http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,277,052
Page Views16,603,696
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

เสือกลิ่นสาบตอน31. ย้าย ยากเย็น โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบตอน31. ย้าย ยากเย็น โดยอินทรี ดำ

เสือกลิ่นสาบ

ตอน31. ย้าย ยากเย็น

โดยอินทรี ดำ

                   มณีนั่งกินกาแฟยามเช้าที่หน้าบ้านพักกลางหุบเขา เหมือนว่าไม่เคยเกิดเรื่องราวใดๆ ใบหน้าเรียบ นิ่ง สายตาดิ่งไปสู่ท้องน้ำในสระหน้าบ้าน เงาไม้สะท้อนงดงามเหมือนทุกวัน มณียกแก้วกาแฟจรดริมฝีปาก แต่ไม่ทันจะดื่ม กลับค่อยๆวางแก้วลงกับโต๊ะสนามที่นั่งอยู่

                  มณีเดินไปยกพิมพ์ดีดกระเป๋าหิ้วประจำกายมาวางบนโต๊ะ ส่งกระดาษเปล่าขนาดเอ4 เข้าเครื่อง ซ้อนด้วยกระดาษสำเนาและกระดาษก็อปปี้ มณีนั่งนิ่งมองแป้นพิมพ์ดีดด้วยท่าทีครุ่นคิด แล้วฉับพลันเหมือนว่าการตัดสินใจจบสิ้นกระบวนการ มณีพรมนิ้วตามแบบฉบับจิ้มดีด แต่เร็วและรั่วระวิง เนื้อหาที่พิมพ์ไหลหลั่งออกมาจากสมอง ชั่วเวลาเพียง 12 นาที มณีดึงกระดาษออกจากแป้น แล้วนั่งอ่านทบทวนด้วยความรอบคอบ ไม่อยากให้ผิดแม้ตัวเดียว

                  มณีลงนามในท้ายบันทึกแล้วก็พับใส่ซองราชการสีน้ำตาล มณียังนั่งนิ่งอยู่ที่เดิมจนเมื่อม้วนเดินยกข้าวต้มเครื่องมาวางที่โต๊ะ มณีเก็บเครื่องพิมพ์ดีดแล้วให้ม้วนยกเก็บ มณีก้มหน้าก้มตากินข้าวต้มเครื่องรสเดิมที่กินมาเกือบจะ 10 ปี มณียกแก้วน้ำดื่ม แล้ววางแก้ว ม้วนเดินเข้ามาเพื่อทำหน้าที่ปกติ มณีจ้องมองหน้าและเรือนร่างอย่างพินิจ

                 “ปีนี้อายุเท่าไหร่แล้วม้วน” มณีถาม

                 “ยี่สิบสองแล้วค่ะ” ม้วนตอบด้วยแววตาสงสัย

                 “ดูแลหัวหน้ามากี่ปีจำได้ไหม” มณีถามต่อ ม้วนยืนค้อมตัวลงแล้วก้มลงนั่งยองๆ มือหนึ่งเอื้อมไปจับชามข้าวต้ม อีกมือหนึ่งเก็บแก้วกาแฟ เหลือบตามองหน้ามณี

                  “ตั้งแต่หนูอายุ 12 ปีกว่าๆ 9 ปีกว่าแล้วมั่งคะ” แววตาม้วนสงสัย

                  “ขอบใจม้วนมากๆนะ เอกลูกชายแข็งแรงดีใช่ไหม” มณีเฉไปถามเรื่องลูกชายของม้วน ๆ ยิ้มตอบ

                  “แข็งแรงมากค่ะ เลี้ยงง่าย ไม่งอแงเลยค่ะ” แล้วก็ยิ้มอิ่มใจ

                  มณีลุกขึ้นแล้วเดินเข้าบ้านพัก เหลียวมองดูม้วนที่วันนี้ไม่ใช่เด็กหญิงเล็กๆเหมือนแต่ก่อนแล้ว แต่วันนี้เป็นแม่ของลูก ม้วนได้สามีขยันงาน และเป็นคนดี มณีเดินเข้าบ้านแล้วแต่งตัวไปทำงานตามหน้าที่

