ไหว้พระ 9 วัดริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ช่วงเข้าพรรษา เป็นช่วงที่บริษัทนำเที่ยวทั่วไปนิยมจัดไหว้พระ 9 วัด มีทั้งไปโดยรถยนต์ และเรือล่องท่องแม่น้ำ โชคดี ปีนี้ 2557 ได้ไปร่วมเดินทางไหว้พระ 9 วัด ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยากับเขาด้วย จึงได้สัมผัสอีกบรรยากาศหนึ่งในการแสวงบุญของพี่น้องชาวพุทธศาสนิกชน จากท่าเรือกองการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร ใต้สะพานปิ่นเกล้า ฝั่งกรุงเทพ ทวนน้ำขึ้นไปจนถึงเกาะเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แปลกแตกต่างไปจริงๆ
ในท้องน้ำเจ้าพระยามหานทีมีเรือล่องท่องไปทั่วทุกวันทุกชั่วโมง มีเรือด่วนโดยสาร เรือสำราญรับประทานอาหารกลางน้ำ เรือคาราโอเกะพร้อมอาหาร เรือลากโยงเรือดินเรือทราย เรือพายตามวิถีชีวิตดั้งเดิมแทบหาไม่เห็น เช้าวันนั้น มีแต่เรือไหว้พระ 9 วัดเสียส่วนใหญ่ อัตราค่าแสวงบุญแสนถูกคนละ 900 บาท ข้าวกล่องตอนเช้า 1 มื้อ ตอนกลางวันได้ไปกินข้าวแกงในตลาดเกาะเกร็ด แถมได้เที่ยวตลาดเกาะเกร็ดไปในคราวเดียวกัน
บริษัทธรรมหรรษาทัวร์แอนด์ทราเวลจำกัด นำโดยมหาพุทธโชติ เครือข่ายศรัทธาวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ท่าช้าง กรุงเทพมหานคร ซึ่งจัดแสวงบุญเป็นการนำเที่ยวหลักของบริษัท ไปกันจนถึงแดนพุทธภูมิประเทศอินเดีย-เนปาล สนใจร่วมเดินทางแสวงบุญด้วยมิติต่างๆได้ที่ 02-8845683-6 www.dhammahansa.com นะจ๊ะ
07.30 น.เรือออกเดินทางจากท่าใต้สะพานปิ่นเกล้า ทวนน้ำขึ้นไปยังวัดทั้ง 9 วัด ลมพัดเย็นตลอดสายน้ำ กินข้าวกล่องกันตามสมควร เครื่องถวายเทียนแท่งโตๆ และอัฐบริขารพรั่งพร้อม เครื่องดื่มมีทั้งน้ำชากาแฟร้อน น้ำเปล่าเป็นขวด ขนมปังถุง น้ำแข็งบรรจุถังสำรอง นั่งกินกันไปในสายลม เย็นดีนะ
วัดแรกที่เรือเทียบท่าคือวัดแคนอก อันเป็นวัดเก่าแก่ บริเวณวัดเต็มไปด้วยต้นไม้ร่มรื่น มีวิหารเก่าแก่บูรณะโดยกรมศิลปากร แปลกตาไปกว่าวิหารทั่วๆไป มีศาลาริมน้ำแบบเก่า รูปทรงคงเดิมแต่เปลี่ยนจากไม้เป็นปูน ในวัดมีกรงนกและคอกวัวให้ไถ่ชีวิตได้ด้วยการทำบุญเป็นเงินไปไถ่ เบื้องหน้าเป็นการทำบุญโลงศพผีไร้ญาติ
บนศาลาหลังใหญ่ พุทธศาสนิกชนขึ้นไปกราบพระพุทธและเจ้าอาวาสวัดแคนอก แล้วเริ่มต้นกระบวนการถวายเทียนพรรษาและเสริมบุญบารมี มหาพุทธโชติกล่าวนำและเจ้าอาวาสสวดชะยันโตอวยชัยให้พรแก่ผู้แสวงบุญ
“รวย รวย รวย เฮง เฮง เฮง รวยๆเฮงๆ ............”มหาพุทธโชติเปล่งเสียงดัง เป็นการตบท้ายที่ได้ใจผู้แสวงบุญถ้วนหน้า
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนความ ก็ได้กลับลงเรือแล้วก็ล่องเรือทวนน้ำไปยังวัดที่สองได้แก่วัดกลางเกร็ด วัดนี้ตั้งอยู่ริมคลองลัดเกร็ด เดิมชื่อวัดกลางป่า ต่อเมื่อพ.ศ.2265 เกิดการขุดคลองลัดเกร็ดขึ้น จึงเปลี่ยนชื่อเป็นวัดกลางเกร็ด วัดที่สามคือวัดปรมัยยิการาม บนเกาะเกร็ด อันเป็นวัดที่พุทธศาสนิกชนเป็นคนมอญเสียส่วนใหญ่
ที่วัดนี้ได้เดินชมตลาดนัดชุมชนคนมอญกันไปตามเส้นทางท่องเที่ยว ใครใคร่กินทอดมันหน่อกะลาก็ได้กิน ใครใคร่กินดอกไม้ชุบแป้งทอดก็ซื้อเอา ชมตลาดไปจนถึงวัดไผ่ล้อม เป็นวัดที่สี่ หลังเสร็จสิ้นพิธีการทางสงฆ์ ก็ได้ไปรับประทานข้าวแกงคนมอญ ซื้อของฝากกลับบ้าน แล้วก็ลงเรือเพื่อข้ามฟากไปยังวัด บางจาก ทำบุญเพื่อขอให้จากดีมีโชค
วัดที่หก-เจ็ด-แปด-เก้าได้แก่วัดท่าอิฐ วัดแสงสิริธรรม วัดไทรม้าใต้และวัดเฉลิมพระเกียรติ หลังจากนั้นเดินทางกลับท่าเรือสะพานปิ่นเกล้าที่จากมาตอนเช้า
บนเรือมหาพุทธโชติมีเรื่องเล่าขานบานตะเกียง ล้วนแต่แฝงด้วยธรรมหรรษาดังว่าจริงๆ ไปเดินทางด้วยจิตใจแจ่มใส บรรยากาศชวนเดินทางและได้แสวงบุญสมใจ