http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,276,913
Page Views16,603,545
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน 8 ดอกเผิ้ง..ดอกไม้สู่สรวงสวรรค์ โดยสาวภูไท

ในคมขวาน 8 ดอกเผิ้ง..ดอกไม้สู่สรวงสวรรค์ โดยสาวภูไท

ในคมขวาน๘

ดอกเผิ้ง...ดอกไม้สู่สรวงสวรรค์

“สาวภูไท”

 

          ลมหนาวโชยผ่านทุ่งกว้าง โล่งลิ่ว เสียงหวิวหวีด  ฤดูเก็บเกี่ยวเพิ่งผ่านพ้น  ผืนทุ่งสีทองกลายเป็นสีน้ำตาลในม่านหมอกแห่งอรุณรุ่ง  ข้าวเหนียวนึ่งหอมกรุ่นส่งอายไออยู่เหนือหวดที่ตั้งบนเตาถ่าน  ปลาสด ๆ คลุกเกลือจี่ย่างอยู่ข้างเตา  เสียงน้ำมันปลาหยดลงถูกถ่านไฟแดง ๆ ดังฉู่ฉี่ ๆ ส่งกลิ่นหอมอวลอบ  ผสมกลมกลืนกับกลิ่นอายข้าวใหม่  กระจายกลิ่นอายอวลอุ่น  และอิ่มเอมครอบคลุมบรรยากาศแห่งบ้านนา  คราลมหนาวพลิ้วผ่าน

            ข้าวใหม่ ปลามัน มาพร้อมกับลมหนาว บุญเข้ากรรม  บุญข้าวจี่  รออยู่ข้างหน้า บุญแจกข้าวของบางครอบครัวถูกเตรียมการ  รอเวลาเสร็จสิ้นการเก็บเกี่ยว  หลายบ้านจัดหาขี้เผิ้ง(ผึ้ง – bee  wax ) ไว้พร้อมแล้ว  เพื่องานบุญของครอบครัวที่ผัดผ่อนมาแต่หน้าฝน

            ฟ้าโปร่ง  แดดสวย  ทุ่งโล่งและลมโชยพลิ้ว  เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับเทศกาลงานบุญ  โดยเฉพาะบุญอุทิศส่วนกุศลส่งไปให้สมาชิกในครอบครัว ในตระกูลผู้ล่วงลับ

            บุญต้นดอกเผิ้ง ไงล่ะ

            เป็นงานบุญที่จัดทำขึ้นเพื่อส่งสายบุญ สายใยรักของสมาชิกในครอบครัวผู้อยู่เบื้องหลังไปให้ผู้ล่วงหน้าไปก่อนบนสรวงสวรรค์

            ฤกษ์งาม  ยามเหมาะ  ก็เมื่อฟ้าโปร่ง  แดดสวย ๆ ลมรวย ๆ ช่วยหอบเมฆฝนห่างหาย  และการเก็บเกี่ยวผลิตผลในไร่นาผ่านพ้นไปอยู่ในยุ้งฉางแล้ว  เป็นช่วงว่าง ๆ ของชาวบ้านทุ่ง

            บุญต้นดอกเผิ้ง 

            นับเป็นบุญรวมพี่รวมน้องป้องปลาย  ที่อยู่ห่างไกล กรุงไท กรุงเทพ  หรือเมืองนอก เมืองนา ก็จะมาตุ้มโฮมโอบอุ่น  ชื่นบาน  ช่วยกันส่งบุญ  ช่วยกันติดดอกเผิ้งในปราสาท หรือต้นดอกเผิ้ง  แบบร่วมด้วยช่วยกัน

            “ไปตามพ่อใหญ่ช่างแทงหยวกมาที”

            ด้วยฝีมือการแกะสลัก  (สับ หรือแทง) หยวกให้เป็นลวดลาย แล้วประกอบกันเข้าเป็นคล้ายสิ่งปลูกสร้าง ที่อยู่อาศัย สำหรับดวงวิญญาณที่ล่วงหน้าไปสรวงสวรรค์  จะให้เป็นคฤหาสน์  กระท่อม หรือปราสาทก็แล้วแต่ความพอใจของผู้จะส่งไปและช่าง พ่อใหญ่นักแกะสลักหยวกกล้วย  ซึ่งหายากขึ้นทุกวัน  เพราะผู้คนในยุคสมัยมีอะไร ๆ หันเหให้สนใจมากมาย มากกว่าจะมาหัดเป็นช่างแกะสลักหยวกกล้วย  ซึ่งไม่มีค่าจ้างค่าออน รับแต่น้ำใจไมตรีความเป็นพี่น้องญาติโกโหติกาแทนอยู่ร่ำไป  ซึ่งคนยุคใหม่เห็นค่าน้อยลงทุกวัน

