Incredible อินเดีย ๑๑
จากพราหมณ์นักพยากรณ์ สู่ ปฐมสาวก อัญญาโกณทัญญะ
“เอื้อยนาง”
ระยะทาง จากอุรุเวลาเสนานิคม ชายแดนตะวันออกของแคว้นมคธ สู่ป่าอิสิปตนมฤคทายวันใกล้กรุงพาราณสี แคว้นกาสี นับเป็นระยะทางตามถนนรถยนต์ในปัจจุบันได้ถึงเกือบสามร้อยกิโลเมตร เราใช้เวลาประมาณครึ่งวัน(ตามเกณฑ์การเดินทางแบบรถและถนนของอินเดีย) ฟังเสียงแตรให้ทำนองเพลง สลับเสียงบรรยายธรรมบ้าง ฟังเรื่องจากประสบการณ์ ความรู้สึก จากชาวคณะไปบ้าง นั่งหลับ ๆ ตื่น ๆ เดี๋ยวก็ถึง แต่พระพุทธองค์ทรงดำเนินด้วยพระบาทมุ่งตะวันตกเป็นเวลากว่า ๑๑ วันจึงได้พบเหล่าปัญจวัคคีย์ที่หนีมายังป่าอันเป็นที่ชุมนุมแห่งนักบวชแห่งนี้
รอยเกวียนโบราณ
ก่อนพุทธกาลไม่นานนั้น ลุ่มน้ำคงคา ณ พาราณสีเมืองหลวงแห่งแคว้นกาสีเป็นแดนศักดิ์สิทธิ์(ซึ่งดำเนินมาก่อนนั้นจนล่วงปัจจุบันนับเวลากว่า ๔,๐๐๐ปี)เป็นที่ชุมนุมของนักบวช นักบำเพ็ญตบะ แสวงหาความหลุดพ้น ซึ่งมีรูปแบบต่าง ๆ ทั้งบำเพ็ญตบะแบบทรมานตน เพ่งมองดวงอาทิตย์ บูชาไฟ นั่ง นอน เดิน ยืนบนกองไฟที่ลุกโพลง หรือบริกรรมคาถาขณะมีวัตถุสิ่งของต่าง ๆ หนักเบาตามแต่สามารถ วางบนร่างกาย กำไว้ หรือเทินบนศีรษะ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีผลกระทบต่อสังคมให้วุ่นวายสับสน ทำให้พระเจ้าพรหมทัตกษัตริย์แห่งพาราณสี และเหล่าเสนาอำมาตย์ต้องจัดระเบีบบสังคมใหม่ จัดแบ่งเขตในเมืองเพื่อความเรียบร้อย สวยงาม เป็นที่เจริญตาเจริญศรัทธา สมเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ โดยจัดให้อุทยานหลวงที่ไม่ห่างไกลจากพระแม่คงคา มีป่าไม้ร่มรื่นสงบเย็นและเป็นที่อาศัยของสัตว์นานา โดยเฉพาะกวาง เป็นที่สัปปายะเหมาะแก่การปฏิบัติของนักบวชทั้งหลาย คล้ายเป็นการแบ่งโซนให้เหล่านักบวชนั่นเอง เป็นที่มาของนาม อิสิปตนะ ป่าแห่งนักบวช และมีกวางมากมาย เลยได้ชื่อเต็ม ๆ ว่า อิสิปตนมฤคทายวัน และนี่เองที่เหล่าท่านปัญจวัคคีย์มุ่งมา และพระพุทธองค์ได้ทรงเลือกเป็นสถานที่ประกาศพระศาสนา ทรงดำเนินด้วยพระบาทจากแคว้นมคธสู่กาสี ณ อิสิปตนมฤคทายวันแห่งนี้
แคว้นมคธ ณ เวลานั้นมีราชธานีชื่อ ราชคฤห์ ปกครองแบบราชาธิปไตยโดยพระเจ้าพิมพิสาร เป็นรัฐมหาอำนาจหนึ่งในสี่แห่งชมพูทวีป มีความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง ด้วยเหล่าเศรษฐี มหาเศรษฐีชนวรรณะแพทย์สร้างสมบารมีขึ้นมาเป็นแนวหน้า เป็นผู้ขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจของรัฐมีมากมาย หลายตระกูล จนแม้แต่แคว้นโกศลซึ่งเป็นหนึ่งในมหาอำนาจต้องขอแบ่งเศรษฐีให้ย้ายไปตั้งถิ่นฐาน สร้างสรรค์ความเจริญ มั่งคั่ง คึกคักด้วยการค้าการเกษตรอุตสาหกรรมในแคว้นโกศลด้วยบ้าง หลักฐานการเดินทางของคาราวาน กองเกวียน เดินทางไปมาค้าขายของสองแคว้น ระหว่างกรุงราชคฤห์ สู่กรุงสาวัตถี คือรอยเกวียนบนเส้นทางโบราณ ระหว่างราชคฤห์กับสาวัตถี ที่ปรากฏเป็นร่องลึก ทอดเป็นทางยาวบนเนื้อศิลาในหุบเขา ให้พวกเราคนรุ่นหลังได้ประจักษ์แก่สายตา ปัจจุบันได้รับการสงวนรักษาไว้เป็นโบราณสถานอีกแห่งหนึ่งที่เรียกแขกชาวพุทธ(แขกที่เป็นไทย เป็นจีน เป็นญี่ปุ่น เกาหลี ลื่น ๆ ที่ไม่ใช่อินเดียนะคะ)
