ในคมขวาน ๒
วัดป่า-ลมหายใจแห่งป่าและธรรมะในอุบลราชธานี
โดย “สาวภูไท”
อุบลราชธานีศรีวนาลัยประเทศราช เป็นนามที่จังหวัดอุบลราชธานีในปัจจุบันได้รับพระมหากรุณา โดยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รัชกาลที่ ๑ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ทรงโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ยกบ้านห้วยแจระแมขึ้นเป็นเมืองชื่อดังกล่าว เมื่อ พ.ศ.๒๓๒๕
อุบลราชธานีในช่วงนั้นคงเหมาะสมแล้วกับคำว่า “ศรีวนาลัยประเทศราช” เพราะความเป็นเมืองเล็ก ๆ เพิ่งอพยพหนีจากจำปาศักดิ์ได้ไม่ถึงครึ่งศตวรรษด้วยซ้ำ ที่พากันหอบลูกจูงหลานบุกป่าฝ่าดง ข้ามภูเขาและสายน้ำ ลุ่ม ๆ ดอน ๆ กันมา ก่อตั้งเป็นชุมชนบ้านเมือง ณ ดอนมดแดง และขยับย้ายสู่ริมห้วยมูลน้อย ห้วยแจระแมซึ่งเป็นสายน้ำสาขาเล็ก ๆ ที่ไหลรวมลงแม่น้ำมูล สภาพแวดล้อมทั่วไปเต็มไปด้วยดงหนาป่าใหญ่ดังในหนังสือประวัติเมืองอุบลราชธานี และตำนานต่าง ๆ ที่กล่าวถึงยุคต้นรัตนโกสินทร์ที่อุบลราชธานีต้องส่วยให้ทางกรุงเทพนั้น รายการสิ่งของที่ต้องส่งส่วยประจำปีนอกจากผ้าขาว ต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองแล้วยังมีของจากป่า เช่น น้ำผึ้ง หมากแหน่ง(เร่ว) นอระมาด(นอแรด)อีกด้วย นั่นแสดงถึงความอุดมสมบูรณ์ของป่าจึงหาได้ง่าย ๆ ในแถบนี้ โดยเฉพาะบริเวณที่ตั้งเมืองนั้นเป็นป่าใหญ่ใหญ่มีต้นยางนาสูงเสียดฟ้าอยู่หนาแน่น ในประวัติศาสตร์อุบลราชธานีฉบับภาษาลาวชำระโยปรีชา พิณทองกล่าวถึงว่า “เผิ้งและมิ้ม มีแท้สู่หง่ายาง” หมายถึงทุกกิ่งของต้นยางมีรังผึ้งรังมิ้มเกาะเกี่ยวห้อยแขวนอยู่มากมาย
แต่นั่นเป็นอดีตไปแล้วหละ อย่าว่าแต่จะแลหาป่าหาดงอู่ผึ้งในเขตเมืองอุบลไม่เห็นเลยนะ นอกเขตตัวเมือง ห่างไกลออกไป ถึงไหน ๆ ป่าก็กำลังหายสูญไปหมดแล้ว
เพื่อแทนที่ด้วยพืชเศรษฐกิจทั้งหลายตั้งแต่มันสำปะหลัง อ้อย ปาล์ม และที่รุกล้ำใหญ่โตตอนนี้ก็คือ ยางพารา ที่กินผืนป่าไม่ใช่เฉพาะในเขตอุบลราชธานีแต่ขยายไปทั่วไทยแลนด์แล้ว
แต่ในความเป็นอุบลราชธานีนั้นสิ่งดี ๆ ที่บรรพบุรุษให้ไว้เป็นมรดกสืบทอดตลอดมามากมาย
