สายัณห์ สัญญา
แหบมหาเสน่ห์ – ขวัญใจคนเดิม
โดย อุทัย มีสีสรรพ์ เรื่อง-ภาพจากกูเกิ้ล
“ฉันรักเธอเท่าฟ้า ปรารถนาเธอยิ่งสิ่งใด ถึงเธอจะเป็นเดนใคร เคยเป็นเช่นไร ฉันก็ไม่พะวง”
ในปี 2517 เพลง”รักเธอเท่าฟ้า”กลายเป็นเพลง”มหาฮิต”มากที่สุดเพลงหนึ่ง เสียงร้องของ”สายัณห์ สัญญา”เจ้าของฉายามากมาย ตั้งแต่”ขวัญใจคนเดิม” “ลูกทุ่งคนเก่า พี่เป้าคนเดิม””แหบมหาเสน่ห์”รวมไปถึงวลีที่ว่า”รักพี่เป้าเพียงน้อยนิด แต่ขอให้รักนาน ๆ “ วลีที่ออดอ้อนหน้าเวทีตลอดสิบกว่าปีบนเวทีเสียงเพลง น่าจะเป็นมนต์ขลัง ที่ทำให้แฟนเพลง”สายัณห์ สัญญา”ในช่วงปี 2517-2527 ยังคงเป็นแฟนอย่างเหนียวแน่นตลอดระยะเวลาหนึ่งทศวรรษนี้ ที่”พี่เป้า”ออดอ้อนแฟนเพลงได้อย่างจับใจ ไม่มีนักร้องลูกทุ่งคนไหนพูดได้ไพเราะจับใจ ชัดถ้อยชัดคำ ด้วยสำเนียงความเป็นลูกทุ่งที่สุ ภาพอ่อนโยนบนหน้าเวที นี่คือเสน่ห์ที่นักร้องลูกทุ่งท่านอื่นพยายามเลียนแบบในความเป็น”สายัณห์ สัญญา”อยู่เสมอ
เราคงเสียใจต่อการจากไปของ”ขวัญใจคนเดิม” สายัณห์ สัญญา ไปอย่างสงบที่ รพ.ธนบุรี ย่านพรานนกด้วยความเศร้าเสียใจ ที่ต้องสูญเสียลูกทุ่งหวาน แหบมหาเสน่ห์ ที่ยังไม่มีใครทาบได้ บทเพลงต่าง ๆที่เคยโด่งดังในอดีตถูกนำมาเปิดกันอย่างไม่รู้เบื่อ เพื่อย้อนรำลึกถึงความยิ่งใหญ่ของ “สายัณห์ สัญญา”กับบทเพลงที่ฮิตอย่าง “ รักเธอเท่าฟ้า” “ถึงเธอผู้เป็นดวงใจ””แหม่มปลาร้า””ลูกสาวผู้การ””นางกวักมหาเสน่ห์””นางฟ้ายังอาย””แด่คนชื่อเจี๊ยบ””ล้นเกล้าเผ่าไทย” “สายัณห์ขายใจ””อยากกินเนื้อคนใจดำ””ลานเทสะเทือน””รักแล้งเดือนห้า””ขาดเธอ ขาดใจ””เกลียดห้องเบอร์ห้า””ถึงเธอผู้เป็นดวงใจ””ขวัญใจคนเดิม””น้ำตาอีสาน””ถึงชั่วก็รัก””จำปาลืมต้น””คนอกหักพักบ้านนี้””ตัวไกล ใจเหงา””ความรักเหมือนยาขม””สาวยโสธร””รักแล้งเดือนห้า””เฝ้าดอกฟ้า””สัญญาห้าปี””ลารักจากสวนแตง””ผู้เสียสละ””เสียความรู้สึก””พบรักปากน้ำโพ””อกหักซ้ำสอง””กินอะไรถึงสวย””ลานเทสะเทือน””ยืนใจลอยคอยแฟน””ปิดห้องร้องไห้”และเพลงฮิตมากมาย
