http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,277,471
Page Views16,604,147
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

บ้านทุ่งแสนสุขตอน16 เก็บข้าวตก

บ้านทุ่งแสนสุขตอน16 เก็บข้าวตก

บ้านทุ่งแสนสุข

ตอน16. เก็บข้าวตก

โดย มณีดิน

               ลมหนาวกระโชกมาแรง เสื้อหนาวผ้าสำลีที่แม่ให้พี่เจนซักได้ใช้ ทุกคนสวมทับเสื้อยึดตราห่านคู่  แม้แต่พ่อผมซึ่งปกติแล้วไม่ค่อยแยแสกับลมร้อนหรือลมหนาว คราวนี้ต้องใส่เพราะว่าหนาวจริงๆ หนาวกว่าทุกปี และก็พัดพามาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย  ลมหนาวพัดมาทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ถ้าที่บ้านห้วยคันก็แถวๆบ้านตาไจ๊ เหมือนว่าลมล่องมาตามคลองอีดูด

                ทุกค่ำเช้า แม่หยิบกระปุกน้ำมันมะพร้าวมาให้ทุกคนชโลมผิวกาย อันประกอบไปด้วย ผิวหนังตามลำแขนและขา ใบหน้าและลำคอ พี่เจนหนักกว่าใครด้วยเป็นคนผิวแห้งและหยาบ  ริมฝีปากและฝ่าเท้าแตกจนเลือดซิบๆ แม่ต้องใช้สีผึ้งทาปากเวลากินกับหมากมาถูทาให้ด้วยตนเอง

              “เวลาแม่ตีพี่เจนเหมือนว่าจะตีให้ตาย เหมือนไม่รักเอาซะเลย มึงดูซิ แม่ทาฝ่าเท้าให้พี่เจนด้วย”

               พี่จันชี้ชวนให้พวกเราดู ผมนั้นพอจะได้ความรู้สึกที่เห็น  แต่ ทุยมองตามและฟังแล้ว ก็เหมือนเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย คงเพราะว่ายังเด็กน้อยไร้เดียงสาละกระมัง  พี่เจนนั่งนิ่งใบหน้าไม่บ่งบอกเรื่องราวและความรู้สึก หรืออาจจะงงงวยกับความเอื้ออาทรที่แม่หยิบยื่นให้  

               น้ำในคลองลัดหน้าบ้านผมแห้งขอด เหลือเพียงน้ำในคลองใหญ่หน้าวัด    เรือไอและ เรือหางยาวที่เคยสัญจรหายไปหมด   เหลือเพียงเรือพายไม่กี่ลำที่ยังใช้สัญจรไปมาหาสู่กันอยู่บ้าง พรานเบ็ดก็ยังใช้พายไปวางลอบ ดักตาข่าย หรือพายข้ามไปอีกทุ่งหนึ่ง  เรือลากข้าวจากทุ่งยังใช้แม้จะต้องเข็นเป็นบางช่วงที่ติดดอน เพื่อขนข้าวฟ่อนมากองรอนวด บนลานข้าวที่ยาด้วยขี้ควายผสมดินเลนและฟางข้าว

               เช้าวันพระ หยุดเรียนเพราะว่าศาลาวัดอันเป็นห้องเรียนต้องใช้เพื่อให้ชาวบ้านมาทำบุญตักบาตร พวกเราเหล่าทโมนนัดกันแล้วว่าจะแห่กันไปทุ่งท้ายวัด ไปเก็บข้าวตกกันเหมือนทุกปี ไปช้าก็ไม่ได้ด้วยว่าข้าวตกมีคนมาเก็บจากทุกหมู่บ้านที่รายรอบทุ่งนี้อยู่ พวกที่อันตรายเก็บไวและทนทายาทก็พวกเด็กจากวัดตลาดใหม่ บ้านหลักขอนทางใต้น้ำ เด็กโรงสีและพวกเพื่อนจากบ้านห้วยคันเหนือจึงต้องระดมพลังกัน ไปก่อนได้ก่อน ได้เยอะกว่าด้วย

