http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,276,463
Page Views16,603,069
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน12. ฟ้าบันดาล

วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด โดยเอื้อยนาง ตอน12. ฟ้าบันดาล

กิ่งคำปายกับยายทวด

โดยเอื้อยนาง

ตอน๑๒.ฟ้าบันดาล

            กระโจมที่พัก สร้างแบบง่ายๆ  จากเปลือกต้นของต้นยูคาลิปตัส ที่ลอกออกมาเป็นแผ่น ยาว ๆ นำมาผูกมัดรวบไว้ข้างบนอันเป็นเสมือนหลังคารูปโดมเหล่านั้น ตั้งเรียงรายอยู่บนที่ราบลุ่มชายป่าโปร่ง ที่ถูกทำให้โปร่งโล่งด้วยร่องรอยของการถูกไฟเผาไปเมื่อไม่นานมานี้    เป็นการจัดการเคลียร์พื้นที่ให้เปิดโล่ง   ก่อนที่ชาวเผ่าจะเคลื่อนย้ายเข้ามาตั้งค่ายสร้างกระโจนพักอาศัย

            หญ้าอ่อน ๆ สีเขียวระบัดใบใต้แมกไม้ยูคาลิป  หรือต้นกัมนั้น  เป็นแหล่งอาหารอันอุดม  ให้สัตว์ป่าออกมาเริงร่า หากินมากมาย  ง่ายแก่ผู้คนจับล่ามาเป็นอาหารอีกต่อหนึ่งตามวัฏจักรแห่งสรรพชีวิตในโลก เผาป่าให้หญ้าเกิดใหม่ ให้สัตว์ประเภทกินหญ้าเข้ามาหากิน ก็จะมีสัตว์กินเนื้อมาคอยดักสัตว์กินหญ้าอยู่แล้ว  เผาป่าให้หญ้าเกิดใหม่จึงเป็นการเปิดพื้นที่เรียกสัตว์มาชุมนุม  เป็นการทำฟาร์มแบบธรรมชาติของชาวเผ่ามาหลายชั่วอายุคน   เมื่อหญ้าแก่หมดฤดูแล้วนั่นแหละจึงจะเคลื่อนย้ายไปตั้งค่ายในที่อื่น ๆ ที่หากินสะดวกเหมาะกับฤดูกาลต่อไป

            โชคดีที่มาเคอจูลามีปู่ฟ้าประทานผืนแผ่นดิน ภูผา ป่าไม้ ทะเลสาบ หล่มหนอง แม่น้ำและเถื่อนถ้ำมากมายอุดมสมบูรณ์ ไว้ให้ลูกหลานได้เคลื่อนย้าย  วนเวียนตลอดปี อาศัยสืบเหล่าเผ่าพงศ์พันธุ์ตลอดมายาวนานหลายพันชั่วคน มาเคอจูลาจึงรอนแรมหลบรอดการสัมผัสจากโลกภายนอกอยู่ได้ตลอดมา

            โลกภายนอกที่เปลี่ยนแปลงไปมากมาย ผู้คนหลายเชื้อชาติ หลากเผ่าพันธุ์จู่โจมเข้ามาบุกรุก   สร้างหลักปักฐานและเปลี่ยนผืนดินอันเก่าแก่แห่งเกาะใหญ่แห่งนี้ให้เป็นพื้นแผ่นดินใหม่ และให้ชื่อว่าประเทศออสเตรเลียมากว่าสองร้อยปีแล้ว กลายเป็นคนในวัฒนธรรมใหม่กันหมดแล้ว

ยังเหลือแต่มาเคอจูลาที่ยังอยู่ในความคุ้มครองของดินแดนอันศักดิ์สิทธิ์   ที่ตกทอดมาจากปู่ฟ้า

               ฝนพร่ำเมื่อบ่ายขาดเม็ดไปแล้ว ทิ้งความสดชื่นและกรุ่นกลิ่นไอดินที่ถูกไฟเผา หอมเคล้ากลิ่นเนื้อจระเข้วางบนไฟร้อนๆ ซึ่งตัมบูกับพวกผู้ชายอีกสองสามคนช่วยกันชำแหละ