                 บนสำนักงาน มณีวางจดหมายที่พิมพ์แล้วให้สมชาย ลงเลขที่ วันเดือน ปี ประทับตรา ด่วนที่สุด ถึงอธิบดีกรมป่าไม้ แล้วเดินเข้าห้องทำงาน แต่ก็ยังเหลียวกลับมา

                “กาแฟแก้ว” เสียงแว่วๆแซวตามหลังพร้อมๆกัน เสียงหัวเราะยังสนุกเหมือนเดิม มีเพียงมณีที่รู้สึกหงอยๆไป เพราะว่าวันนี้ไม่หันกลับมาส่งยิ้มหัวเหมือนเดิม

                 สมชายส่งจดหมายให้พนักงานสาวฝ่ายธุรการ เพื่อลงทะเบียนเลขที่หนังสือออก

                 เสียงตะโกนดังคับห้อง “หัวหน้าพิมพ์จดหมายขอย้าย”

                 เท่านั้นเอง ทุกคนก็กรูกันเข้าไปรุมดูหนังสือ แต่ละคนมีความรู้สึกแตกต่าง บางคนนิ่งเงียบ บางคนแววตารื้นด้วยน้ำตา บางคนอ้าปากค้าง บางคนซึมไปในทันใด   แล้วเดินเรียงกันเข้าไปหามณีถึงในห้อง มณีเงยหน้าขึ้นมอง ยิ้มเฝื่อนๆ ร้องถามเสียงแผ่ว

                 “มีอะไร เห็นผีกันมาหรือไง”

                  “เอาน่า ผมอยู่ที่นี่ตั้งแต่ปีพ.ศ.2520 แล้ว เก้าปีกว่า อีกแค่ไม่กี่เดือนก็จะสิบปีแล้ว ย้ายบ้างก็ท่าจะดี”  เงียบ ไม่มีเสียงตอบโต้เหมือนทุกครั้ง

                  “ไปดีน่า ได้ย้ายไปประจำกอง กลับไปเลี้ยงลูกบ้าง”

                   แต่ในใจนึก จะอยู่ไปใยในเมื่อทำงานดี เป็นคนดี มีแต่คนรักและเชื่อถือ แต่ผู้บังคับบัญชาไม่เคยเหลียวแล แม้แต่รัฐมนตรีมาสั่งการก็ยังไม่ได้รับการสนอง  คนเราก็มีสิทธิพึงได้ในขณะเดียวกันก็มีสิทธิผิดหวัง มณีพินิจแล้วจึงลงมือทำ ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อทำงานแล้วไม่ได้ดี ก็ควรขอย้ายตนเอง

                    สำนักงานที่เคยมีชีวิตชีวาเหงาไปถนัด ไม่มีใครตะโกนคุยกันแบบเดิม ไม่มีใครกล้าพูดเล่นกันอย่างที่เคย ไม่มีใครกล้าเข้าไปเซ้าซี้หัวหน้าเหมือนเดิม แต่ซุบซิบกันเองกลุ่มละคนสองคน   มณีเงียบขรึมกว่าที่เคยเป็น ท่าทีเหมือนไร้ชีวิต แววตาตกเหมือนหมาหลงกลัวหมาเจ้าถิ่น นึกในใจ

                    “อยู่ไม่ได้แล้ว เราต้องกลับไป ไปตายเอาดาบหน้า”   

                    มณีอยู่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเหงาหงอย ไม่กระปรี้กระเปร่าเหมือนเมื่อก่อนเก่า เหมือนถ่านอ่อน เหมือนว่าจะทอดถอนใจ ค่ำลงก็นั่งกินข้าวเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย ไม่เรียกประเสริฐ ไม่เรียกสมชาย ไม่เรียกแม้กระทั่งสากับอ้วน ส่วนบรรดาทโมนทั้งหลายก็ไม่กล้ากร้ำกรายเข้ามาใกล้   