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของผลงานเพลง”แหบมหาเสน่ห์”ที่สร้างสรรค์เอาไว้บนโลกดนตรีแห่งนี้ กว่าสามทศวรรษที่นักร้องขวัญใจคนเดิมท่านนี้ เดินทางย่ำอยู่บนเส้นทางเสียงเพลง ด้วยความรักและหลงไหลวงการเพลงลูกทุ่ง ประสบความสำเร็จมากมายมหาศาลเป็นศิลปินนักร้องลูกทุ่งคนเดียว ที่เก็บเกี่ยวความโด่งดังที่เป็นเอกลักษณ์ต่อจาก”สุรพล สม บัติเจริญ”ราชาเพลงลูกทุ่ง ที่เป็นเจ้าของวงดนตรีและเป็นหัวหน้าวงเอง และ”สุรพล”เองก็เป็นแรงดึงดูดให้”สายัณห์”อยาก จะสร้างบทบาทของตัวเองขึ้นมาเหมือนราชาเพลงลูกทุ่งคนนั้น แล้วฝันก็เป็นจริง เพราะเขาภาคภูมิใจในความเป็นนักร้อง ลุกทุ่งที่ก้าวมาจาก”สุพรรณบุรี” กับบทเพลง”ขวัญใจคนเดิม”ด้วยวลีที่”ชลธี ธารทอง”ศิลปินแห่งชาติบรรจงเขียนว่า “ความ รู้มีเพียง แค่ชั้น ป.4 ผมสัญจรจากดอนเจดีย์ สุพรรณบุรีดินแดนบ้านป่า นักร้องคนซื่อ ที่ชื่อสายัณห์ สัญญา เป็นเด็กบ้าน นอกคอกนา เสี่ยงโชคชะตา มากับเสียงเพลง” บทเพลงขี้อ้อนนี้ทะลุทะลวงใจแฟนเพลง”สายัณห์”ให้ติดหนึบกับเพลงนี้
หลายคนอาจจะรู้จักประวัติ”สายัณห์ สัญญา”กันมาบ้างแล้วจากอินเตอร์เน็ต แต่นั่นเป็นเพียงส่วนปลีกย่อยของ ลูกทุ่งมหาเสน่ห์คนนี้ ยังมีอีกมากมายที่ไม่ได้รับการถ่ายทอด จะว่าไปแล้วนิตยสาร”ราชาเสียงทอง”ขอดเกล็ดชีวิตของ”พี่เป้า”ออกมาได้อย่างหมดเปลือก น่าเสียดายที่นิตยสารเล่มนี้ กลายเป็น”ความทรงจำ”ของคนลูกทุ่ง และเสียดายการจาก ไปของ”ณรงค์ รอดเจริญ”บรรณาธิการนิตยสารเล่มนี้ ที่สร้างศิลปินลูกทุ่งให้คนได้รู้จักจากการเผยแพร่อย่างยอดเยี่ยม นั่น คือหนังสือที่ถ่ายทอดชีวิตของ”สายัณห์ สัญญา”ตั้งแต่ก้าวแรกบนถนนลูกทุ่ง จุดหักเหชีวิตของเขาก็มาจากเด็กบ้านนอกที่ ชื่นชอบการร้องเพลงลูกทุ่งอยู่ในสมอง “น้าสว่าง”เป็นผู้จุดประกายเพราะเห็นว่าหลานชายคนนี้เสียงดีและชอบร้องเพลงพาไปประกวดร้องเพลงกวาดถ้วยรางวัลชนะเลิศมาแล้ว ไม่รู้จักกี่เวทีในละแวกอำเภอเดิมบางนางบวช,สรรพยา จ.ชัยนาท สามชุก ด่านช้าง,เดินสายไปประกวดสร้างความมั่นใจ แล้วคิดว่า”สักวันหนึ่ง”จะต้องเป็น”นักร้อง”อัดแผ่นเสียงเพลงให้ได้
