ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวง

ประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวง

ริมแม่น้ำปิง อ.เมือง จ.ตาก

24-29 พฤศจิกายน 2555

โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

               ตำนานการลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวงนั้นว่ากันว่า ด้วยคนเมืองตากนิยมต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองจากการทำเมี่ยงมะพร้าวห่อด้วยใบชะพลู  จึงมีกะลามะพร้าวเหลือเป็นภูเขาเลากาว่าอย่างนั้นเถอะ

ผู้ว่าราชการจังหวัดตากนายสุริยะ ปราสาทบัณฑิตย์ กล่าวเปิดงาน

               แต่ด้วยภูมิปัญญาของชาวเมืองตากจึงดัดแปลงแต่งแต้มกะลามะพร้าวเป็นกระทง แต่งเติมด้วยด้ายดิบที่นำมาขวั้นกับขี้ผึ้งจนเป็น"ด้ายตีนกา"แล้วฝังลงไปในก้นกะลาหมกด้วยเทียนขี้ผึ้งเป็นเชื้อเพลิงเพื่อจุดไฟในวันที่จะนำไปลอยกระทง

               ประจวบกันแม่น้ำปิงช่วงหน้าเมืองตากมีดอนทรายทำให้เกิดกระแสน้ำไหลเป็นร่องเมื่อนำกระทงกะลามะพร้าวไปลอยจึงทำให้กระทงไม่หลงทางแต่ไหลตามกันเป็นสายไปตามร่องน้ำที่ไหลนำมองเห็นแสงเทียนวิบวับไปเป็นสาย งามจับใจ แปลกไปจากการลอยกระทงของทุกพื้นที่

                กระทงกะลามะพร้าวชาวบ้านก็ลอยกันไปตามประสา แต่แล้ววันหนึ่งซึ่งจังหวัดตากเกิดความคิดบรรเจิดเลิศสะแมนแตนขึ้นมา จึงเกิดการนำกระทงกะลามะพร้าวเหล่านั้นมาจัดเป็นประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวงตราบเท่าทุกวันนี้

                เมื่อทำกันทุกปีๆจนกลายเป็นประเพณีสำคัญของจังหวัดตากแล้ว ก็ได้พัฒนารูปแบบการจัดงานจนยิ่งใหญ่อลังการ ตบแต่งถนนเลียบแม่น้ำปิงสวยสะด้วยแสงสีพราวแพรว แห่แหนขบวนสายกระทงด้วยกลุ่มหรือหมู่ที่แต่งตัวกันอย่างสวยงาม เรียกน้ำย่อยให้นักท่องเที่ยวได้ชม

 

                 โรงแรมหรือ รีสอร์ทหรือ โฮมสะเตย์ ได้รับการจองเข้าพักเต็มไปตลอดช่วงประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีปทุกปี เม็ดเงินสะพัดพรูไปทั่วจังหวัด  รถราวิ่งกันขวักไขว่  เงินไหลมาเทมาเป็นสายๆ

เรือนาคเจ็ดเศียรก็นำมาใช้แห่พระประทีป

                 ชาวตากแย้มยิ้มยินดีและมีไมตรีให้กับพี่น้องนักท่องเที่ยว ที่นำเงินมาใช้จ่ายไปทุกที่ ร้านอาหาร ร้านเครื่องดื่ม ร้านกาแฟสด ร้านของฝากต่างแซ่ซ้องสรรเสริญ   ภูมิใจในประเพณีที่มีทุกปีนี้เป็นอย่างยิ่งซะอีกด้วย

 

ประดับด้วยไฟสวยงาม

                 ในการลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวงมีการแข่งขันกันทุกปี มีการมอบรางวัลผู้ชนะและเปิดให้กลุ่มต่างๆจากพี่น้องในจังหวัดตากได้ร่วมเข้าแข่งขันกันลอยกระทงสายอันมีเทคนิคมิใช่น้อย ตลอดจนต้องแต่งตัวสวยสดงดงามเข้ากับบรรยากาศของประเพณีแสนงาม

                  ชาวตากยิ่งปลาบปลื้มเป็นล้นพ้นเมื่อปีพ.ศ.2540 ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานรางวัลชนะเลิศให้แก่ผู้ฃนะเลิศการแข่งขันการลอยกระทงสาย

ราชรถขบวนแห่พระประทีปราชวงศ์จักรี

                  ปีพ.ศ.2542 ทรงโปรดพระราชทาน"พระประทีป"ให้มาลอยประทีปเป็นกระทงมหาฤกษ์มหาชัยบำรุงขวัญของปวงชนชาวพี่น้องเมืองตาก ต่อมาจึงมีกระทงพระราชทานถึง 10 กระทงจากราชวงศ์จักรี คนเมืองตากช่างโชคดีกว่าจังหวัดไหนๆ

ลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวง

                  นอกจากนั้น ในการประกวดกระทง ยังมีหลายรูปแบบ แบบกระทงใหญ่ๆแต่งแต้มกันวิจิตรอลังการ กระทงขนาดกลางต่างกันไปอีก และกระทงกะลามะพร้าวเล็กๆอันหมายถึงนำกะลามะพร้าวมาตกแต่งด้วยศิลปะแสนงามหาชมที่ไหนไม่ได้

                 ชาวบ้านน้ำกระทงกะลามะพร้าวมาวางขายให้กับนักท่องเที่ยวทั่วไปตามรายทางในงานนี้ ไม่ลอยแต่เก็บไว้เป็นของที่ระลึกก็ยังได้ มิใช่หรือ กะลาทนทานเก็บไว้ได้นาน

 

