http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,276,903
Page Views16,603,532
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน6. ในบารายปราสาทบ้านเบญจ์ โดยสาวภูไท เรื่อง-ภาพ

ในคมขวาน6. ในบารายปราสาทบ้านเบญจ์  โดยสาวภูไท เรื่อง-ภาพ

ในคมขวาน๖

ในบาราย แห่งปราสาทบ้านเบญจ์

สาวภูไท

            ปลา...ได้แล้วตัวหนึ่ง

              เสียงร้องอย่างตื่นเต้นของเด็กชายวัยประถมต้นดังขึ้นให้ได้ยิน  ขณะฉันก้าวลงจากรถในบริเวณปราสาทหินบ้านเบญจ์ อันเป็นบริเวณที่ตั้งสำนักงาน อบต.หนองอ้ม

 อ.ทุ่งศรีอุดม จ.อุบลราชธานี

            ภาพที่เห็นตรงหน้า คือเด็กชายสามคนช่วยกันปลดปลาออกจากเบ็ด ณ ริมตลิ่งของบารายเก่าแก่แห่งนี้

            “ฉันยังไม่ได้สักตัวฉันจะเดินอ้อมไปปักเบ็ดด้านโน้นก็แล้วกัน”

            เจ้าตัวเล็กบอกเพื่อนแล้วเดินย่ำโคลนที่ปกคลุมด้วยหญ้าหนา ๆ ริมบาราย

            เป็นภาพที่เห็นแล้วอดเดินไปดูอย่างแปลกใจไม่ได้  โดยเฉพาะคนที่เพิ่งหนีจากเหตุภัยพิบัติอุทกภัยใหญ่หลวงอย่างฉันขณะนั้น

            ภาพ  ข่าว  น้ำท่วม  น้ำเน่า  น้ำประปาเจือสารพิษ  สิ่งปะปนมากับน้ำในกรุงเทพมหานคร  เพียงลัดฟ้าชั่วโมงเดียว  ก็มาอยู่ในดินแดนอีกส่วนหนึ่งของประเทศไทย   ได้มาเห็นความบริสุทธิ์ใสซื่อของเด็ก ๆ กำลังช่วยกันทำมาหากินในบารายที่ล้อมรอบด้วยทุ่งข้าวเขียวขจี  ของปราสาทหินบ้านเบญจ์

            ฉันดีใจที่ออกจากกรุงเทพมาได้ทั้ง ๆ เกือบจะเปลี่ยนใจไม่กล้าเดินทางแม้สักก้าวเพราะกลัวมวลน้ำเน่าพิษ 

เหตุเพราะ  ใกล้วันที่ ๒๓ ตุลาคม ๕๔ ต้องไปคืนตั๋วรถไฟ  ที่ซื้อเพราะวางแผนไว้จะไปอุบล  ในช่วงวันปิยมหาราชซึ่งจะได้หยุดงานติดต่อกัน   ปรากฏว่ากองทัพน้ำจากเหนือท่วมท้น เอ่อนองลงมาเรื่อย ๆ แต่เดือนก่อนเริ่มเข้าโจมตีกรุงเทพฯแล้ว  ความโกลาหลแตกตื่น  ต่อมหาอุทกภัยครั้งประวัติศาสตร์   สร้างความเครียด ความหวาดหวั่น  กลัวเกรงเข้าเกาะกุมเต็มหัวใจ  ข่าวหลายสำนักแย่งกันนำเสนอแบบเจาะลึกแทบตลอดเวลา  น้ำเสียงที่ตอกย้ำของเหล่านักข่าวทั้งหลาย  พร้อมภาพเหตุการณ์สด ๆ ทำให้ดูเหมือนว่าเราอยู่ในสภาวะสงคราม

            รถไฟสู่เหนือ ถนนสายเอเชียถูกตัดขาด

            รถไฟไปอีสานเปลี่ยนเส้นทาง

            ทางเข้าออกกรุงเทพหลายสายกลายเป็นที่จอดรถ

            มวลน้ำมหาศาลกำลังไหลบ่าท่วมท้นกลบกลืนทุกอย่างที่ขวางหน้าในจังหวัดภาคกลางเรื่อยมา  จนถึงกรุงเทพอันเป็นด่านก่อนลงสู่ทะเลจุดหมายปลายทางของน้ำ

        ท่ามกลางสถานการณ์นี้ทำให้รู้สึกท้อถอย  หดหัวเหมือนเต่าหลบเข้ากระดองและตัดสินใจไปคืนตั๋วรถไฟ แล้วก็มึนงงสมองตื้อเหมือนอยู่ในโลกมือต่อไป

                “ทางไปสุวรรณภูมิยังไม่ปิดนี่แม่ ซื้อตั๋วเครื่องบินให้แล้วนะ”