            วันนี้ทุกคนในค่ายพักจะมีอาหารกินกันอย่างอิ่มหมีพีมัน นอกจากจระเข้ที่พวกเขาผู้ชายล่ามาได้แล้วยังมีผลไม้และไข่นก ตัวด้วงอ้วน ๆ และกุ้งตัวโต ๆ ที่พวกผู้หญิงจับมาได้อีกมากมาย

            ตัมบูจึงเก็บอีมูไว้ในเตาอบ เป็นเตาพิเศษที่พ่อของเขาช่วยทำขึ้น โดยขุดดินให้เป็นหลุมใหญ่ เผาไฟร้อนชั้นบนปากหลุมให้เนื้อดินแห้งแข็ง   แล้วใช้ใบไม้ปูรองก้นหลุมก่อนวางอีมูที่ถอนขน ควักเครื่องในออก และลนไฟจนเกลี้ยงเกลาแล้วลงไป  ใช้ใบไม้ปิดคลุมข้างบนจนเต็มหลุมอีกที   แล้วปิดด้วยดินอีกชั้นหนึ่งก่อนจุดไฟกองเล็กเหนือปากหลุม  อบให้อีมูสุกอยู่ภายใต้ แม่ของตัมบูจะช่วยเฝ้าดูไฟให้ร้อนกรุ่นอยู่เสมอจนกว่าอีมูจะสุกได้ที่วิธีการแบบนี้นอกจากจะได้กินเนื้อนุ่มอร่อยของอีมูแล้ว  ยังได้น้ำมันอีมูไว้ใช้ประโยชน์ได้ มากมายอีกด้วย

             ตัมบูมีแววว่าจะเป็นพ่อครัวที่มีฝีมือของตระกูลได้ดีทีเดียว  นอกจากทำอีมูอบ  ทำย่างเนื้อจระเข้ได้เยี่ยมแล้ว เขายังทำหมกห่านป่าให้ทุกคนได้ลิ้มลองอีกด้วย โดยถลกขนของห่านออกแล้วลนด้วยไฟ  ควักเครื่องในที่ไม่ต้องการออกทิ้งแล้วเขาก็ใช้เปลือกต้นยูคาลิปตัสแผ่นใหญ่ห่อห่านทั้งตัว  นำไปย่างไฟรุมๆ  จนสุกได้ที่ ก่อนนำมาแบ่งปันให้ทุกคนตามสิทธิ์

             เป็นธรรมเนียมของชาวเผ่าทุกเผ่าในแผ่นดินนี้ที่ต้องนำอาหารที่หาได้ทั้งหมดมารวมกัน แล้วแบ่งสันปันส่วนให้ได้กินกันทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่มียกเว้นแม้แต่คนชรา เด็ก หรือคนพิการที่หาอาหารด้วยตัวเองไม่ได้

             โรบินสัน และ กิ่งคำปาย ได้รับการยอมรับเสมือนสมาชิกคนหนึ่ง เป็นส่วนหนึ่งของชาวค่ายที่มีสิทธิ์ได้อาหารเหมือนคนอื่น ๆ เพราะความดีที่ได้ช่วยชีวิตของคนในเผ่า แถมทำร้ายจระเข้จนพวกเขาจับมันได้ง่าย ๆ ด้วยเนื้อจระเข้ ถือเป็นอาหารชั้นหนึ่ง การจับจระเข้มาถลกหนังทำอาหารได้ถือเป็นโชคลาภใหญ่หลวงสมควรมีการเฉลิมฉลองกันเลยทีเดียว

