http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,397,763
Page Views16,731,086
« November 2024»
SMTWTFS
     12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

มาฆบูชา ๕๖ ที่วัดตอนตะโหนด อ.ค่ายบางระจัน โดยเอื้อยนาง เรื่อง-ภาพ

มาฆบูชา ๕๖ ที่วัดตอนตะโหนด อ.ค่ายบางระจัน โดยเอื้อยนาง เรื่อง-ภาพ

มาฆบูชา ๕๖ ที่วัดตอนตะโหนด

อ. ค่ายบางระจัน

“เอื้อยนาง”

 

                อุณหภูมิในกรุงเทพฯสูงจนร้อนดั่งไฟรุม  ด้วยบรรยากาศธรรมชาติแวดล้อมที่โอบตัวมันเองอยู่แล้ว  มาบวกกับสถานการณ์ทางการเมือง   หน้าสิ่วหน้าขวานด้วยใกล้วันเลือกตั้งผู้ว่าราชการ  ก็เลยยิ่งเพิ่มดีกรีในใจคนให้รุ่มร้อนร้อยเท่าทวีคูณ

                 ณ พ.ศ. นี้ ความแตกแยกทางความคิดของคนในสังคมแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายรุนแรง  จนเกิดความหวาดระแวงแฝงเร้น ในทุกสีหน้าและแววตา  หลบซ่อนซ้อนซุก  เป็นแรงกดดันให้หัวใจคนรนร้อนยากจะผ่อนคลาย 

                 มีวันหยุดสักหน่อย   มีโอกาสสักน้อย   การได้ออกจากกทม. จึงเป็นหนทางที่ใครมีได้ก็ต้องรีบไขว่คว้าเอาไว้

                 มาฆบูชาวาร  ได้หยุดงานติดกันสองวัน  จึงเป็นโอกาสดังกล่าว  ออกสู่แดนชนบทประเทศ   ไปสูดหายใจยาว ๆ เต็มออกซิเจนให้ปอด  และยังได้ทำบุญเติมภูมิคุ้มกันให้จิตใจเข้มแข็ง  เรียกสติ  สงบกลับคืนมา  เพื่อเผชิญสถานการณ์ร้อนรุ่ม  ไม่ให้เกิดรุ่มร้อนตาม

                 วัดดอนตะโหนด  คือจุดหมายปลายทาง 

                 วารแห่งเพ็ญเดือนสาม  ฟ้าพราวดาวพร่าง  วันพิเศษอีกวันในพุทธประเพณี  ที่เนื่องมาแต่พุทธประวัติ  ตั้งแต่พรรษาแรกของพระพุทธองค์ทรงจำพรรษา ณ เวฬุวัน สวนไผ่ในกรุงราชคฤห์  อันถือเป็นวัดแรกแห่งพุทธศาสนา  วารนั้นได้เกิดมีเหตุอัศจรรย์ ขึ้น ณ เวฬุวัน แห่งนั้น จนจำกันมาปฏิบัติบูชา ระลึกถึง เป็นประเพณีพุทธศาสน์สืบมา

                 วัดดอนตะโหนดก็เช่นกับทุกวัดที่รวมใจชาวพุทธร่วมบุญมาฆบูชา  ที่ต่างจากวัดในเมืองใหญ่บางวัด คือ ไม่ต้องเกณฑ์นักเรียน  หรือผู้คนจากองค์กรใด ๆ ให้มาร่วมกันสืบสานประเพณี  แต่ ณ วัดแห่งนี้ ชาวบ้านทั้งหลายในดอนตะโหนด  ชาย หญิง  เด็ก  หนุ่มสาว ตลอดผู้เฒ่าเล่าชราล้วนมาด้วยศรัทธาแท้จริง

                 ชื่อดอนตะโหนดแต่ไม่มีต้นตาลแห่งนี้  เป็นดอนเล็ก ๆ บนเนื้อที่เกือบยี่สิบไร่  ร่มรื่นด้วยต้นไม้นานาพรรณ  ต้นไม้ใหญ่ขึ้นอยู่เป็นกลุ่มเป็นดอน  มองเข้าไปเห็นหลังคาโบสถ์ วิหาร กุฏิ  ศาลา สีเหลืองอร่ามแทรกซอนแมกไม้  โอบล้อมด้วยทุ่งข้าวสีเขียวขจีที่ปูพรมเขียวผืนโตทอดยาวกว้างไกลสุดสายตา  มีบ้านเรือนราษฎรผุดพรายอยู่กระจัดกระจาย  ถนนหน้าวัดพุ่งตรงจากทางหลวงเหมือนแหวกป่าข้าวเข้าสู่ประตูวัด

                 พูดไปแล้ว  ก็เหมือนหลับฝันไป  ชั่วกระพริบตา  เพียงเวลา ๒ ชั่วโมงชีวิตที่อยู่ท่ามกลางความวุ่นวายจราจรจลาจลบนท้องถนนกทม.กลับกลายเป็นความสงบเย็นท่ามกลางความร่มรื่นของแมกไม้  เหมือนคนละโลก