                ผมสวมเสื้อคอกลมตราห่านคู่ไว้ข้างใน สวมทับด้วยเสื้อกันหนาวที่เย็บจากผ้าสำลีตัวเก่ง แต่เป็นตัวเก่าที่คับปึก  ถ้าขืนใส่ตัวใหม่ไปได้ไม่คุ้มถูกแม่ตีเอา ทุยแต่งตัวตาม สวมหมวกกระเพาะหมูใบเก่ง สวมถุงเท้ารองเท้าลูกเสื้อเท่ระเบิด ยังกับไปเดินเล่น  เสริมกับชินเดินมาสมทบ แล้วเราสี่คนก็เดินตามกันไปยังทุ่งหลังวัด แต่ละคนสะพายด้วยกระบุงใบเล็กๆ ไม่ได้เตรียมน้ำและกล่องข้าวกลางวัน หวังกันว่าจะรีบเก็บแต่เช้าพอแดดจัดก็รีบกลับ

               ทะลุหลังวัดไปทางป่าช้า เดินลัดทุ่งลงไปเก็บข้าวตกกันทันที มีข้าวตกที่หลุดจากมือชาวนาร่วงหล่นทั่วไป แต่บางรวงหลงติดอยู่กับต้นข้าว หลุดวงเคียวที่เกี่ยวเข้ามาตัด ผมจึงต้องใช้มือสองมือฉุดกระชากจากกอข้าว ทุยก็ทำเอาอย่างบ้างเมื่อเจอรวงติดกอ ออกแรงเต็มที่ ใบหน้าแดงกร่ำด้วยเลือดฝาด พอรวงข้าวหลุดจากกอก็หงายผลึ่งลงไปกองกับพื้น เสียงเฮและเสียงหัวเราะดังขรม ทุยเขาเป็นอย่างนี้ทุกที แกล้งมุกหรือก็เปล่า

               ทุยน้องผมเขาเป็นเด็กที่ อ้วนท้วนสมบูรณ์ดี ผิวพรรณเปล่งปลั่งเหมือนไม่เคยต้องแดด ปกติแล้วจะไปนั่งอยู่หน้าจอทีวีขาวดำเครื่องเดียวของหมู่บ้าน แต่ถ้าชวนมาเก็บข้าวตกก็รีบแต่งตัวเตรียมมาทันที เขาชอบ  วันนี้ออกมุกหงายผลึ่งไปสองครั้ง ยังเหลือก็ตอนเดินกลับ เขาจะหกล้มจนกระบุงกระจายอีกหรือเปล่า

                ผมเล่าให้พวกฟังว่า “ทุกครั้งที่แม่ใช้ไอ้ทุยไปซื้อโอเลี้ยงที่วัด แม่เอาขันใบใหญ่ให้ไปเลย  แต่เมื่อตาใหญ่ใส่โอเลี้ยงให้มาแล้ว ระหว่างเดินประคองขันกลับบ้าน  มันสะดุดจนล้มคว่ำไปกับขันโอเลี้ยงทุกที่”

               “อดกินกันพอดี” ไอ้เสริมเสริมขึ้นแล้วก็หัวเราะกันฮาใหญ่

                พระอาทิตย์ไม่เคยคอยใคร ใครจะเก็บข้าวตกได้มากหรือน้อยก็ไม่คอยแล้ว ขึ้นทะยานสูงแค่ไหนก็เปล่งรัศมีตีแผ่ความร้อนให้มากขึ้นเป็นเงาตามตัว  ตะวันใกล้ตรงหัว แต่ละคนได้ข้าวตกเต็มกระบุง ไอ้เสริมอัดจนแน่น มันขึ้นเหยียบซ้ำหวังจะเก็บได้เพิ่ม แต่ผมกับไอ้ทุยได้แค่เต็มกระบุงหลวมๆ   เราสะพายกระบุงไขว้ข้างเอว แล้วก็เดินแบบตีกรรเชียงเอียงนิดๆกลับบ้าน ผมเทข้าวตกลงในกระด้งใบใหญ่ของแม่ ไอ้ทุยเทตาม สองคนสองกองก็ได้ข้าวตกกองใหญ่ แม่เหลียวมามองแล้วหัวเราะชอบใจ พี่เจนยิ้มๆ พี่จันนั่งอ่านหนังสือนิยายไม่สนใจใคร พ่อหรือ พ่นบุหรี่อยู่เหมือนเดิม

