http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,277,333
Page Views16,603,999
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บ้านทุ่งแสนสุขตอน10. ข้าวท้อง โดย มณีดิน เรื่อง/ธงชัย เปาอินทร์ -ภาพ

บ้านทุ่งแสนสุขตอน10. ข้าวท้อง  โดย มณีดิน เรื่อง/ธงชัย เปาอินทร์ -ภาพ

บ้านทุ่งแสนสุขตอน10. ข้าวท้อง

โดยมณีดิน

           ท้องทุ่งเวิ้งว้างกว้างไกลสุดสายตา เขียวขจีสีสวยเหนือคำพรรณนา ลมพัดโบยโบกโยกต้นข้าวและใบไหวเอนลู่ พลิ้วพรายกระจายไปทั่วทุ่ง ตามแรงของลมที่พัดผ่านแต่ละช่วง เช้าๆ ผมชอบเดินเล่นด้วยอยากเห็นหยาดน้ำค้างพร่างพรมอยู่ตามริ้วรายใบข้าว ยามเมื่อต้องแสงสุรีย์ดุจประกายเพชรสุกสว่าง ดอกต้อยติ่งสีม่วงอมฟ้าสง่างามเคียงข้างคันนา ตั๊กแตนตำข้าวกระโดดหลบเมื่อผมย่ำเข้าไปใกล้ๆ ผมสอดส่ายสายตาไปรอบๆพลางก็นึกถึง

หยาดน้ำค้างปลายใบข้าว

          คืนก่อน ณ ห้องเรียนธรรมชาตินอกชานบ้านเรา แม่เล่าว่า นาข้าวที่หลังวัดกำลังเขียวเต็มใบ อีกไม่นานก็จะ”ตั้งท้อง”แล้ว แม่จะรอจนกว่าข้าวจะสร้างน้ำนมแล้วเมล็ดข้าวลีบๆสีเขียวอ่อนๆก็จะค่อยๆเปล่งปลั่งขึ้น ช่วงนี้คนทำนาต้องระวังนกกะทิ(นกกระติ๊ดขี้หมู) และนกกระจาบที่จะมาลง มันชอบกรีดกินน้ำนมข้าวด้วย ทั้งรวงจะเหลือเพียงไม่กี่เมล็ด

ข้าวท้อง

           แม่เล่าต่ออีกว่า ช่วงนี้เหมือนที่แม่ตั้งท้องลูก ต้องระมัดระวังมาก กลัวแท้ง กลัวกระเทือน กลัวจะออกลูกมาไม่สมบูรณ์ ชาวนารู้ว่านกกระทิและนกกระจาบเป็นศัตรูตัวฉกาจ เขาจึงต้องคอยเอาใจใส่มากกว่าปกติ

          “บางทีชาวนาก็ใช้ตาข่ายตา 2-3 ซม.วางดัก แล้วจุดประทัดไล่ นกตกใจก็บินเข้าไปติดตาข่ายคราวหนึ่งเป็นร้อยๆตัว” เสียงแม่เหนื่อยอ่อน

          “แล้วนกกระจาบไม่สามัคคีบินพาตาข่ายหนีหรือแม่” ผมถามด้วยความสงสัย

          “บินไม่ไหวหรอก ลงกระทะทอดกรอบกินกันหมดทั้งฝูงนั่นแหละ” แม่ตอบเหมือนไม่เห็นด้วยนัก

กำลังสร้างน้ำนมข้าว

          “นกกระจาบฉลาด เมื่อเห็นเพื่อนๆถูกตาข่ายไปเช่นนั้นก็จะไม่กลับมาที่นาแปลงนี้อีก ส่วนนกกะทิไม่เหมือน มันบินหนีไปสักพักหนึ่งแล้วก็วนกลับมาอีก เหมือนมันท้าทาย “กูไม่กลัวมึง”อะไรทำนองนั้น หรืออาจจะนึกในใจ “ตายเป็นตาย”   

          “บางเจ้าเขาก็ใช้จุดประทัดไล่นะ” แม่ต่อความยาว

          “วิธีนี้ก็ดีเหมือนกัน เมื่อนกตกใจมันจะบินหนีไป แล้วอีกสักครู่ก็จะบินกลับมาอีก เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ไล่นกได้อย่างไม่ชะงัดนัก”

รวงเต็มๆ

           “ถึงอย่างไรชาวนาก็ต้องหาวิธีการไล่นกที่เข้ามาจิกกินรวงข้าว ” แม่นิ่งเงียบ ผมทนไม่ได้ถามต่อ

           “หุ่นไล่กาล่ะแม่”