                    วันเวลาผ่านไปกว่าสามสัปดาห์ แต่ก็ยังไม่มีคำสั่งตกมาถึง มณีเริ่มกระวนกระวาย คิดอยู่ในใจ จะอยู่ต่อไปได้อย่างไร ไหนจะเรื่องเสาเหมืองแร่เฮียฮง ไหนจะเรื่องทางชักลากไม้ของบริษัททำไม้จำกัด ไหนจะเรื่องเลื่อยโซ่ของกลางที่ฝ่ายปราบปรามขอไปเก็บรักษา แล้วกลายเป็นเครื่องมือแปรรูปไม้เถื่อนไปเสียอีก

                     มณีมั่นใจ ยังไงเสียกรมป่าไม้ต้องย้ายให้ไปสังกัดกองอนุรักษ์ต้นน้ำเหมือนเดิม กลับไปบ้านเก่าที่เคยอบอุ่น กลับไปช่วยเมียรับส่งลูกๆไปโรงเรียน กลับไปทำกับข้าวให้แม่กินและกินกับแม่ก็ยังได้ความสุขใจเหลือ

                    มณีนั่งและนอนยาว ไม่ออกไปตรวจตราป่าไม้เหมือนเคย เฝ้ารอคำสั่งย้าย มณีเก็บของทีละชิ้นๆ เก็บเท่าที่จำเป็น ส่วนที่แจกได้มณีแจก เสื้อผ้า รองเท้า ถุงเท้า แม้แต่ผ้าเช็ดตัว ผ้าขาวม้า ทยอยแจกไปทีละอย่างสองอย่าง มณีเดินไปรอบๆหมู่บ้านที่ลงมือสร้างมากับมือ เหมือนว่าล่ำลาเพื่อจากจร มณีเดินไปกราบหลวงพ่อบนวัด แล้วกราบพระประธานองค์เล็กที่แม่สร้างไว้ให้ มณีเดินไปทักทายเพื่อนร่วมงานทีละหลังๆ เพื่อบอกลา

                   แต่เมื่อเวลาผ่านไปกว่าเดือน มณีก็ยังไม่ได้ข่าวว่าจะได้ย้ายเสียที มณีตัดสินใจเดินทางเข้ากรมป่าไม้ ไปพบกองต้นสังกัด แล้วก็ได้ทราบว่า

                    “มณีไปสังกัดป่าไม้เขตแพร่ ในโครงการสำนักพัฒนาป่าไม้แล้ว หากจะย้ายก็ขึ้นอยู่กับกรมป่าไม้โดยตรงเลย กองสั่งย้ายไม่ได้แล้ว “ หัวหน้าฝ่ายที่เคารพกล่าว

                    “ผมควรต้องไปพบใครครับ”

                    “อธิบดีกรมป่าไม้แหละ”  หัวหน้าตอบแล้วชวนคุยเรื่องอื่นๆ

                     มณีตัดสินใจไปขอพบอธิบดีกรมป่าไม้ นั่งรออยู่กว่าชั่วโมงก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะว่างเว้นเลย เป็นใหญ่แล้วก็มีแต่คนเข้าหา

                     “แม้แต่ขอย้ายกลับกองเพื่ออยู่เฉยๆ ยังไม่ง่ายเลย” มณีนั่งรำพึงในใจ

                    “ป่าไม้จังหวัด เฮอะ มิต้อง 5 แสนหรือ” มณีอดคิดถึงคำพูดย้อนเย้ยๆของ พอ.เลขานุการรัฐมนตรีหาศักดิ์