               “อย่าเพิ่งไปไหนนะ มึงสองคนขึ้นไปเหยียบกองข้าวจนกว่าเมล็ดข้าวจะตกพื้นกระด้ง ไม่งั้นแม่ไม่ให้กินข้าวกับแกงหน่อไม้ใส่เป็ดนะมึง” แม่พูดแล้วทำท่าอร่อยจนปากจู๋ ผมกับไอ้ทุยกลืนน้ำลายลงคอ

               “กินก่อนได้มั้ยแม่ อิ่มแล้วเหยียบแน่” ผมต่อรอง  แม่หัวเราะ

               “มึงอย่ากะล่อน ทำงานซะก่อนค่อยกิน” แม่หัวเราะแล้วพูดเหมือนเล่น

               ผมสองคนจึงต้องเดินขึ้นไปเหยียบๆๆๆ ฟางข้าวที่ติดรวงข้าวจึงทิ่มตำฝาเท้าและแข้งขาของเราจนแดงเป็นเทือก เมื่อถอดเสื้อหนาวผ้าสำลีตัวเก่าคับปึ๋ง มีเศษฟางติดพราวทั่วแขนข้างขวา ถอดออกแล้วก็เหวี่ยงรวมกองกับเสื้อคอกลมและกางเกง  พี่เจนเดินมาหยิบแล้วร้องบอก

               “ไปอาบน้ำกันซะก่อน แล้วค่อยเปลี่ยนเสื้อกางเกงตัวใหม่”  

                “ไอ้ดำ ถอดออก ไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้”

                พี่เจนตวาดใสเมื่อเห็นผมทำท่าจะสวมกางเกงโดยไม่อาบน้ำ ไอ้ทุยนั้นไม่ต้องพูดถึง เขาต้องอาบน้ำจนเกลี้ยงแล้วมานอนตีแปลงให้พี่เจนทาแป้งจนทั่วตัว แต่ไม่ยอมลุกขึ้นใส่กางเกงเอง ยังทำเป็นเมื่อวัยเด็กเล็กๆกลิ้งหนีแล้วให้พี่เจนไล่ตะครุบใส่กางเกงและเสื้อกล้ามให้ เป็นความสุขที่ได้แกล้งพี่เจน ซึ่งกว่าจะไล่จับมันทันก็เล่นเอาเหงื่อตก  เสียงหัวเราะของพี่น้องท้องเดียวกันสุขสม

                  แม่เก็บข้าวตกที่นวดด้วยรอยเท้าของลูกชายจอมซนใส่ปี๊บไว้ต่างหาก แม่ยิ้มเหมือนอิ่มใจ แต่แม่ก็ยังไม่รู้ว่าจะเอาข้าวเท่ากระหยิบมือเหล่านี้ไปทำอะไร ยังไงก็เป็นความพยายามของเด็กๆที่อยากได้ เป็นการเรียนรู้คุณค่าของข้าวทุกรวง การงานที่สมัครใจทำ เป็นวัฒนธรรมหนึ่งของลูกชาวนา ของเด็กๆที่อยู่ใกล้นา ใช่แล้วละครับ ผมไม่ใช่ลูกชาวนาแต่เป็นลูกหลานเจ๊กโรงสี ถึงอย่างไรก็เกี่ยวข้องกับชาวนาอยู่ดี เป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน

                   

          

 

Tags : บ้านทุ่งแสนสุข 15.

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view