ย้อนกลับไปให้ลึกลงกว่านี้ “สายัณห์ สัญญา”มีชื่อว่า”สายัณห์ ดีเสมอ” เกิดเมื่อวันที่ 31มกราคม 2496 เป็นคนราศีมังกร เป็นบุตรพ่ออ่อง แม่บุญช่วย ดีเสมอ เรียนจบชั้นประถมปีที่4 โรงเรียนวัดป่าสะแก แล้วไม่ได้เรียนต่อเพราะสมัยนั้นยังไม่มี ป.5 ออกมาทำนาช่วยที่บ้าน หลังจาก”คุณพ่ออ่อง”เสียชีวิตก็อยู่ตามลำพังกับแม่บุญช่วย เลยมีความผูก พันกับแม่มาก ด้วยความที่อยากจะเป็นนักร้องเพลงลูกทุ่ง เวลาวงดนตรีลูกทุ่งเขามาเปิดการแสดงไม่ว่าจะแสดงวัดไหนก็ ไปดูและขอสมัครด้วย แต่ยังไม่มีใครสนใจมากนัก เพราะรูปร่างผอมกร่องของเขา ทำให้คนมองข้าม จนกระทั่งวงดนตรีของ “ผ่องศรี วรนุช”มาเปิดการแสดงที่”วัดราษฎร์บำรุง”และมีการประกวดร้องเพลงด้วย “สายัณห์”มาสมัครแต่มาช้าเพราะบ้าน อยู่ไกล การแข่งขันเสร็จสิ้น “พี่เป้า”ขอขึ้นไปร้องเพลงแสดงความสามารถปิดท้ายด้วยเพลง “แฟนจ๋า”ของ”ครูสุรพล”พอร้อง จบมีเสียงปรบมือกันก้องเวที ทำให้”ผ่องศรี”สนใจและรับเขาไว้ให้เป็น”หางเครื่อง”ในวงและร้องเพลงหน้าเวทีบ้างกับเงาเสียงของ”ศรคิรี ศรีประจวบ”ด้วยชื่อใหม่ว่า”กัมชัย ลุกราษฎร์”บำรุงเป็นเกียรติว่าเกิดมาจากวัดนี้ที่สร้างชีวิตใหม่ให้กับเขา
วงดนตรี”ผ่องศรี วรนุช”เคยเข้าประกวดวงดนตรี แล้ว”ชนะเลิศ”หางเครื่องซึ่งในนั้นมี”พี่เป้าเป็นหางเครื่องด้วย อยู่วง”ผ่องศรี”ได้ 3 วงนี้ก็ยุบไป จึงออกไปอยู่ในวงอื่นบ้างเช่นวง”รวมดาวกระจาย”ของ”ครูสำเนียง ม่วงทอง”ที่มีนักร้องอัดเสียงประจำวงมากมาย จากนั้นก็ย้ายไปเรื่อยใครจ้างก็ไป ไปอยู่กับวง”บรรจบ เจริญพร”ยังคงใช้ชื่อนี้อยู่ จนกระทั่งไป อยู่กับวง”ชินกร ไกรลาศ”จึงได้รู้จักกับ”พ่อเล็ก แม้น้อยศรี อิงคะนันท์”เจ้าของปั้มน้ำมัน”พรรุ่งโรจน์”อยู่แถวบุคคโล ที่ชอบ เพลงลูกทุ่ง ได้อุปการะให้”สายัณห์”มาอยู่เพื่อจะสร้างให้เป็น”นักร้อง”อย่างที่ใฝ่ฝัน “สายัณห์”เลยออกมารวบรวมเพื่อน ๆ มาตั้งวง”เจริญพร”ขึ้นมา ออกเดินสายเปิดการแสดงตามงานวัด แต่วงนี้ไม่มีนักร้องอัดแผ่นเลย จน”ซ้อน้อย”นำเอาเพลง”รักเธอเท่าฟ้า”ของ”ครูฉลอง การะเกด” และเพลง”พลัดคู่”ของ”ประดิษฐ์ อุตตะมัง”มาบันทึกเสียง แต่กลับไม่กล้าที่จะเปิด
วงดนตรี”เจริญพร”ก็เลยปิดตัวลงเพราะไม่มีงานเข้ามา “สายัณห์”กลายเป็นนักร้องอัดแผ่นแต่ยังไม่ได้เชียร์ทาง สถานีวิทยุคนก็เลยไม่รู้จัก กลับมาเป็น”เด็กล้างรถ”ในปั้ม”พรรุ่งโรจน์” โชคชะตาที่จะก้าวไปสู่วงการเพลงอีกครั้ง เมื่อนักร้ องนักแต่งเพลงที่ยังไม่ดังในตอนนั้นชื่อ”ชลธี ธารทอง”เอารถมาล้างที่ปั้มน้ำมันแห่งนี้ มีโอกาสได้คุยกับเด็กล้างรถและฟังเงาเสียงของ”ศรคีรี”แล้วกลับชอบใจ และบอกว่าจะมอบเพลง”ลูกสาวผู้การ”กับ”แหม่มปลาร้า”ให้โดยขอให้”ซ้อน้อย”เป็น ผู้ลงทุนอัดเสียงทั้งสองเพลงนี้ขึ้นมา แล้วจะช่วยในการโปรโมทด้วย เพลง”ลูกสาวผู้การ”และเพลง”แหม่มปลาร้า”แผ่นเสียง ที่มีเพียงสองเพลงนี้ เปิดจนกลายเป็นเพลงฮิตขึ้นมาบ้าง แต่เพลง”รักเธอเท่าฟ้า”และเพลง”พลัดคู่”ที่ถูกเก็บเอาไว้ ก็ถูกตัดแผ่นออกมาส่งต่อให้แฟนเพลงได้รู้จักชื่อ”สายัณห์ สัญญา” ซึ่ง”พี่เป้า”คิดว่าเพลงที่อัดไปนั้นคงไม่ดัง จึงขอไปบวชที่วัดบ้าน เกิดอำเภอเดิมบางนางบวช ซึ่งอยู่บนเขา ตั้งปณิธานว่าถ้าเพลงไม่ดังจะไม่ยอมสึกและจะไม่ลงจากเขาอย่างแน่นอน
แล้วเพลง”รักเธอเท่าฟ้า”ในกลางปี 2517 กลายเป็นเพลงฮิตอันดับ 1 คนชื่นชอบลีลาน้ำเสียงที่เด็ดขาดลูกเอื้อนที่ดูเหมือนว่าจะเหนือกว่า”พี่น้อย”ศรคีรี ศรีประจวบ ทำให้ทีมงาน”ซ้อน้อย อิงคะนันท์”ต้องนิมนต์”หลวงพี่เป้า”ให้ สึกออกมา พร้อมที่จะตั้งวงดนตรี”สายัณห์ สัญญา”ขึ้นมาเพื่อเดินสายภาคอีสานเป็นแห่งแรก ลองหลับตาดูว่าสมัยก่อนนั้นนักร้องโด่งดังแค่ฟังเสียงเท่านั้น ไม่ได้เห็นหน้า มีเรื่องโจ๊กเล่าว่าตอน”สายัณห์ สัญญา”เดินสายไปในภาคอีสาน มีวงดนตรี ของ”พร พรนารายณ์”ที่โด่งดังมาก นำเอานักร้องชื่อ”สัญญา”มาแปลงชื่อเป็น”สัญญา สายัณห์”ออกเดินสายไปล่วงหน้าพอวง”สายัณห์ สัญญา”ไปแสดงในภาคอีสาน กลับไม่ยอมรับคิดว่าวงนี้มี”สายัณห์ตัวปลอม” เพราะหัวยังโล้นอยู่เลย “สายัณห์”ที่เพิ่งแสดงผ่านไปไม่นานนี้ หล่อกว่านี้เยอะ จึงไม่ยอมรับ แต่”พี่เป้า”ก็ได้พิสูจน์ว่านี่คือ”สายัณห์ตัวจริง”ด้วยบทเพลง”รักเธอเท่าฟ้า”ซึ่งยังไม่มีใครเอื้อนคำว่าว่า”ฟ้า”ด้วยลูกคอเหมือนเขาเลย นี่คือเกล็ดเล็กน้อยก่อนที่จะโด่งดังสุดขีด
ด้วยน้ำเสียงลีลาที่ออดอ้อนได้ซาบซึ้งกินใจ จากเพลง”รักเธอเท่าฟ้า” “ลูกสาวผู้การ””แหม่มปลาร้า””พลัดคู่”แม้แต่เพลงแรกอย่าง”หักใจไม่ลง”ก็ถูกนำมาเปิด ห้างแผ่นเสียงแถวสะพานเหล็กต่างจับจ้อง ขอร้องให้”พี่เป้า”มาบันทึก เสียงให้กับตัวเอง สมัยก่อนนั้นจะมีการบันทึกเพลงครั้งละ 2 เพลงในแผ่นเดียวกันหน้าหลังเพื่อให้”นักจัดรายการ”ได้นำ เพลงนี้ไปเปิดในรายการที่ตัวเองจัด