            ช่างแกะสลักหยวกกล้วยจึงมีคิวยาวในเทศกาลงานบุญต้นดอกเผิ้ง  เจ้าของงานหลายแห่งจึงแก้ปัญหาด้วยการหาวัสดุอื่น ๆ มาทำแทน โดยเฉพาะโครงที่จะเป็นตัวปราสาท(ต้น)  อาจใช้ชั้นวางของที่ทำด้วยพลาสติก  กล่องกระดาษ  กล่องโฟม ที่หากันได้ง่าย ๆ  ใช้กาบของต้นกล้วยมัด ๆ แปะ ๆ พอได้ติดดอกเผิ้งตามพิธีเท่านั้น

            ต้นดอกเผิ้งที่เคยเป็นรูปปราสาท  มีศิลปะการแกะสลักหยวกกล้วยสวยงาม จึงกลายเป็นบ้านกล่องแบบคอนโดขึ้นมาแทน

            แต่ก็ช่างเถอะทุกสิ่งต้องผันแปรไปตามยุคสมัย  ที่สำคัญสำหรับงานนี้คือต้องติดดอกเผิ้ง  จึงจะถูกต้องตามประเพณีมาแต่โบราณ  แม้เผิ้งจะหายากก็ขอให้มีบ้างเป็นสัญลักษณ์ก็เอาละ

            ดอกเผิ้ง

            ก็คือดอกไม้ที่ประดิษฐ์ขึ้นจากขี้ผึ้ง 

            เทคนิคการทำก็คือ  นำก้อนขี้ผึ้งมาใส่ภาชนะ เช่น หม้อ หรือกระทะ  ตั้งไฟให้ร้อนจนละลายกลายเป็นของเหลว  ใช้พิมพ์ที่จัดทำไว้แล้วจุ่มลงไป  ยกขึ้นไปจุ่มน้ำเย็นขี้ผึ้งรูปร่างตามพิมพ์ก็จะหลุดล่อนออกมา

            วัสดุแบบพิมพ์ที่ชาวบ้านอีสานใช้มาเป็นประจำก็คือ  มะละกอดิบ เพราะตรงปลายมีเหลี่ยมมุมที่ออกมาเป็นดอกไม้ได้พอดี สวยงาม และหาง่าย  ต้องการดอกใหญ่ดอกเล็กก็ใช้ลูกมะละกอตามขนาดที่ต้องการได้  ลูกใดไม่พอดี เหลี่ยมมุมไม่สวยก็เฉือน ฝานตกแต่งได้สะดวก

            วัสดุนอกนั้นก็อาจใช้ก้านกล้วย หัวมันเทศ แตงกวา  แตงร้าน ฯลฯ ตัด เฉือนให้ได้รูปร่างตามต้องการ

 

          ต้นดอกเผิ้ง  ทำจากหยวกกล้วยสับลาย  มีโครงไม้ไผ่ก่อขึ้นเป็นรูปทรงปราสาท  ใช้ดอกเผิ้งเสียบ ติด แปะ โดยรอบอย่างมีศิลปะให้สวยงามนี้  เป็นเสมือนเรือน คฤหาสน์ หรือบ้านสำหรับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว  ภายในจึงบรรจุด้วยสิ่งของจำเป็น เงินทอง ขนมนมเนย เครื่องอุปโภค บริโภคที่ญาติผู้อยู่ข้างหลังจะส่งไปให้บนสรวงสวรรค์

            ดอกเผิ้งจึงเป็นสื่อสู่สรวงสวรรค์ด้วยประการดังกล่าว

            โดยทั่วไปต้นดอกเผิ้งจะจัดทำขึ้นที่บ้านโดยนิมนตร์พระสงฆ์มาประกอบพิธีทางศาสนา แล้วจึงถวายต้นดอกเผิ้งแก่พระ หรือวัด

            โอกาสที่ทำ แล้วแต่ความสะดวกของเจ้าภาพ โดยมากมักทำในช่วงเก็บกระดูกที่เรียกว่าทำบุญกระดูก  อาจ ๓ วัน ๗ วัน หลังจากเผาศพแล้ว  หรืออาจเป็น ๙๐วัน ๑๐๐วัน  หรือรอความพร้อมของญาติ ๆ ในครอบครัวจนถึงเทศกาลหลังฤดูเก็บเกี่ยวของแต่ละปีก็มีมาก

            ประเพณีบุญต้นดอกเผิ้งของชาวอีสาน แต่โบราณมาจนปัจจุบันมีอยู่ ๒ โอกาส คือ

            ๑ ประเพณีทำบุญส่งให้ผู้ตายดังกล่าวข้างต้น

            ๒ ประเพณีทางพุทธศาสนา  ในช่วงเข้าพรรษา และออกพรรษา  จะมีการทำปราสาทเผิ้งไปถวายวัดเป็นพุทธบูชา  ปัจจุบันประเพณีแห่ปราสาทผึ้งที่ยิ่งใหญ่เป็นงานประจำปีระดับจังหวัดก็คือ  แห่ปราสาทผึ้งที่จังหวัดสกลนครค่ะ

๐๐๐๐

             

           

             

 

 

Tags : ในคมขวาน7

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view