                 นอกจากการไหลประทีปลงลอยในแม่น้ำปิงแล้ว ยังได้มีการปล่อยโคมลอยสู่ห้วงนภายามราตรีอีกด้วย แต่ก็ไม่ลอยกันหนาแน่นอย่างเชียงใหม่เชียงราย

   

                 ค่ำคืนที่มีแสงจันทร์เต็มดวงเปล่งประกายให้แสง"นวลผ่อง" คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศ มีทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

                 แสงไฟแฟลชแว๊บว๊าบขึ้นทุกนาที ด้วยกล้องดิจิตอลขนาดพกพา จากภาพสื่อถึงคนที่ไม่ได้มา ยิ่งเพิ่มปริมาณนักท่องเที่ยวในวันข้างหน้า ช่างภาพมือสมัครเล่นมากเพียงใดก็จะได้ผู้ช่วยทำการประชาสัมพันธ์ได้มากขึ้นๆ เพียงนั้น

 

                 การจัดงานประเพณีลอยกระทงสายไหลประทีป1,000ดวงริมฝั่งแม่น้ำปิงหน้าเมืองตาก ทุกปีจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24-29 พฤศจิกายน บริษัทนำเที่ยวภายในประเทศ เช่นบริษัทฟูจิทัวร์ก็จะช่วยพานักท่องเที่ยวมาร่วมงานนี้ได้อย่างสะดวกสบายหายห่วงทั้งเรื่องอาหารการกินและที่พักแรมทางแต่มากับทัวร์นี้หนักกินต้องระวังน้ำหนักจะขึ้น

สองอนงค์นี้แต่งชุดไทยหญิงรัตนโกสินทร์งาม

                 ส่วนใหญ่ก็จะพาไปท่องเที่ยวแหล่งอื่นๆของจังหวัดตากด้วย เช่นพาไปล่องแพแม่น้ำแม่กลองที่อุ้มผาง ไปชมทะเลหมอกที่ดอยหัวหมด  ไปดูความยิ่งใหญ่อลังการของน้ำตกทีลอซู

 

                และไปกราบไหว้ศาลพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้เคยทรงเป็นเจ้าเมืองตากและทรงกู้ชาติคืนจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งที่2 เมื่อปีพ.ศ.2310 อันเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่ปวงชนชาวไทยสืบมาตราบเท่าทุกวันนี้

ศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ว่ากันว่าทั้งเฮี้ยนและเฮง

                 จังหวัดตากจังหวัดเดียวมีแหล่งท่องเที่ยวมากมายเหลือคณนา เป็นจังหวัดที่มีแหล่งท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพร  มีทั้งศิลปะวัฒนธรรมประเพณีที่แตกต่างและโดดเด่นเห็นได้เช่นงานนี้

เพื่อน อนศ.พระนคร ของผมเชียร์กันตรึม

                 นอกจากนั้นยังมีสิ่งมหัศจรรย์อีกมากมายที่ท่านสามารถเข้ามาสัมผัสได้ในหลายรูปแบบ เช่นเนินมหัศจรรย์ ต้นไม้กลายเป็นหินที่ขุดค้นพบสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย ด้วยระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพมากนัก ที่พักแรมก็ราคาถูกแทบไม่น่าเชื่อ มาเที่ยวตากอีกสักครั้งจะติดใจ

                 ขอขอบคุณอย่างยิ่งแด่ท่านผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ภูมิภาคภาคเหนือท่านสุจิตรา จงชาญสิทโธ (ชุดไทย)ท่านผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดตาก ผอ.สุรินทร์ ติเพียร และคณะ ที่กรุณาให้เรียนเชิญผ่านบริษัทฟูจิทัวร์ของ คุณทรงศักดิ์  ศรีเคลือบ  ประธานอนุกรรมการด้านตลาดภายในประเทศ สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

ผอ.ททท.ตาก คุณสุรินทร์ ติเพียรและคุณทรงศักดิ์ ศรีเคลือบ

                  ทำให้ได้รูปภาพและเรื่องราวมาเขียนลงใน www.thongthailand.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์เล็กๆที่ยังมีสถิติคนเข้าชมเพียง 2ล้าน9หมื่นคนเศษๆ เพจวิว  2.66 ล้านครั้ง มีเรื่องให้อ่านกว่า 20 คอลัมม์ กับจำนวนเรื่อง 1450 เรื่อง  นอกจากนี้ ผมยังมีรูปและเรื่องไปโพสท์แล้วเล่าสู่กันชมในwww.facebook.com/ธงชัย เปาอินทร์ และwww.twitterr.com/PaoinThongchai อีกด้วย ซึ่งผมมีเพื่อนอยู่กว่าพันคน  

                 เชิญผมมาคนเดียวสามารถเที่ยวไปในโลกไซเบอร์ได้หลายช่องทาง เนื้อเรื่องที่เขียนจะช่วยให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา ได้นำไปเขียนรายงานและเรียนรู้หลากเรื่องราว

                 บก.บริหารคนนี้เป็นคนแก่แต่ยังมีไฟลุกโพลง พร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อถ่ายรูปและเก็บงำเรื่องราวไปสาธยายให้เพลิดเพลินได้

                 นอกจากนั้น ถ้าท่านเชิญผมไปงานไหนท่านได้บุญมากมายถวายหัวเพราะว่าท่านได้ช่วยให้คนแก่คนนี้ไม่ต้องนั่งน้ำลายยืดอยู่กับบ้าน ได้รอยยิ้มและสนุกสนานกับความเป็นคนแก่ใจดี ไม่มีสตางค์แจก อยู่ชานกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ฮา (แล้วจะมีใครเชิญไปไหนไหมเนี่ย)