              เฒ่านาไบเองที่ถูกเนรเทศเพราะทำไฟดับเมื่อคืนก่อนก็ได้รับการให้อภัยกลับเข้าอยู่ร่วมค่ายกับคนอื่น ๆได้เหมือนเดิม  เพราะไฟเป็นสิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตชาวเผ่า นอกจากมันจะให้ความอบอุ่น ไล่แมลงในยามค่ำคืนและใช้ปิ้งย่างอาหารแล้ว พวกเขายังใช้ไฟเพื่อประโยชน์มากมายในนชีวิตประจำวัน   การทำอาวุธให้แหลมคม   การทำฟาร์มโดยเผาป่าให้หญ้าเกิดใหม่ เรียกสัตว์ทั้งหลายมาใกล้ ๆ หรือเปิดพื้นที่ให้โล่งโปร่ง เพื่อสะดวกในการสัญจรไปมา ล้วนต้องอาศัยไฟ   หรือแม้แต่ใช้ไฟเผาพื้นที่รอบ ๆ ค่ายพักเพื่อเป็นแนวป้องกันไฟป่าไม่ให้ลามเลียเข้ามาใกล้ได้  เป็นการใช้ไฟป้องกันไฟนั่นแหละ

              แต่หากไฟดับไปหมด  การจะก่อไฟใหม่แต่ละครั้งช่างเป็นปัญหาใหญ่โตโดยเฉพาะในฤดูที่เปียกชื้น ผู้มีความอดทนและชำนาญเท่านั้นจึงจะใช้ท่อนไม้ถูกันจนเกิดความร้อนลุกเป็นไฟได้ หากไม่มีเผ่าเพื่อนบ้านสัญจรอยู่ใกล้ ๆ การจะได้ไฟมาอาจต้องใช้เวลาหลายวัน หลายคืน คนในเผ่าคงต้องทนหนาว และกินอาหารดิบหลายเพลา

                    

              จึงต้องมีการมอบหน้าที่ให้หญิงผู้อาวุโสบางคนเป็นผู้รักษาไฟไว้ ไม่ให้ดับตลอดคืน และตลอดเวลา หากว่ามีการอพยพเคลื่อนย้ายไปตั้งค่ายพักยังที่อื่น ๆ ซึ่งต้องทำกันเป็นประจำ ปีละหลาย ๆ ครั้งตามความจำเป็นแห่งการเสาะหาอาหาร ผู้รักษาไฟต้องถือท่อนฟืนที่ติดไฟแล้ว   หรือคบไฟที่มีไฟติดอยู่ไปด้วยตลอดทางอันยาวไกล ส่วนมากมักมอบให้เป็นหน้าที่ของหญิงชราผู้ทำงานหนักอื่น ๆ ไม่ได้แล้ว   เธอจะต้องรักษาไว้ให้มีไฟพร้อมจะก่อกองใหม่ได้ตลอดเวลา หากเผลอไผลทำไฟดับ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง อาจถูกเนรเทศออกจากค่าย ปล่อยให้ตายอยู่เพียงคนเดียวเลยก็มี

              เหมือนแม่เฒ่านาไบที่เผลอไผลหลับใหลไปนานจนไฟดับสนิทเมื่อรุ่งสางของเมื่อวานที่ผ่านมา ความจริงก็คือว่า มีเด็กเล็ก ๆ คนหนึ่งตื่นขึ้นมาร้องไห้เสียงลั่นเมื่อกลางดึก เพราะความหนาวเย็น และสั่นสะท้าน ทำให้เด็กน้อยต้องกลิ้งตัวมานอนชิดกองไฟเกินไป จึงเผลอกลิ้งถูกถ่านไฟร้อน ๆ ลวกเอา

              เสียงเด็กร้องจ้าเรียกชาวค่ายทุกคนตื่นมากลางดึกก็จริง แต่เมื่อช่วยกันดูแลใช้ผงดินochre  ผสมไขมันพอกผิวให้แล้วต่างกลับไปนอนตามเคย มีแต่แม่เฒ่านาไบเท่านั้นที่ห่วงใยเด็กผู้บาดเจ็บ  และปวดร้อนด้วยพิษไฟ   แม่เฒ่าจึงเฝ้าคอยดูแลตลอดคืน แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอน ทำให้เผลอหลับไปตอนค่อนรุ่งด้วยความอ่อนเพลีย ลืมหน้าที่ดูแลไฟของตนไปถนัด ทำให้ไฟดับซึ่งเป็นปัญหาใหญ่โตของชาวค่ายทีเดียว

