http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,396,397
Page Views16,729,556
« November 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ในคมขวาน10.

ในคมขวาน10.

ในคมขวาน ๑๐

                                    “สาวภูไท”

 

ปลายแล้งแห่งชายขอบทุ่งกุลา ๕๕

 

               เดือน ๕ ปี ๕๕

               เดินทางไกลป่าไอแดดชายขอบทุ่งกุลา  ซอกซอนหาปราสาทหินที่มีในแถบถิ่นดินแดนอีสาน  ที่หลบอยู่ห่างไกลไร้ชื่อเสียงเรียงนาม จึงลอดหูลอดตานักท่องเที่ยว

            แดดเดือน ๕ เมษายน  เจิดจ้าเผาพื้นถนนคอนกรีต  และตึกรามในตัวเมืองดั่งจะหลอมทุกสิ่งให้ละลาย  แม้แต่กายและใจของผู้คน  ราวกับจะเป็นใจกับสถานการณ์บ้านเมืองที่รุ่มร้อนด้วยความแตกแยกเป็นฝักเป็นฝ่ายของคนในสังคมไทยปี๕๕  แต่ครั้นผ่านออกสู่ทุ่งโล่ง  ความร้อนกลับคลายลง  ผืนทุ่งที่เคยเป็นตำนานความแล้งร้อนร้ายกาจกลับมีสีเขียวของทิวไม้ให้เห็นอยู่ทั่วไปช่วยละลายความแล้งร้อน

            ยุคสมัยนี้  ขอเพียงมีผืนดิน  เกษตรกรเขาก็สามารถเนรมิตแหล่งน้ำเพื่อผลิตผล  พันธุ์พืช  พันธุ์สัตว์  กุ้ง  หอย เป็ด ไก่ ปู ปลา นาข้าว พืชสวน  พืชไร่ ได้ดั่งใจ  แม้ในดินแดนที่เคยทำเอาเจ้ากุลานักเดินทางผู้ทรหดให้ร้องไห้มาแล้วตามตำนาน

            ขอเพียงมีผืนดิน  จะกว้างใหญ่ แล้งร้อนร้ายกาจขาดแคลนน้ำขนาดไหน  มือยักษ์อัจฉริยะ  และ ผานไถมโหฬารของเจ้าแม็คโครก็เป็นผู้ช่วยเขาเนรมิตได้หมด  กว่าพันปีมาแล้วทีบรรพบุรุษของเขาได้ให้ภูมิปัญญาการสร้างบารายกักเก็บน้ำสำรองไว้ใช้ยามขาดแคลน  และสืบทอดไว้ตลอดมา ทั้ง ๆ มีเพียงสองมือ แรงกาย และหยาดเหยื่อที่หยดไหลไม่ย่อท้อ  ดำรงสายเลือด และเผ่าพันธุ์มาจนถึงยุคเครื่องขุดเจาะ  ไถ ตัก และสูบ(น้ำ)ด้วยจักรกลทั้งหลาย ที่เป็นดั่งเช่นมือยักษ์มาช่วย  หากทุ่งกุลาไม่กลายเป็นทุ่งทองก็ต้องอายบรรพบุรุษท่านละ

          เมษา  ที่ได้ชื่อว่าเดือนแห่งความแล้งร้อนที่สุดในรอบปี  ณ ชายขอบทุ่งกุลาแถบที่เป็นรอยต่อจังหวัดศรีสะเกษ สุรินทร์  ร้อยเอ็ด  ยโสธรที่ซอกซอนไปในปี ๕๕ จึงได้พบความผ่อนคลาย ด้วยสีเหลืองเรืองทุ่งของดอกปอเทืองพืชคลุมดินแทนถั่ว  สีเขียวขจีของทิวข้าวโพดที่ปลูกเป็นพืชหมุนเวียนในผืนทุ่ง   สีทองของข้าวนาปรังในที่ลุ่ม  สลับกันไปกับกลุ่มไม้ยืนต้นที่ขึ้นเป็นกลุ่มห่อหุ้มบารายสมัยใหม่ในทุ่งโล่ง  ส่วนตามขอบถนนรนแคมก็มีต้นไม้ใหญ่เป็นทิวแถวเรียงราย  ดอกคูนสีเหลืองทองห้อยระย้าพราวตา  แต่งแต้มแซมด้วยหางนกยูงสีแสดสด   ยังมีต้นตาลแผ่ก้านใบใหญ่ ๆ กั้งโกบบังแดดฝีมือดาบตำรวจวิชัย  สุริยุทธ  คนดีศรีสะเกษที่บ้าปลูกต้นไม้หลายล้านต้น  จนถนนหนทางเขียวครึ้ม ร่มรื่น ไปทั้งแถบอีกละ(โลกนี้เป็นหนี้ท่านแล้วค่ะนายดาบวิชัย)

            จากอำเภออุทุมพรพิสัย ไปชมปราสาทเมืองจันทร์ ที่อำเภอเมืองจันทร์  แล้วตรงสู่ปราสาทบ้านปราสาทอำเภอห้วยทับทัน  เลี้ยวไปอำเภอบึงบูรณ์ ชมระฆังทองที่ใหญ่เกือบที่สุดในโลกที่วัดศรีบึงบูรณ์ ซึ่งนายกยิ่งลักษณ์ คนสวยของเรามาเป็นประธานในพิธีเททองหล่อไปเมื่อปลายปีที่แล้ว  และบัดนี้เสร็จสมบูรณ์แขวนอยู่บนหอสูงที่ก่อสร้างด้วยศิลปะคล้ายแบบปราสาทขอม  ซึ่งมีอิทธิพลในดินแดนแถบนี้กว่าพันปีมาแล้ว

            เราตามหาปราสาทขอมยุคเก่า  กลับมาพบสิ่งปลูกสร้างหลายอย่างในวัดศรีบึงบูรณ์แห่งนี้ที่เป็นศิลปะ ประยุกต์ลวดลายจำหลักหินทรายมาใช้ผสมผสานได้อย่างลงตัว สวยงาม วิจิตร ตระการตา น่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง  ความแล้งร้อนแห่งเมษายนเคลื่อนคลายไปภายใต้ต้นไม้ใหญ่สูงเด่น เช่น ต้นยางนาที่ยืนต้นเป็นสง่าท้าทายแดดฝน

 

            จากบึงบูรณ์เราข้ามน้ำมูลสู่ราษีไศล  ตัดไปอำเภอมหาชนะภัย   สู่คำเขื่อนแก้วเขตจังหวัดยโสธร  ซื้อไก่ย่างบ้านแคนอันขึ้นชื่อพร้อมข้าวเหนียวนุ่ม ๆ   แล้ววกอ้อมกลับอุบลราชธานีก่อนตะวันลับขอบฟ้า

๐๐๐๐

           

           

 

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view