ผึ้งเชย ดอกไม้ วัดไทยในอินเดีย
“สาวภูไท”
บทสืบพันธุ์แห่งพฤกษาชาติที่อาศัยเพศ เป็นกระบวนการอันสลับซับซ้อน ที่ได้รับการวางแผน บงการมาอย่างเป็นระบบ คำสั่ง จากรหัสยีนพันธุกรรมแห่งชาติพฤกษานั้น ๆ ดั่งเป็นพระประสงค์ของพระเป็นเจ้า
หากไม่รวมพืชชั้นต่ำ ประเภทแบ่งเซลล์ สร้างสปอร์ แตกหน่อ แยกกอ เพื่อก่อแนวสืบทอดพฤกษชาติพันธุ์แล้ว พืชดอกทั้งหลายล้วนต้องใช้พลังมหาศาลในการสร้างรังไข่ และยอดเกสร
และเพื่อให้รังไข่เจริญเป็นผล เป็นเมล็ดเพื่อสืบสานเผ่าพันธุ์ พืชต้องสร้างเรณูหรืออับละอองเกสรเพศผู้ขนาดเล็กจิ๋วไว้เป็นล้าน ๆ หน่วย(อับ)ในต้นหนึ่ง ๆ เรณูนี้มีขนาดจิ๋วมาก เขาว่า(ตำรา)จิ๋วถึงประมาณ ๒๐ – ๒๕๐ นาโนมิเตอร์เชียวนะ ซึ่งนาโนมิเตอร์หนึ่ง ๆ เท่ากับหนึ่งส่วนล้านของมิลลิเมตรนั่นเชียว เรณูนี้มีหน้าที่ไปผสมกับยอดเกสรเพศเมียในดอกอื่น ๆ ต้นอื่น ๆ หรือแม้แต่ในดอกเดียวกันที่เป็นสมบูรณ์เพศการทำงานนี้ของเจ้าเรณูจิ๋วต้องอาศัยแรงลมเป็นหลัก
แต่สายลมเอย...ใช่จะมีเพียงแผ่วพลิ้ว พัดโชยเอาธงมนตราให้ปลิวไสวโปรยปรายคำอวยพรให้หล้าโลก และโบกพัดอ่อน ๆ อุ้มละอองเรณูสู่ยอดเกสรเพศเมียที่แย้มยวนรอคอยเท่านั้น ในบางครั้ง และบ่อยครั้งที่สายลมพัดกระโชก กระหน่ำ กระพือโหม พัดละอองเรณูไปแสนไกลไร้ปราณี พืชต้องสูญเสียพลังในการสร้างเรณูนี้ไปเปล่า ๆ นับไม่ถ้วน
แล้วจะทำอย่างไรจะได้ผสมพันธุ์ สืบหน่อก่อแนวแห่งพันธุ์พฤกษา
ต้องอาศัยสัตว์ทั้งหลายที่เคลื่อนที่เดินทางไปมาแล้วหละ
นกเล็ก ๆ กับเหล่าแมลงนักดูดน้ำหวานคือเป้าหมายหลัก
ดอกไม้จึงจ่ายค่าตอบแทน ด้วยการสร้างต่อมน้ำหวานเยิ้มหยาดไว้ให้เจ้าสัตว์นักดูด แล้วส่งกลิ่นหอมเย้ายวนออกไปเรียกร้อง
หากการผลิตสารส่งกลิ่นเป็นกระบวนการที่พืชบางชนิดไม่ชอบ หรือยุ่งยากเกินไป
ทางเลือกคือ
ผลิตกลีบดอกที่แปลกใหม่ เตะตา ใส่สีสัน แสนสวย แข่งกัน บานไสวให้เหล่าแมลงมองเห็นแต่ไกล
ดอกผีเสื้อ ดาวเรือง บานชื่น รักเร่ คาร์เนชั่น ทานตะวัน หงอนไก่ กุหลาบสร้อยทอง.....และอีกมากมายที่บรรจงสร้างกลีบให้สดสวย ล่อใจเหล่าแมลงภู่ ผึ้ง ให้หลงใหล แต่...ความสวยของดอกไม้แสนสวยในหล้าโลก ใช่จะมีแต่แมลงเท่านั้นที่หลงใหล ยังมีมนุษย์สัตว์ประเสริฐที่ชื่นชม หลงใหล ทั้งกลิ่น สีสัน รูปแบบหลากหลาย สุดท้ายนำมาปลูกขยายพันธุ์เสียเอง เหล่าแมลงและดอกไม้จึงได้กำไร
