พม่าไม่ไปไม่รู้ ๑๕
ชเวดากอง พระมหาธาตุเจดีย์แห่งทอง เมืองย่างกุ้ง
“เอื้อยนาง”
เนินสูงแห่งนี้เคยเป็นยอดเขาย่อม ๆ ชื่อ สิงคุตตะ หรือ เชียงกุตะ ในอดีตเมื่อหลายร้อย หลายพันปีก่อนพื้นที่โดยรอบคงต่ำกว่านี้ แต่ปัจจุบันสิงคุตตะอยู่ต่ำกว่าระดับถนนไม่มากนัก แต่สิ่งปลูกสร้างบนยอดเนินกว้างแห่งนี้ นั่นต่างหากที่สูงเด่นเป็นสง่าส่องประกายเรืองรองท้าทายสายตาของผู้คนให้ตลึงแลแม้อยู่ไกล... และไกล...ออกไป
นั่นคือ พระมหาธาตุเจดีย์ ชเวดากอง(Shwedagon Pagoda) ที่ยิ่งใหญ่อลังการและมหัศจรรย์ เป็นพระเจดีย์ที่ประดิษฐานพระเกศาธาตุของสมเด็จพระพุทธเจ้าจำนวน ๘ เส้น เป็นมรดกจากอาณาจักรมอญโบราณที่เพาะบ่มวัฒนธรรมจนรุ่งเรืองในแถบนี้ก่อนใคร ๆ ไม่ว่าพม่าหรือไทน้อย ไทใหญ่ ตามตำนานว่าสร้างมากว่า ๒ พันปีแล้ว แต่ในทางโบราณคดีเชื่อว่าคงสร้างในราวคริสต์ศตวรรษที่ ๖-๑๐ อย่างไรก็ตาม เจดีย์องค์สำคัญ ๆ โดยทั่วไปก็มีการผุพังจนต้องบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่สืบเนื่องกันหลายยุคสมัย ในยามที่บ้านเมืองรุ่งเรืองสงบสุขผู้คนก็ทุ่มเทให้กับการทะนุบำรุงศาสนา ตรงกันข้ามในยามเกิดภัยพิบัติทุกข์เข็ญผู้คนก็หลบเร้นห่างหายหลายแห่งถูกทิ้งร้างห่างเหิน
พระมหาธาตุเจดีย์ ชเวดากองก็เคยถูกทิ้งร้าง แต่มีการบูรณะซ่อมเสริมขึ้นมาใหม่หลายครั้ง หลายยุคสมัย
ชเว ในภาษาพม่านั้นหมายถึงทอง และดากองก็เป็นชื่อเมืองเก่าที่ตั้งอยู่ ณ ที่นี้เดิมทีบริเวณที่ตั้งเมืองย่างกุ้งในปัจจุบันนี้นั้นเป็นหมู่บ้านชาวประมงเล็ก ๆ ชื่อ ตะกอง หรือ ดากอง และค่อย ๆ เติบโตเป็นบ้านเมืองขึ้นมาทีหลัง ปรากฏในพงศาวดารว่าช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๖ พระเจ้าอโนรธาแห่งพุกามเมื่อครั้งกรีธาทัพมารวบรวมเอาแผ่นดินมอญเคยเสด็จมาเยือนที่แห่งนี้
เมื่อพ.ศ. ๑๙๒๕ สมัยพระเจ้าพินยาอูกษัตริย์มอญครองราชย์ ณ หงสาวดี นั้นพระองค์ได้ทรงมาทำนุบำรุงทำการสร้างพระธาตุเจดีย์นี้ใหม่มีความสูงถึง ๑๘ เมตร และอีก ๕๐ ปีพระเจ้าพินยาเกียนแห่งหงสาวดีได้โปรดให้บูรณะเสริมยกสถูปให้สูงขึ้นเป็น ๙๐ เมตร ครั้นพระนางชินสอบูครองราชย์ พระนางได้โปรดให้สร้างลาน และกำแพงล้อมรอบเจดีย์ ด้วยศรัทธาแรงกล้าพระนางได้พระราชทานทองคำหนักเท่าพระองค์เอง(๔๐กิโลกรัม)นำมาตีเป็นแผ่นให้โอบหุ้มรอบพระเจดีย์ กษัตริย์องค์ต่อมาของหงสาวดี คือ พระเจ้าธรรมเดีย์พุทธศาสนารุ่งเรืองมากในราชอาณาจักรมอญ พระองค์ได้พระราชทองคำหนักเป็น ๔ เท่าของน้ำหนักพระองค์เองเพื่อเพิ่มเติมซ่อมแซมแผ่นทองที่หลุดร่วงไปเพราะลม และฝนมักซัดเซาะเสมอ