           “ช่ายเลย” แม่ลากเสียงยาว “ชาวนาทำหุ่นไล่กาด้วยฟางข้าว สวมเสื้อชาวนาแบบแขนยาว ปลายแขนต้องลมก็ไหวพะเยิบๆ ส่วนจะได้ผลไหม แม่ก็ไม่แน่ใจนักนะ”

เห็นได้ว่า เมล็ดข้าวหายไป

           ผมเดินไปจนสุดคันนา โน้มตัวลงไปจนใกล้หยดน้ำค้างพร่างพราวที่เกาะตามใบข้าวและหญ้าที่รกเรื้อ หยาดน้ำค้างเหมือนหยาดน้ำตาใบข้าว แดดส่องกระทบเกิดประกายใสๆคล้ายเพชรสะท้อนแสง ผมเด็ดใบข้าวที่มีหยาดน้ำค้างมาแตะลิ้น ไม่มีรสชาติอะไรเลย

           ผมมองหาสิ่งที่แม่พูดถึงเมื่อคืน “ข้าวท้อง” จึงได้เห็นต้นข้าวบางต้นอวบอิ่ม บางต้นยังอรชรอ้อนแอ้น ไร้วี่แววว่าจะท้อง ผมเหลียวเอี้ยวตัวไปทางซ้ายจึงได้เห็นต้นข้าวอวบๆหลายต้น ผมขยับไปจนใกล้แล้วมองด้วยแววพินิจวิเคราะห์ “ข้าวท้อง”แล้ว อีกไม่นานข้าวจะผลิตน้ำนมในเมล็ด ระหว่างนี้ต้องระวังนกกะทิและนกกระจาบ

ประทัดขว้างไล่นกกระทิ

           แต่แท้ที่จริง ชาวนาต้องเผชิญหน้ากับศัตรูอีกมากมายหลายอย่าง ปูอาจจะกัดกินต้นข้าว หอยเชอรี่วางไข่สีชมพูไปทั่ว หรือบางทีก็หนูนากินข้าวสุกสีเหลืองอร่าม แต่ที่เห็นว่าเสียหายมากเป็นไก่น้ำ(นกอีลุ้ม) เจ้านกตัวนี้มีสีเขียวอมสีฟ้า หงอนแดง ปากหนา กินกุ้ง แมลง หนอนเป็นอาหาร แต่ที่ชาวนาไม่ชอบมันก็ตรงที่ได้เวลาหา”รังนอน” มันจะบินลงไปในนาข้าวแล้วตีแปลงทำรังนอน ต้นข้าวที่กำลังออกรวงเต็มช่อล้มระเนระนาด เสียหายทันใด

นกกระทิผวาขึ้นด้วยอาการตกใจ

           “ไก่น้ำใช้ประทัดไล่ไม่ได้ผล ต้องด้วยปืนลูกกรด แล้วตามหามาแกงกิน อร่อยเชียว”

           “แม่คะ เป็นชาวนานี่ลำบากจัง หนูไม่เป็นดีกว่า”พี่เจนเอ่ยเบาๆ แล้วนอนนิ่งรอแม่พูด

           “อยากเป็นอะไรล่ะ” แม่หัวเราะฮึๆ

           “ครูค่ะ” ทุกคนหัวเราะด้วยขำขัน พี่เจนเด็กหญิงผู้เชื่องช้าอยากเป็นครู  

           “จะไล่ตีเด็กๆทันหรือ เขาว่ายิ่งกว่าจับปูใส่กระด้งเชียวนะ” แม่ติงขำๆ

ดอกต้อยติ่งชายทุ่ง งดงาม

            ผมเดินไต่คันนากลับ แล้วดินทอดน่องข้ามสะพานหน้าวัดกลับไปยังรัง เอ้ย บ้าน เตรียมตัวไปโรงเรียนที่วัดห้วยคันเหมือนทุกวัน เป็นความหวังหนึ่งที่จะไม่ต้องเป็นชาวนาผู้ได้ชื่อว่า เอาหลังสู้ฟ้าเอาหน้าสู้ดิน หรือบางทีก็กล่าวกันว่า ชาวนาคือกระดูกสันหลังของชาติ ทั้งคำกล่าวที่ว่าฟังแล้วกลัวปวดหลัง

            “ใครเรียนได้สูงแค่ไหน ถ้าแม้นแม่ไม่มีเงินให้เรียน แม่ก็จะขายนาส่งให้”

หยาดน้ำค้างพร่างพรม

         

       

       

 

Tags : บ้านทุ่งแสนสุขตอน9.แกงส้มดอกแค

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view