ภาพเขียนสีสิมวัดไชยศรีเรื่องสังข์ศิลป์ชัย
โดย ป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
อนุสนธิจากการเดินทางไปตามเส้นทางท่องเที่ยวภาคอีสานของสำนักงานส่งเสริมการท่องเที่ยวกองทัพบกและสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ จึงได้ไปยังสิมวัดไชยศรี เพื่อชมภาพศิลปะจากช่างพื้นถิ่น ที่สื่อถึงวัฒนธรรมประเพณีและตำนานนิทานพื้นบ้านเรื่องสังข์ศิลป์ชัย หรือภาษาอีสานเรียกว่า "สินไซ" ในทำนองเดียวกับที่เรียกโบสถ์หรืออุโบสถว่า"สิม" ไม่ไปละก็เสียดายเลย
วัดไชยศรี ตั้งอยู่ในหมู่บ้านสาวะถี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น วัดนี้สร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2408 มีหลวงปู่อ่อนสาเป็นเจ้าอาวาสองค์แรก ต่อมาปีพ.ศ.2443 หลวงปู่อ่อนสาจึงได้สร้างโบสถ์หรือสิมขึ้น รูปสถาปัตยกรรมตามแบบฉบับสิมอีสานโบราณ โดยฐานและผนังสิมก่ออิฐฉาบปูน หลังคาเครื่องไม้มีปีกยื่น บานประตูและหน้าต่างแกะสลัก
ที่โดดเด่นมากเป็นผนังสิมทั้งด้านนอกและด้านในมีศิลปินพื้นบ้านช่วยกันเขียนภาพด้วยสีจากวัสดุจากธรรมชาติ สีที่ใช้มีสามสีหลักคิอสีฟ้า สีครามและสีขาว แสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ เรื่องพระเวสสันดรชาดก ภาพเทพและสัตว์ต่างๆ และที่สำคัญสุดเห็นจะเป็นนิทานตำนานพื้นบ้านเรื่อง"สินไซ" หรือ สังข์ศิลป์ชัย นอกจากนั้นยังมีเรื่องราวเกี่ยวกับนรกแปดขุม
ศิลปะการวาดเป็นแบบพื้นบ้านจริงๆ ไม่มีช่องไฟแต่แทรกรูปวาดเต็มพื้นที่ รูปลักษณ์เหมือนตัวการ์ตูน ไม่ได้สัดส่วนตามจริง ภาพที่เห็นจึงดูมีอารมณ์สนุกสนาน คนอีสานเรียกภาพเขียนสีแบบนี้ว่า "ฮูปแต้ม" เขียนโดยช่างแต้มฝีมือพื้นบ้านชื่อนาย ทอง ทิพย์ชา เป็นชาวอำเภอบรบือ จังหวัดมหาสารคาม กับช่างแต้มอื่นๆอีกหลายคนมาช่วยกันวาดจนเสร็จ
นับแต่นั้นสิมนี้ที่ห้ามสุภาพสตรีขึ้นไปก็ยังคงห้ามขึ้นไปเช่นเดิม เมื่อชำรุดทรุดโทรมไปตามกาลเวลาก็มีการซ่อมแซมตามประสาพื้นบ้าน จนเมื่อกรมศิลปากรเข้ามาดำเนินการจึงซ่อมแซมให้เหมือนจริงแต่ดั้งเดิมมากที่สุด เว้นแต่รูปทรงหลังคาสิมที่เปลี่ยนไป พระพุทธรูปองค์ประธานยังเป็นองค์เดิม ศิลปะพื้นบ้านอีสาน ต้องยอมรับว่า ภูมิปัญญาท้องถิ่นนั้นลึกล้ำกว่าที่จะคาดถึง สียังแจ่มสง่างจริงๆ
หลังจากได้ชมภาพเขียนสีพร้อมด้วยอาจารย์ วิทยา วุฒิไธสง สำนักวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น ให้คำอธิบายอย่างสนุกสนานจนเพลินแทบจะลืมเวลา ยังได้ไปชมและฟัง หมอรำพันปีที่ใต้ถุนศาลาการเปรียญ เมื่อกลับขึ้นรถบัส ยังได้ฟังเรื่องราวสิมอีสานอย่างเมามันจาก นส.สุภัทรา แซ่จัง พนักงานการตลาด ททท.สนง.ขอนแก่น ซ้ำเข้าไปในใจอีก ม่วนแท้ๆ
คุณสุภัทราเล่าว่าอิสานมีสิมอยู่ถึง สิมที่อยากอวดให้ได้ชมกันได้แก่ สิมวัดไชยศรี สิมวัดมัชฌิมวิทยาราม สิมวัดสนวนวารีพัฒนาราม อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น สิมวัดสระทอง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น สิมวัดสระบัวแก้ว อ.หนองสองห้อง ขอนแก่น วัดยางทวงวราราม อ.บรบือ จ.มหาสารคาม วัดป่าเลไลย์ อ.นาดูน จ.มหาสารคาม วัดโพธาราม อ.นาดูน จ.มหาสารคาม เป็นต้น