เมื่อพม่ากับมอญกลายเป็นอาณาจักรเดียว มีศูนย์กลางอยู่หงสาวดี พระมหาธาตุเจดีย์ ชเวดากองกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวพม่า จนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศ พม่า ได้มีการบูรณะซ่อมแซมต่อเติมอีกหลายยุคสมัยเรื่อยมา
พระมหาธาตุเจดีย์นี้เคยอยู่ในการยึดครองของอังกฤษถึง ๗๗ ปี(พ.ศ.๒๓๙๕-๒๔๗๒) แต่ไม่เคยคลายความเคารพศรัทธาจากชาวพม่า ยังคงเข้าสักการะอยู่เช่นเดิม พ.ศ.๒๔๑๔ พระเจ้ามินดงแห่งมัณฑะเลย์(เมืองหลวงขณะนั้น)ทรงส่งฉัตรฝังเพชรอันใหม่มาถวายพระธาตุเจดีย์เป็นพุทธบูชา
จนกระทั่งปัจจุบันที่เราได้ยล พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองสูง ๙๘ เมตร บนยอดฉัตรบนพระธาตุเจดีย์(๑๐เมตร)สร้างด้วยไม้หุ้มทอง ประดับด้วยกระดิ่งทอง กระดิ่งเงินเพชรล้ำค่าหลายพันเม็ด(กว่าห้าพันเม็ด)และเพชรเม็ดโตที่สุดนั้นเป็นเพชร ๗๖ กะรัต แวดล้อมด้วยทับทิม นิล และบุษราคัมอีกกว่าสองพันเม็ด ส่วนทองที่หุ้มพระธาตุเจดีย์นี้นั้นว่ากันว่ามากกว่าทองคำในธนาคารแห่งชาติอังกฤษเสียอีก
นอกจากองค์พระสถูปทองเรืองรองมโหฬารแล้ว ยังตระการตาน่าอัศจรรย์ใจด้วยองค์ประกอบรายรอบพระเจดีย์สิ่งปลูกสร้าง วิหาร ซุ้มประตู เจดีย์ราย รูปเคารพต่าง ๆ มากมายรายเรียงเป็นถั่นแถว อันแสดงถึงศรัทธาท่าบ่าล้นผ่านกาลผ่านเวลาผ่านยุคสมัยยังคงอยู่สืบทอดตลอดมา และนับวันมากมายล้นหลาม
พระมหาธาตุเจดีย์ชเวดากองเปิดตั้งแต่ ๐๔.๐๐-๒๑.๐๐ นาฬิกาผู้ศรัทธจึงมีโอกาสเข้าสักการะตั้งแต่ก่อนอรุณสมัยไปจนหมดแสงตะวัน เพื่อคอยชมยอดเจดีย์ประดับเพชรที่วับวาวท่ามกลางหมู่ดาวในคืนฟ้าโปร่ง องค์เจดีย์ที่แม้ตั้งอยู่สูงลิ่วนี้มีบันไดทอดยาวให้ขึ้นได้ทั้งสี่ทิศ ซึ่งมีบันไดถึง ๑๐๔ ขั้นทอดสู่ลานพระเจดีย์
ยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับพระมหาธาตุเจดีย์ที่ยิ่งใหญ่แห่งนี้จะเล่าสู่กันฟัง ยกไปเป็นตอนต่อไปก็แล้วกันนะคะ
๐๐๐๐๐