ซึ่งนักจัดรายการในสมัยนั้น มีอิทธิพลสูงต่อการสร้างนักร้องให้กับห้างแผ่นเสียง จน เป็นที่มาของวลีที่ว่า”เพลงละพัน วันละเพลง”ซึ่งนักจัดรายการเมื่อสามทศวรรษ ต่างก็รู้ดีว่าทำอย่างไร เพลงถึงจะดังจะได้ ขายแผ่นเสียงได้อย่างสบาย ไม่มีอัลบั้มเพลงเป็นสิบเพลงเหมือนสมัยที่ผ่านมา วงการเพลงสมัยนี้ก็หวนกลับไปสู่จุดการเริ่มต้นเหมือนกับในยุคก่อน ที่อัดเสียงเป็นแค่ซิงเกิ้ลออกมา ในยุค”สุรพล-สายัณห์-เพลิน-ไวพจน์-ศรเพชร”ก็ทำอย่างนี้ซึ่ง วงการเพลงน่าจะพัฒนามากกว่านี้ แต่วันนี้ วงการเพลงกลับย่ำแย่ ทำเพลงแค่ซิงเกิ้ลออกมา ไม่มีอัลบั้มเพลงเต็มอีกแล้ว
“สายัณห์ สัญญา”ทำหน้าที่เป็นนักร้องให้กับ”ซ้อน้อย อิงคะนันท์”เพียงสองปี บทเพลงที่อัดเสียงออกมา ต่างก็โด่งดังไปหมด ไม่ว่าจะเป็นเพลง”เกลียดห้องเบอร์ห้า” “นางกวักมหาเสน่ห์””นางฟ้ายังอาย””อกหักซ้ำสอง”โด่งดังมาก บทเพลงที่”สายัณห์”ถ่ายทอดออกมาในช่วงนั้นโด่งดังอย่างต่อเนื่อง ทำให้”ชลธี ธารทอง”พลอยโด่งดังและเป็นคนเขียนเพลงให้ “พี่เป้า”ดังทะลุฟ้าอีกมากมาย และเป็นวงดนตรีวงเดียวที่มีนักร้องประจำวงแข็งแกร่งที่สุดคือ “7พลังหนุ่ม”ซึ่งประกอบ ด้วย “ณพนรรจณ์ ขวัญประภา”(บุคคลนี้กลายเป็นคู่บุญบารมีพี่เป้าต่อจากครูชลธี) “สกล อลงกรณ์”(ผู้จัดการวง)สมบัติ เมืองอุบล,สมพงษ์ คงศักดิ์,สมศักดิ์ ณ ลำประโดงและอีกสองคนผมจำชื่อไม่ได้ นักร้องเหล่านี้สร้างความแข็งแกร่งให้กับ วงดนตรี”สายัณห์ สัญญา”และเป็นวงดนตรีลูกทุ่งวงแรก ที่มี”หางเครื่อง”ชาย-หญิงเต้นรีวิวประกอบเพลง ซึ่งได้ครูสอนเต้น ผู้ความคุมหน้าเวทีอย่าง “นพพร พิกุลสวัสดิ์”ต่อมาย้ายไปอยู่กับวง”ศรชัย เมฆวิเชียร” ทาง”พี่เป้า”เลยดันผู้ช่วยของนพพร ขึ้นมาควบคุมการดีไซน์เครื่องแต่งตัวหางเครื่อง วางรูปแบบการเต้นแต่ละชุดคนเก่งคนนั้นเขาคือ”ธวัช สัญญา”ผู้ฝึกสอน
การแยกตัวออกมาจาก”ซ้อน้อย”เพื่อมาสร้างอาณาจักรให้กับตัวเองในจังหวะนั้น”ซ้อน้อย”ก็ดันวงดนตรีน้องใหม่ ที่อยู่ในเครือเดียวกันอย่าง”ศรชัย เมฆวิเชียร”เจ้าของเสียงเพลง”อ้อนจันทร์”ที่กำลังดังไล่หลัง”สายัณห์ สัญญา”มาติด ๆ ทำให้”พี่เป้า”ยกวงทั้งหมดออกมา และสามารถใช้หนี้”ซ้อน้อย”ภายในสองปีจนหมด กลายเป็นวงที่หอมที่สุด ค่าจ้างวงแพงที่สุด