มะละกอ ลูกป้อม
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
ด้วยความรู้จาก มร.กูเกิ้ล ระบุไว้ชัดเจนว่า มะละกอสุก เบต้าแคโรตีน 274 ไมโครกรัม ฟักทอง 3,100 ไมโครกรัม มะม่วงสุก 640 ไมโครกรัม ยอดแค 8,654 ไมโครกรัม แครอท 8,285 ไมโครกรัม 77 ความอัศจรรย์พันธุ์พืชที่อยากบอกเล่าให้ได้รู้กันว่า อย่ามองข้ามพืชผักใกล้ตัว เฉพาะสารเบต้าแคโรตีนอย่างเดียว จะพบว่า ยอดต้นแคบ้านที่แม่ชอบลวกจิ้มน้ำพริกหนุ่ม หรือใส่แกงแคไก่บ้านใส่ผัก 5 อย่าง นั้น กลับมีเบต้าแคโรตีนสูงสุด
บ้านผมปลูกมะละกอหลายชนิด แขกดำ แขกนวล ฮอลแลนด์ ก็กลายพันธุ์กันไปตามสภาพของดินและสิ่งแวดล้อม กลายเป็นมะละกอลูกป้อมๆ ดูไม่สวยงาม และไม่ชวนกิน แต่สำหรับผมแล้ว ลูกแม่พันธ์แท้ ไม่เคยละเลยสิ่งละอันพันละน้อย ลูกป้อมลูกโป่ง กลวงในหรือมีเมล็ดเพียบ เก็บกินได้หมด คิดเพียงว่ามันคือพืชผักชนิดหนึ่งและเมื่อสุกก็เป็นผลไม้ได้ประโยชน์
ผมไปท่องเที่ยวตามคำเชิญของ ททท.ภูมิภาคภาคใต้ ที่จังหวัดพังงา และไปท่องเที่ยวที่ภูเรือ แซงค์ฌัวรี รีสอร์ทแอนด์สปา จังหวัดเลย กลับมาเปิดตู้เย็น โอ้โฮ มะละลูกป้อมที่อุตสาหะเก็บใส่ถุงพลาสติกซุกไว้ช่องผัก กำลังสุกห่ามๆ จะซอยผัดไข่กินเหมือนทุกครั้งก็ไม่ได้แล้ว ครั้นจะปล่อยให้สุกงอมเพื่อกินเป็นผลไม้มะละกอสุกก็ แฮ่ มันไม่หวานและไม่หอมชวนกินเล้ย
ยกทั้งถุงออกมาแล้ว ยืนคิด จะทิ้งหรือจะทำอะไรกินดี แต่พอนึกถึงสตางค์ในกระเป๋า ผมฝานเปลือกทิ้งแล้วหั่นเป็นชิ้นหนาๆ ลวกจนสุก เพื่อเก็บไว้กิน 2 อย่าง อย่างแรกจะกินเล่นขณะนั่งดูทีวีหรือนั่งเล่นเฟส แทนขนมก็อปแก๊บราคาแพงๆ อย่างที่สอง ถนอมเป็นผักลวกจิ้มน้ำพริกหนุ่ม-น้ำพริกแดง-น้ำพริกกะปิ แล้วแต่ว่าจะอยากกินชนิดไหน (ซื้อมาสะสมในตู้เย็น)
ถ้าแม่ผมยังอยู่ แม่จะแปลงมะละกอห่ามให้เป็นมะละกอเชื่อมในพริบตา เป็นของหวานให้ลูกๆได้กินเล่นเพลินๆแต่ได้ประโยชน์ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว คิดถึงเปลือกส้มโอที่แม่เชื่อมใส่โถแก้วไว้ให้กินกัน เรื่องถนอมอาหารสารพัดวิธีนั้น แม่ผมเป็นหนึ่งในแม่สมองไวจริงๆ
ผลไม้และผักทุกชนิดไม่ควรคิดถึงคำว่า ไร้ประโยชน์ ต้องคิดก่อนจะขว้างทิ้ง แล้วทำทุกอย่างให้เป็นสิ่งมีคุณค่า