเตรียมอาหารของครอบครัว ยังได้กินอาหารที่สะอาด ปลอดภัยจากผงชูรส และถุงพลาสติกที่บรรจุด้วย นั่นเป็นแง่มุมที่เราปลาบปลื้มและขอบคุณยายแพง ขอบคุณสามีอยู่ทุกวี่วันตลอดมา
แล้วเราก็ลืมปิ่นโตไปนาน ปิ่นโตพม่าที่เห็นทำให้นึกเสียดายอะไร ๆ มากมายที่เราทิ้งไป หรือเอาหวนกลับมาไม่ได้อีกในเมืองไทย
๐๐๐๐๐