เจ้าภาพจะต้องจองงานข้ามปีในช่วงเทศกาลประจำปีของทางวัด ต้องผูกกันไว้ข้ามปี และวง”สายัณห์”เดินสายไปแสดงวัดไหน สามารถกวาดรายได้ทะลุทะลวงหมด ชนะเลิศทุกวงในเรื่องรายได้ จนไม่มีใครกล้าประกบ “พี่เป้า”เหมือนม้า แข่งที่ทะยานออกจากซองแล้ว ให้วงอื่นไล่กวดตลอดเวลา เชื่อขนมกินได้ว่าไปแสดงที่ไหน เก็บรายได้มีแต่กำไร ตัดคำว่าขาดทุนออกไป “พี่เป้า”โด่งดัง รายการทีวีเชิญไปสัมภาษณ์ออกในรายการทีวี ได้รับการปฏิเสธทุกรายการ เหมือนกับ”เพลิน พรหมแดน”ก็ปฏิเสธการออกทีวี โด่งดังจนกระทั่งนักจัดรายการชื่อดังในยุคนั้นอยากจะสร้างภาพยนตร์ขึ้นมาทันที
เพราะกิตติศัพท์ในเรื่อง”ความกล้า”ของ”สายัณห์ สัญญา”เป็นที่ประจักษ์ว่าเขาไม่”ก้มหัว”ให้กับใครไม่ว่าผู้นั้นจะ มีอิทธิพล จนกระทั่งคืนหนึ่ง หลังจากกลับมาจาก”สายใต้”จะต้องผ่านบ้านของ”ผู้มีอิทธิพล”ซึ่งคืนนั้น”พี่เป้า”ขับรถบัสแทน”พี่หมู”ฝ่าห่ากระสุนพาลูกน้องกลับมาได้ และเข้าไปฝากตัวเป็น”บุตร”กับผู้มีอิทธิพล จนกระทั่งเป็นกัลยาณมิตรกัน มาจนถึงวันนี้ นี่คือ”ความกล้า”ของ”สายัณห์”ที่นักจัดรายการดังอย่าง”สุวิทย์ ชุติพงศ์”สร้างภาพยนตร์เรื่อง”นักร้อง นักเลง”ด้วยค่าตัว 1 ล้านบาทซึ่งมากกว่า”สรพงศ์ ชาตรี” “กรุง ศรีวิไล””อุเทน บุญยงค์”ในสมัยที่โด่งดังสุด ๆ ด้วยค่าตัวมหาศาล กับการแสดงภาพยนตร์ไม่กี่เรื่อง มี”นักร้อง ปืนโหด” “ลูกทุ่งพเนจร” “ลูกทุ่งเสียงทอง”เรื่องละล้าน เงินเหล่านี้”พี่เป้า”นำไป ซื้อที่ดินแถวพุทธมณฑลสายสองกว่า 6ไร่ ด้วยราคา 9 ล้านกว่า “พี่เป้ามีทรัพย์สมบัติมากมาย ตึกแถวหลังธนาคารฯปากซอยพานิชยการธนบุรี ทั้งสองฝั่ง ซึ่งเป็นสำนักงานและบ้านพัก รวมทั้งที่เป็นการฝึกซ้อมการแสดง ร่ำรวยมากมายมหาศาล
นักร้องในวงโด่งดังและมีแฟนติดตามกันมากมาย หางเครื่องทั้งหนุ่มและสาว มีคนติดกันตรึม จนกระทั่งปลายปี 2528 วงการเพลงลูกทุ่งเริ่มจะดาวน์ลงไปมาก เพราะบทเพลงสตริงเข้ามาแทนที่ วงการเพลงลูกทุ่งก็ซบเซามา วงดนตรีของ”สายัณห์ สัญญา”ค่าแสดงคืนละเก้าหมื่นบาทในปีนั้น เริ่มจะย่ำแย่ลง ความโด่งดังมาถึงขีดสุด วงดนตรีดัง ๆ หลายวง เริ่มทยอยปิดตัวเองลงไป “สายัณห์ สัญญา”ก็หนีกฎเกณฑ์นั้นไม่พ้น จนกระทั่งต้องเลิกวงไปในที่สุด