             “ผู้มีหน้าที่ดูแลไฟ แต่เผลอปล่อยให้ไฟดับมอด ถือว่าทำความผิดมหันต์แห่งเผ่าพันธุ์ทีเดียว”

             พ่อเฒ่าบันดิ ชายผู้อาวุโสของเผ่าประกาศก้อง ในเช้าวันต่อมา

             “โทษที่จะต้องรับคือต้องเนรเทศออกไปจากค่าย ปล่อยให้ตายอยู่คนเดียวนั่นแหละจึงจะสาสม”

              มีหลายคนพยายามอธิบาย ชี้แจงเหตุความอ่อนเพลียทำให้แม่เฒ่าเผลอหลับไป

แต่กฎก็คือกฎ  หน้าที่คือหน้าที่  เผ่าชนผู้มีอารยะต้องตรากฎเกณฑ์ขึ้นไว้ให้ทุกคนปฏิบัติตาม

เพื่อความอยู่รอดปลอดภัย และความสงบสุขภายในสังคม  เฒ่านาไบจึงถูกเนรเทศออกไป

              โพรงไม้ใต้ต้นสนโบราณ ที่ห่างไกลจากค่ายพัก จึงกลายเป็นถิ่นพำนักของแม่เฒ่าตลอดวัน

             “มันเป็นเพราะข้านั่นแหละที่กลิ้งตัวไปถูกไฟลวกเอง”

              เด็กชายคนหนึ่งที่มีแผลไฟลวกตามหน้าตาเอ่ยอย่างเสียใจ แม่เฒ่ามองร่างเล็กน่าสมเพทนั้นแล้วยิ้มให้ ปลอบใจว่า

             “ไม่เป็นไรหรอก จิงจิง เจ้ายังเด็กนัก ที่จริงโพรงไม้แห่งนั้นเคยเป็นที่พำนักของข้า ยามมีความลับของผู้หญิงนั่นแหละ แต่วันนั้นวอมแบตน้อยมาอยู่กับข้าด้วย มันช่วยให้ข้าอบอุ่น และไม่เหงานักหรอก มันดูคุ้นและฉลาดมากเลย”

              แม่เฒ่าเล่าให้เด็ก ๆ ที่ห้อมล้อมข้างกายอยู่นั้นฟัง

             “แล้วทำไมแม่เฒ่าจึงได้พบกับคนขาวสองคนนั้นแหละแม่เฒ่า”

             คนแปลกสองคนก็เป็นสิ่งหนึ่งที่เด็กๆ สนใจใคร่รู้ แม่เฒ่าจึงได้เล่าประสบการณ์ อันแปลกประหลาดจนมีเหตุให้ได้พบกับโรบินสัน และกิ่งคำปายนั่นแล้ว

             “เขาหล่นลงมาจากฟ้าหรือ โอ้โฮ้”

             เด็กบางคนทำท่าสยอง

            “ใช่”

             แม่เฒ่าทำเสียงเย็นยืดอกเหี่ยว ๆ ขึ้นอย่างภาคภูมิใจ   “จะมีใครดลบันดาลให้เป็นไปได้ หากไม่ใช่ปู่ฟ้าที่เป็นบรรพบุรุษผู้สร้าง ผู้ให้กำเนิดชาวเผ่ามาเคอจูลา ของเรา”

            “ข้ารับผิด รับโทษตามประเพณีอันดีงาม ปู่ฟ้าเมตตาข้า จารีตประเพณีไม่มีใครหลีกเลี่ยงได้หรอก มันเป็นพันธะหน้าที่ด้วยนะ”

               ฟ้าบันดาลให้สองคนนั้นหล่นลงมา    

********************************************************

 

Tags : วรรณกรรมเยาวชน กิ่งคำปายกับยายทวด พม่าไม่ไปไม่รู้

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view