เส้นทางจากอุรุเวลาเสนานิคม สู่ ป่าอิสิปตนมฤคทายวันจึงน่าจะมีชุมชนเกษตรกรรม อุสาหกรรมของชนวรรณะแพทย์ และศูทร(คาม นิคม เขตต์)กระจายอยู่ไม่น้อยเพราะพระพุทธองค์ทรงดำรงชีวิตด้วยการบิณฑบาต
ณ ป่าอันเป็นแหล่งอภัยทานสัตว์ เป็นที่ชุมนุมนักบวชใกล้พาราณสีแห่งนี้ ทรงได้พบกับปัญจวัคคีย์ผู้หนีมา ผู้ชวนกันเมินเมื่อเห็นพระองค์คราแรกและนัดหมายกันจะไม่ทำความเคารพ แต่ครั้นทรงดำเนินเข้ามาใกล้แย้มสรวลให้ด้วยพระเมตตา พราหมณ์ทั้งห้าก็ลืมสิ่งที่ได้นัดแนะกันไว้ลุกขึ้นต้อนรับ ครั้นได้ฟังธรรมครั้งแรกก็ยอมรับ และโกณณฑัญญะก็เกิดดวงตาเห็นธรรม ขอบวชเป็นพระภิกษุ และทรงพระราชทาน กลายเป็นพระภิกษุรูปแรกของพระศาสนา ได้นามว่า อัญญาโกณฑัญญะ
สำหรับท่านโกณฑัญญะนี้ เกิดในตระกูลพราหมณ์มหาศาล ในหมู่บ้านโทณวัตถุ กรุงกบิลพัสดุ์ ได้เรียนจบไตรเภทตามธรรมเนียมพราหมณ์ และยังได้เรียนการทำนายลักษณะเป็นความสามารถเพิ่มเติม จนได้เป็นหนึ่งในจำนวนพราหมณ์ ๘ คนที่พระเจ้าสุทโธทนะพระราชบิดาของเจ้าชายสิทธัตถะเชิญมาทำนายลักษณะของพระราชกุมารเมื่อกำเนิดมาได้ ๕ วัน พราหมณ์ ๗ คนได้ทำนายเป็นสองกรณีคือหากพระกุมารเจริญวัยและดำเนินชีวิตแบบคฤหัสถ์ จะต้องกลายเป็นพระมหาจักรพรรดิ และหากออกผนวชจะกลายเป็นพระบรมศาสดา แต่โกณฑัญญะซึ่งเป็นพราหมณ์หนุ่มที่สุดในที่นั้นเป็นเพียงคนเดียวที่ทำนายแบบฟันธงลงไปเลยว่า พระราชกุมารนี้ต่อไปจะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าศาสดาเอกของโลกแน่นอน
๒๙ ปีผ่านไป เจ้าชายสิทธัตถะทรงออกผนวชดังได้ทราบกันแล้ว โกณฑัญญะได้ชวนเหล่าพราหมณ์ที่ร่วมทำนายในครั้งนั้นติดตามพระองค์ แต่พราหมณ์เหล่านั้นบ้างแก่ชรามาก บ้างล้มหายตายจากไปแล้ว จึงมีแต่ลูกชายไปแทน ซึ่งก็มีพราหมณ์หนุ่มเพียงสี่คนร่วมเดินทาง คือ วัปปะ ภัททิยะ มหานามะ อัสสชิ รวมกับโกณฑัญญะแล้วจึงเป็น ๕ คน เรียกว่าปัญจวัคคีย์นั่นเอง โกณฑัญญะเป็นผู้มีอายุมากที่สุด ครั้นได้บวชเป็นเอหิภิกขุแล้วก็เป็นภิกษุมีประสบการณ์มาก นับเป็นปฐมสาวกแห่งพุทธศาสนา ทำให้เกิดมีพระรัตนตรัยครบถ้วนในโลก ณ บริเวณที่เป็นพุทธานุสรณ์สถานแห่งการประกาศธรรมเป็นที่ระลึกมาถึงปัจจุบัน คือ ธัมเมกขัมสถูป เป็นสถานที่แสดงปฐมเทศนา ซึ่งเป็นหนึ่งในสังเวชนียสถานทั้งสี่ที่สำคัญของพุทธศาสนิกชน
พระอัญญาโกณฑัญญะ ได้เป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่พระศาสนา ได้รับยกย่องจากพระพุทธองค์ให้เป็นเอตทัคคะในด้าน รัตตัญญู หมายถึง ผู้รู้ราตรีนาน ผู้มีประสบการณ์มากนั่นเอง
ในช่วง ๑๒ ปีสุดท้ายของชีวิตท่านอัญญาโกณฑัญญะได้ปลีกวิเวกไปพำนักจำพรรษายังป่าหิมพานต์ตามลำพัง และนิพพานในบรรณศาลาที่ริมสระฉันทันต์ พระพุทธองค์และสาวกจำนวนมากได้เสด็จทำฌาปนกิจศพให้ท่าน ณ ป่าหิมพานต์นั่นเอง
๐๐๐