การที่ไม่ยอมรับเชิญไปร้องเพลงตามร้านอาหาร คาเฟ่ ที่ยึดถือมานาน ก็จำเป็นต้องรับงานแบบนั้น ทรัพย์สินที่ได้มามากมายนั้น คงไม่ต้องบอกว่าสูญเสียเพราะอะไร ทุกคนรู้ดีแต่เราไม่ขอพูดถึง “พี่เป้า”เคยลงทุนสร้างผลงานอัลบั้มเพลงให้กับตัวเอง ด้วยการร้องเอง เขียนเพลงเองแต่เป็นลูกทุ่งเพื่อชีวิตไป เพราะแฟน”พี่เป้า”ยังยึดเอาน้ำเสียงที่ออดอ้อนหวานของเขาอยู่ เมื่อมาร้องใน แนวที่ไม่เคยฟัง แฟนเพลงก็เลยไม่นิยม ความตกต่ำของ”ขวัญใจคนเดิม”เริ่มถดถอยลงไป ๆ จนกระทั่งเงียบหายไปในที่สุด
สิ่งที่ทำให้”พี่เป้า”เสียหาย คงจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับ “ยอดรัก สลักใจ”แม้ว่าการออกมา”ขอโทษ”แต่สังคมไม่ให้โอ กาสในการกล่าวคำนี้ “พี่เป้า”เลยต้องหลบสังคมไปอยู่ที่อพาร์ตเม้นต์แห่งหนึ่ง หลังจากที่แยกทางจากครอบครับเพื่อมาสร้างครอบครัวใหม่ การที่”พี่เป้า”เป็น”มะเร็งในกระเพาะและตับ”และถดถอยลงเรื่อย ๆ เพราะไม่ยอมรักษาตามขบวนการ แพทย์ไม่ว่าจะในปัจจุบันและแผนโบราณด้วยยาสมุนไพร การยอมรับชะตาชีวิตทุกอย่าง”ปล่อยวาง”เพื่อจะให้ชีวิตสงบใน สัมปรายภพใหม่ที่พ้นเวรกรรม “สายัณห์ สัญญา”อำลาโลกนี้ไปอย่างสงบ เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2556 ที่โรงพยาบาล ธนบุรี ด้วยวัยเพียง 60 ปี ปิดฉากชีวิตที่ยิ่งใหญ่”ขวัญใจคนเดิม” “แหบมหาเสน่ห์””สายัณห์คนเก่าพี่เป้าคนเดิม”เหลือเพียงน้ำเสียงที่ออดอ้อวนหวาน เป็นตำนานให้เล่าขานกันชั่วลูกหลาน ซึ่งยังไม่มีใครจะยิ่งใหญ่เท่าเขาคนนี้ สามสิบปีในวง การเพลงลูกทุ่ง ชื่อของ “สายัณห์ สัญญา”คือลูกทุ่งอมตะนิรันดร์กาล แม้รางวัลในชีวิตของเขาจะไม่ได้รับอะไรในวงการมา ประดับเกียรติยศ แต่เกียรติยศที่เขาสร้างไว้ในวงการเพลง บทเพลงนับพันเพลงที่ขับกล่อมแฟนเพลงลูกทุ่งมายาวนานอีกผู้หนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการเพลงลูกทุ่ง จะต้องจารึกและจดจำ”ขวัญใจคนเดิมสายัณห์ สัญญา”คนนี้นานเท่านาน “ล้นเกล้าเผ่าไทย ศูนย์รวมใจคนไทยทั้งชาติ ขออภิวาทเบื้องบาทองค์ภูมิพล”เราคงได้ยินเสียงเพลง”ล้นเกล้าเผ่าไทย”นี้ในความทรงจำเท่านั้น “สายัณห์ สัญญา”ผู้ถ่ายทอดความจงรักภักดี ตอนนี้เขาไปสู่สวรคค์ชั้นฟ้าแล้ว.