            เสียงลูกชายคนโตย้ำเตือนมาทางโทรศัพท์   เหมือนมีเทียนดวงน้อยจุดสว่างขึ้นวับแวมทีเดียว 

        นั่นแล้วจึงได้หนีจากสภาวะความเครียดจากข่าว  และผลกระทบของมวลน้ำไปชั่วคราว  จากกรุงเทพเมืองแออัดสู่แผ่นดินกว้างใหญ่ไทอีสานอีกทีในช่วงวันหยุดปิยมหาราช ๕๔

            น้ำที่อุบลก็เอ่อท่วมอยู่บ้างตามริมฝั่งแม่น้ำมูล  แต่ผืนทุ่งโดยทั่วไปยังปูลาดด้วยพรมสีเขียวให้กลายเป็นดั่งทะเลภายใต้ฟ้างามสดใส  กลุ่มเมฆบาง ๆ ลอยฟ่องฟูอยู่เหนือทิวข้าวดูราวกับปวงเทพส่งรอยยิ้มมาปลอบใจ  ให้ฟื้นตื่นจากความหมองเศร้าที่เกาะกุมมาจากกรุงเทพ  ให้สดชื่นเป็นคนเก่า(หลานพ่อใหญ่เลาะ)ขึ้นมาทันที 

        “ไปทำบุญ  ไปเยี่ยมยายพัน ยายผันที่ทุ่งศรีอุดมกันเถอะ”

            “งั้นขอแวะปราสาทบ้านเบญจ์หน่อยนะ”

        ถึงจุดหมายเสียที  ปราสาทหินบ้านเบญจ์  ตำบลหนองอ้ม  อำเภอทุ่งศรีอุดม อุบลราชธานี 

        และด้วยภาพดังกล่าว  แทนการเดินสู่ปราสาทหินฉันกลับตรงลิ่วไปที่บาราย   เพื่อดูเด็ก ๆ จับปลากัน

            ปราสาทหินบ้านเบ็ญจ์  เป็นศาสนสถานขอมขนาดย่อมที่ผุพัง และชิ้นส่วนสำคัญหลายอย่างสาบสูญไปแทบหมด  เดิมตั้งอยู่ชายป่าเป็นที่เลี้ยงวัวเลี้ยงควายของชาวบ้าน  แต่สถานที่แห่งนี้ยังเป็นแหล่งศักดิ์สิทธิ์ของท้องถิ่น ทุกปียังมีการจัดพิธีบวงสรวงกราบไหว้บูชากันอยู่  และเมื่อไม่นานมานี้ได้มีการตั้งสำนักงานที่ทำการอบต.หนองอ้มขึ้นในบริเวณใกล้เคียงการอนุรักษ์ปกป้องก็มีการจัดการได้ดีขึ้น

            ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งเป็นโคปุระ มีร่องรอยฐานศิลาแลงก่อสูงเป็นรูปผังสี่เหลี่ยมทั้งด้านนอก และด้านในปราสาท    มีบารายหรือสระน้ำอยู่นอกกำแพงศิลาแลงสองด้าน เหนือและใต้  ด้านในกำแพงประกอบด้วยปรางค์อิฐ ๓ หลังตั้งบนฐานศิลาแลง  กรมศิลปากรได้ขุดแต่งในปี ๒๕๓๓ ได้พบทับหลังเทพนพเคราะห์  หรือเทวดาประจำทิศทั้ง ๙ องค์  และรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ  จากแผนผังทางสถาปัตยกรรมและภาพแกะสลักอาจกำหนดอายุได้ประมาณพุทธศตวรรษที่ ๑๕-๑๖

            ความเก่าแก่ของสภาพภายในทำให้มีต้นไม้ใหญ่  เล็ก แทรกซอนเติบโตขึ้นตามฐานศิลาและรอยแตกปริของตัวปราสาท  ดูน่ากลัวว่ามันจะหยั่งรากกลบกลืนไปทั้งหมดในวันข้างหน้า

            อย่างไรก็ตามสิ่งที่ยังประโยชน์แก่มนุษย์ผู้อยู่รายรอบก็คงจะเป็นพรมหญ้าใช้เลี้ยงวัว ควาย  และตัวสระน้ำหรือบารายทั้งสอง   ที่มีน้ำใสสะอาดปราศจากสารพิษ  และมีกุ้ง หอย ปู ปลามากมายหลายชนิดอยู่ชุกชุม   แม้แต่เด็ดตัวน้อย ๆ อย่างเด็กชายทั้งสามยังจับปลาได้ไม่วายเว้น

๐๐๐๐

           

           

           

 

Tags : ในคมขวาน5.อัปรา เสด็จมาอยู่บ้านระแงง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view