หากคุณไปอินเดีย แวะพักตามวัดไทยต่าง ๆ ไม่ว่าวัดไทยพุทธคยา วัดไทยสารนาถ นาลันทา ไวสาลี สาวัตถี และอื่น ๆ สิ่งที่ตื่นตาตื่นใจในท่ามกลางเมืองแขกก็คือดอกไม้ในแปลงปลูกที่บรรจง และทะนุถนอมของชาววัด โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ดินอุดมและอากาศที่เป็นใจทำให้ดอกไม้แข่งกันบานไสว อวดรูปโฉม และสีสัน สร้างความรื่นรมย์ใจ ประทับใจให้นักแสวงบุญมิรู้ลืม
และคุณรู้ไหม การปลูกดอกไม้ ถนอมดอกไม้ของชาววัดไทยในอินเดีย สิ่งที่ติดตามมาโดยไม่ตั้งใจ คือผึ้งรวงค่ะ
ผึ้ง ก็คือแมลงนักสะสมน้ำหวานจากดอกไม้ตัวฉกาจ เหล่าผึ้งนักล่าน้ำหวานจากดอกไม้จึงตามมามากมายในวัดไทย มาเกาะอาศัย สร้างถิ่นฐานถาวร คือรวงรังที่หยาดหย่อนอยู่ตามที่ต่าง ๆ ในวัด ตามกิ่งไม้ ชายคา อาคาร โบสถ์ วิหาร แบบตามใจผึ้ง เช่น ในวัดไทยไวสาลี มีรวงผึ้งขนาดกระด้งรูปครึ่งวงกลมคู่หนึ่งแขวนเกาะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าศาลาใหญ่เลยทีเดียว ส่วนที่วัดไทยนาลันทานั้นนอกจากคุณผึ้งและพลพรรคจะแขวนรวงไว้มากมายตามชายคาที่พักกินข้าว ยังมีเป็นแถวในแนวชายคาโบสถ์ เป็นรูปครึ่งวงกลมสีดำ ๆ มองไกล ๆ คล้ายชายอุบะที่โค้งเว้าประดับอาคาร
มีผึ้ง มีรังผึ้ง ก็ย่อมมีน้ำผึ้ง ซึ่งมนุษย์รู้จักใช้ประโยชน์ในทางยา และอาหารมาแต่โบราณ
ชมพูทวีป ดินแดนที่มีป่าหิมพานต์ ดินแดนก่อเกิดอารยะธรรมมนุษย์มาแสนนาน ในสมัยพุทธกาลมีกล่าวถึงลิงกับช้างที่อุปัฏฐากพระพุทธองค์ ในพรรษาที่ทรงออกจากวัดโฆสิตาราม กรุงโกสัมพี ไปจำพรรษาในป่าปาลิเลยยะ แคว้นเจดีย์ เพียงลำพังพระองค์เดียว มีเพียงช้างปาลิไลยก์เข้ามาอุปัฏฐาก เก็บกวาดที่ประทับ ต้มน้ำร้อน และหาผลกล้วยมาถวาย ลิงเห็นเข้าอยากทำบ้างจึงได้นำรวงผึ้งมาถวายด้วยใจกุศล
ตามธรรมดาในรวงผึ้งก็จะมีห้องเล็ก ๆ สำหรับอนุบาลลูกผึ้ง หรือตัวอ่อน โดยนางพญาจะหยอดไข่ไว้ให้ฟักเป็นตัวอ่อนภายในห้องนั้น เมื่อลิงนำมาถวายคราแรกพระพุทธองค์ไม่ทรงรับ ลิงแสนฉลาดจึงกลับไปจัดการเอาตัวอ่อนของผึ้งออกไปหมดเหลือแต่รวงและน้ำผึ้งมาถวาย พระพุทธองค์ทรงรับและฉัน ลิงนั้นแสนดีใจ ปลาบปลื้ม จนกระโดด โลดเต้น ห้อยโหน โยนตัวตามกิ่งไม้ประสาลิง จนพลาดตกต้นไม้ลงมาตาย และได้ไปเกิดเป็นเทพบุตรบนสรวงสวรรค์ เช่นเดียวกับช้างที่ตรอมใจตายเมื่อออกพรรษาแล้ว และพระพุทธองค์ทรงได้รับนิมนตร์ออกจากป่าไปอยู่ยังวัดโฆสิตาราม ในกรุงโกสัมพีตามเดิม
มาอินเดียวันนี้ อย่าลืมไปชมดอกไม้ และสอดสายตาชมรวงผึ้งที่วัดไทยในอินเดียกันนะคะ
๐๐๐๐๐