               นี่กระมังที่เขาว่า ธรรมะจัดสรร  ด้วยผู้เขียนกับน้องหอม(พิมลพรรณ  สาโสม)เพื่อนร่วมทางครั้งนี้  ได้รับความกรุณายิ่งจากท่านอาจารย์ วีระพล  จนฺสาโร  ผู้ซึ่งเป็นคนบ้านเฮาด้วยกัน  พบและรู้จักกันเมื่อคราไปทัวร์ธรรมะที่อินเดีย  ผู้เขียนกลายเป็นโยมแม่ที่พระอาจารย์เปิดประตูวัดไว้ต้อนรับ  และก็รับปากมานานเพิ่งมีโอกาสในวันเพ็ญแห่งมาฆบูชานี้  ท่านอุตส่าห์เอารถไปรับถึงสิงห์บุรี  และยังพาแวะไหว้พระพุทธไสยาสน์ที่วัดหลวงพ่อแพ(วัดพิกุลทอง)  และอนุสรณ์ผู้กล้าแห่งค่ายบางระจัน  วีระชนในช่วงปลายอยุธยา  ที่คนไทยล้วนรำลึกถึงอีกด้วย  นับเป็นบุญ  เป็นความประทับใจหลายทอดทีเดียว

               โดยเฉพาะเมื่อก้าวลงจากรถหน้าอาคารที่เป็นที่พักในวันนี้(วันอาทิตย์ ก่อนวันมาฆบูชา๕๖)  สัมผัสแรก  คือสายลมที่พลิ้วผ่านทุ่งข้าว  พัดเอากลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกสาละที่บานพริ้มเพราอยู่ข้าง ๆ มาต้อนรับ  ผสานกลิ่นดอกสะเดาบานขาวพราวพร่างอยู่ริมทุ่ง  นกกระยางฝูงใหญ่บินกันพรึบพับ  ส่งเสียงจอแจลงมาจากยอดไม้เหมือนกับเป็นการทักทาย  ขณะหมาหลายตัวที่หลวงตาในวัดเลี้ยงไว้วิ่งหน้าตั้งมาแต่ไกลจนไก่ป่า  ไก่แจ้ ตัวเล็ก ๆ สีสวย ๆ ที่หากินอยู่แถวนั้นกระพือปีกบินกระจายกระเจิดกระเจิงกันไปหลายทิศทาง

               ที่นี่ คือ วัดเล็ก ๆ ที่ชื่อวัดดอนตะโหนด  ตั้งอยู่ในหมู่บ้านชื่อเดียวกัน  ในเขตอำเภอที่มีชื่อเสียงโด่งดัง  จากเรื่องราว  ความกล้าหาญ  การสร้างวีรกรรมของบรรพบุรุษในประวัติศาสตร์ช่วงปลายอยุธยาเมืองหลวงเก่าแห่งสยาม  เมื่อกว่าสองศตวรรษที่ผ่านมา  นั่นคือ อำเภอค่ายบางระจัน  จังหวัดสิงห์บุรี

               เจ้าอาวาส(พระครูวินัยสมเกียรติ  ฐานุตฺตโร)กับอาจารย์วีระพลเป็นพระหนุ่มในวัยเดียวกัน  เป็นพระนักพัฒนา  สร้างสรรค์กิจกรรมไม่หยุดนิ่ง  เพื่อความเจริญของพุทธศาสนาด้วยกัน  อาจารย์วีระพลหนุ่มจากศรีสะเกษไม่ได้เรียนจบวิชาการช่างจากสถาบันใด  แต่กลับเป็นทั้งช่างและสถาปนิกสร้างสรรค์ ซ่อมเสริม โบสถ์  วิหาร ศาลา ทั้งในวัดนี้และวัดใกล้เคียงอีกมากหลาย  สำหรับท่านเจ้าอาวาสยังเป็นนักจัดรายการธรรมะในวิทยุกระจายเสียง อีกด้วย

               วัดเล็ก ๆ แห่งนี้เปิดรับพุทธศาสนิกชนจากทุกถิ่นด้วยกิจกรรมธรรมปฏิบัติ  โดยเปิดเป็น  สำนัก ปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดสิงห์บุรีแห่งที่ ๑๕ ผู้สนใจติดต่อได้ที่วัดแห่งนี้  หรือ  ๐๘๕ ๔๔๙ ๒๔๕๖  และ www.waddontanod.com

               ค่ำคืนนี้เรา(ผู้เขียน กับน้องหอม)มีสะเดาดอกขาวลวกเป็นอาหารเย็น  ไหว้พระสวดมนตร์แล้ว  นอนหลับใหลไปกับเสียงกบเขียด ที่บรรเลงเพลงอยู่ริมทุ่ง  ตื่นเช้าด้วยความสดชื่นจัดการหุงข้าวแล้วไปร่วมตักบาตร  ก่อนกิจกรรมเวียนเทียนรอบโบสถ์กับชาวดอนตะโหนดทั้งชาวบ้านและชาววัด  ก่อนหอบบุญกลับสู่กทม. และหวังใจว่าจะมีโอกาสมาร่วมกิจกรรมธรรมปฏิบัติที่นี่สักครั้งก็ยังดี

.....

 

 

 

 

 

 

 

 

             

           

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view