                    คำสั่งออกมา วิ่งลมก็ได้ลม มณีกลายเป็นตัวตลกที่ถูกกล่าวขวัญถึงมากมาย มณีรู้สึกรันทดหดหู่ใจ แต่มณีก็ไม่อาจจะไปสำแดงเดชใดๆได้ มณีก้มหน้าเดินออกจากองไปยังชั้น 2  สำนักอธิบดีกรมป่าไม้

                    มณีต้องนั่งรอนานหลายชั่วโมง กว่าที่อธิบดีจะว่างพอ

                   “เอ้า ว่าไง เห็นแล้วหนังสือขอย้ายกลับสังกัดเดิม แต่ผมไม่เห็นด้วย รองอธิบดีอุกฤตเขารายงานมาแล้วว่า คุณทำถูก คุณทำดี ก็น่าจะอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไป” อธิบดีกรมป่าไม้กล่าว

                    “ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมอยากกลับสังกัดเดิมและกลับมาอยู่กับลูกกับเมีย” มณีตอบสวนตรงๆ ไม่รู้ว่าจะต้องไปอ้อมค้อมทำไม ในเมื่อทุกวันนี้ก็เหมือนว่าตายไปแล้ว

                      “แต่สิ่งที่คุณทำมาตลอดที่นั่น คุณทำดี และควรทำต่อไปอีก รองอุกฤ๖ฌ๘ษญ์ฯญํฯซ๋ษ๕ณตั้งใจทำดี” อธิบดีกรมป่าไม้ยังยืนกราน

                       “แต่ผมไม่อยากอยู่แล้ว ผมจะทำไปทำไม ทำไปก็ไม่เคยได้แม้แต่สองขั้น ทำดีเพียงใดก็สู้คนอื่นเขาไม่ได้ ผมไม่อยากทำแล้ว” มณีทิ้งท้ายเสียงดังเต็มที่  อธิบดีนั่งนิ่งเหมือนถูกลมสลาตันประทะใบหน้า

                       “พอกันที ในเมื่อไม่มีกฎเกณฑ์ใดๆในการปูนบำเหน็จความตั้งใจทำงาน ผมก็ไม่อยากได้อีกแล้ว ผมขอย้าย เข้าใจไหมครับ ผมขอย้าย” มณีกระแทกเสียงดัง พร้อมกับจ้องตาอธิบดีกรมป่าไม้นิ่ง เหมือนตอกย้ำความตั้งใจ 

                        อธิบดีกรมป่าไม้นั่งพิงพนักเต็มหลัง แล้วมองจ้องหน้ามณี

                       “ตามใจคุณ ในเมื่อไม่อยากทำแล้วก็แล้วกันไป ผมจะเซ็นต์คำสั่งให้” มณีลุกขึ้นทำท่าจะไหว้ลา แต่แล้วกลับยกมือลงวางแนบกาย แล้วโค้งคำนับแทน

                       มณีเดินดิ่งกลับไปยังรถยนต์คันเก่า แล้วขับกลับบ้านแม่ ไปนอนเล่นกับแม่ที่บ้าน แต่มณีไม่กล้าเล่าอะไรให้ฟังได้แต่เงียบ แล้วก็หลับไปด้วยความอ่อนเพลียละเหี่ยใจ ตื่นขึ้นมาก็เข้าครัว ค้นดูว่ามีอะไรจะทำกับข้าวให้แม่กินได้บ้าง

                      ได้เวลาไปรับลูกๆกลับจากโรงเรียน มณีไหว้ลาแม่แล้วก็ขับรถกลับ นั่งคิดวกไปวนมาระหว่างรถติด กลับมาแล้วจะทำอะไรได้ หรือจะหาอะไรทำดี มณีได้แต่ภาวนาให้คำสั่งออก

                      ลูกๆดีใจที่พ่อขับรถมารับที่โรงเรียน ความสุขมาเยือนเหมือนเคย ใช่ บ้านคือวิมานของเรา

 

     .

                   “

 

                      

Tags : เสือกลิ่นสาบ30.ของกลาง

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view