ประเพณีฮ้องขวัญวัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ ศรัทธาเพียบพูน
โดยธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ
หลังจบปริญญาตรี บัณฑิตหนุ่มได้รับคำสั่งให้ไปรับราชการทางภาคเหนือ กลางป่าเปลี่ยว อำเภองาว จังหวัดลำปาง โดดเดี่ยวเดียวดาย หว้าเหว่วิเวกวังเวงวิเหวโหว เหลียวไปทางไหนก็มีแต่ขุนเขาทะมึนทึน ยิ่งมืดค่ำยิ่งรู้สึกเย็นสันหลังวาบๆ ไม่มีพี่ไม่มีน้อง มีเพียงเพื่อนร่วมงานที่มาจากต่างถิ่นเหมือนกัน เว้นแต่พี่น้องเพื่อนร่วมงานชาวล้านนา อู้คำเมืองใส่ตึงวัน
วันหนึ่งได้รับเชิญจากหัวหน้าคนงาน ให้ไปร่วมในพิธี "ฮ้องขวัญ" นั่งงงอยู่พักหนึ่งจึงตัดสินใจมันจะเป็นอะไร แต่คงไม่ใช่ไอ้ขวัญของอีเรียมแน่ ไปก็ไป
รับปากแล้ว เย็นย่ำก็คว้าเสื้อหม้อฮอ่มใส่คลุมกางเกงขายาวสีน้ำเงินเข้ม ไปร่วมงานที่บ้านเพื่อนร่วมงาน ปรากฎว่าเขาได้ลูกน้อยคนใหม่เป็นหญิงสมใจ หลังจากมีแต่ลูกชายมาแล้วสองคน ดีใจมากอยาก "ฮ้องขวัญ" ให้ลูกหญิงเกิดใหม่ได้อายุมั่นขวัญยืน
กลางเรือนหรือกลางเฮือนของหัวหน้าคนงาน มีบายศรีที่ทำจากใบตองกล้วย และมีดอกดาวเรืองตกแต่งตามศิลปะพื้นบ้านล้านนา ปลายกรวยบายศรีมีไข่ต้มสุกเสียบไว้ เขาทำง่ายๆเพียงห้าชั้น โรยด้วยข้าวตอกดอกไม้ หมาก พลู ยาเส้น ข้าวเหนียวปั้นหนึ่งและเม็ดข้าวโพดยังไม่ได้คั่วสีเหลือง ญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านนั่งรายล้อมกันรอบขันสลุง(ขันน้ำมนต์)ที่บรรจุน้ำมนต์ ปากขันสลุงมีเทียนสีเหลืองเล่มหนึ่งวางพาดอยู่กับมดหญ้าคาที่ใช้ประพรมน้ำมนต์
ใกล้บายศรีมีหมอทำขวัญของหมู่บ้านนั่งอยู่ พิธีเริ่มขึ้นด้วยการนำสวดมนต์ของหมอทำขวัญ แล้วพ่อหมอก็ร่ายคำเมืองที่จดจำไม่ได้ แต่เนื้อหาใจความน่าจะเป็นการร่ยมนต์คาถาเพื่อให้ปกปักรักษาแม่หนูน้อยให้อายุมั่นขวัญยืน มีร่างกายที่แข็งแรง มีขวัญอยู่กับเนื้อกับตัว ไม่ร้องไห้ตกใจง่าย ได้ขอให้เทวดาท้าวมหาพรหมยมนาจากฟากฟ้าสุราลัย ได้โปรดช่วยกันอวยชัยให้พรแด่แม่หนูน้อยด้วยเทอญ หลังจากนั้นทุกคนพนมมือเว้นแต่แม่หนู่ที่นอนหลับอยู่ใน"อู่" รับน้ำมนต์จากหมอทำขวัญที่สลัดผ่านมัดหญ้าคา เป็นอันจบพิธี พ่อแม่พี่น้องเพื่อพ้องล้วนยิ้มอิ่มเอิบ
วันเวลาผ่านไปนานหลายสิบปี ผมโยกย้ายงานไปตามหน้าที่หลายจังหวัด ไปทั้งแถวเหนือจนไปถึงทางอีสานบ้านเฮา ก็ได้พบได้เห็นการบายศรีสู่ขวัญรูปแบบต่างๆกันออกไป แต่ก็ไม่แตกต่างมากนัก หมอทำขวัญก็มีทั้งอาจารย์ที่ได้รับความเคารพนับถือของหมู่บ้าน และเป็นพระสงฆ์องคเจ้าก็มี ความแตกต่างมีเพียงภาษา กรรมวิธี และสถานที่ ไทยล้านนากับไทยอีสานนั้นมีวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตและความเชื่อค่อนข้างคล้ายคลึงกัน
ซุ้มพิธีฮ้องขวัญหรือการพายศรีสู่ขวัญ
ปีที่แล้ว ผมได้ไปที่วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่ เพื่อไปทำสารคดีเรื่อง"ตักบาตรเที่ยงคืน" ตื่นเต้นในความศรัทธาของพี่น้องชาวเชียงใหม่-ลำพูน แต่ความจริงญาติโยมที่แห่กันไปร่วมพิธีนั้นมาจากทั่วสารทิศ และครั้นรุ่งเช้า ผมต้องเข้าไปสัมภาษณ์พระอาจารย์เจ้าอาวาส พระครูสิริศีลสังวร หรือครูบาน้อย เตชะปัญโญ หลังจากนั้นมีญาติโยมเดินทางมากราบขอให้ครูบาน้อย "ฮ้องขวัญ" ให้ ซึ่งบนกุฎีของครูบาน้อยหลังใหญ่นั้นท่านได้ตั้งห้องเครื่องสำหรับพิธีกรรมนั้นอยู่แล้ว ท่านได้จัดพิธีจนดูอลังการน่าเลื่อมใสยิ่ง
ผมนั่งร่วมพิธีไปด้วยโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อครูบาน้อยแผ่ส่วนกุศลและฮ้องขวัญให้กับโยมทั้งสาม ก็น่าจพกระเด็นมาถึงผมบ้าง ด้วยว่าผมร่วมในพิธีไปด้วย แล้วก็ถ่ายรูปเพื่อเก็บใล่สู่กันอ่านด้วย เผื่อว่า ถ้าท่านผู้อ่านทั้งหลายเกิดมีความรู้สึกว่าจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว หรือขวัญกระเจิดกระเจิงจนสับสน หรือคนในครอบครัวได้รับอิทธิพลจากผีสางนางไม้ รู้สึกปั่นป่วน อยู่ไม่เป็นสุขทั้งใจและกาย ก็จะได้เดินทางไปให้ครูบาน้อยเกจิอาจารย์แห่งวัดศรีดอนมูล ทำพิธี"ฮ้องขวัญ" ให้อยู่ร่มเย็นเป็นสุขสืบไป
ครูบาน้อย วัดศรีดอนมูล อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ภาพที่ผมถ่ายมานี้ หมอทำขวัญเป็นครูบาน้อยและคณะสงฆ์ที่ร่วมพิธี สนใจไปร่วมกิจกรรมต่างๆของวัดศรีดอนมูล
ติดต่อเลขานุการครูบาน้อยชื่อแดงโทร.053-421040//053-420277