เฉพาะในด้านป่าไม้แล้ว เราเคยมีดงป่าศักดิ์สิทธิ์ในความเชื่อเดิมไว้มรดก เป็นป่าต้องห้ามตามจารีดฮีตคองที่ใคร ๆ เหล่าลูกหลานเหลนโหลนจะไม่ไปล่วงล้ำก้ำเกิน โดยสำนึกและข้อห้ามว่าเป็นที่สิงสถิตของวิญญาณปู่ย่าตายาย ปู่สังกะสาย่าสังกะสี จึงเรียกป่านี้ว่า “ดงปู่ตา” “ดอนเจ้าปู่” ฯลฯ
แต่นั่นก็เป็นอดีตไปแล้ว หลายแห่งกลายเป็นที่ตั้งสำนักงานอบต. โรงเรียน ที่ว่าการอำเภอ และตลาดชุมชนไปแล้ว
ฮือ...ๆ...ๆ...เสียดายน่ะ เคยไปหาเห็ดหาหน่อไม้แหย่มดแดงเมื่อคราเป็นเด็กอยู่แท้ ๆ
“ต่อไปจะเหลือต้นไม้อยู่แค่สามร่มโพธิ์ศรี” แม่เคยบอกไว้
เราได้แต่พิศวงตีปัญหาแม่ไม่ออก
มาบัดนี้ที่ได้ไปทำบุญไหว้พระในวัดป่าบ่อย ๆ โดยเฉพาะวัดหนองป่าพงของหลวงปู่ชา ซึ่งมีสาขาอยู่อีกมากมายทั่วเขตแคว้นแดนอุบลราชธานี และอื่น ๆ ไปแทบทั้งโลก เราจึงสรุปได้ สามร่มโพธิ์ศรีที่แม่ว่าคือ ร่ม พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์นั่นเอง โดยเฉพาะในเขตแดนแห่งวัดป่า
“นี่เราก้าวเข้ามาในโลกอีกโลกหนึ่งแล้วหรือ”
เพื่อนผู้มาจากกรุงเทพฯของเราเอ่ย เมื่อเราพาไปไหว้พระที่วัดป่านานาชาติ เธอเพิ่งมาเยือนอุบลราชธานี หลังจากฝ่าดงรถยนต์ที่ติดยาวเหยียดในตัวเมืองออกมาสู่วัดแห่งนี้ที่อยู่ห่างออกมาเพียงไม่กี่กิโลเมตร
แดดเปรี้ยง ๆ ส่งไอร้อนระอุบนท้องถนนแทบจะเผาผู้คนให้ละลาย ครั้นย่างกรายเข้าในเขตวัดป่าก็ราวกับเรามาอยู่อีกโลกหนึ่งดั่งที่เธอว่าแล้วจริง ๆ
จึงถือเป็นความโชคดีของอุบลราชธานี เป็นโชคดีของผืนป่าและหล้าโลกด้วย โชคดีที่เรามีหลวงปู่ชาผู้วางรากฐานวัดของท่านและสาขาไว้เป็นมรดก ทั้งมรดกทางธรรม และธรรมชาติ ศรัทธาที่เกิดต่อตัวท่านที่มีมากมายล้นเหลือนั่นเองที่ช่วยรักษาป่าพงดงดอนไว้ในหลาย ๆ เขตวัด
วัดหนองป่าพง คือต้นแบบก่อกำเนิดวัดสาขาอีกมากมายตามมา สมัยที่หลวงปู่ชายังมีชีวิตอยู่นั้น มีผู้คนจากทุกทิศ ทั้งใกล้ไกลเดินทางมากราบไหว้ บ้างมาจากหมู่บ้านที่มีวัดประจำหมู่บ้านอยู่แล้วก็ยังข้ามกรายมากราบไหว้ด้วยใจศรัทธาเลยพากันยกวัดในหมู่บ้านให้หลวงปู่ส่งลูกศิษย์ลูกหาไปดูแล และกลายเป็นวัดสาขาของหนองป่าพงไปก็มีหลาย ป่าพงดงสงวนบางแห่งถูกชาวบ้านบุกรุกเหลือแต่ตอ ผุดโผล่บนที่แล้งโล้น กรมป่าไม้ทั้งกรมเอาไม่อยู่ จึงได้มานิมนตร์หลวงปู่ไปช่วย หลวงปู่ส่งลูกศิษย์องค์เดียวไปพำนักจัดตั้งสำนักสงฆ์ เท่านั้นแหละชาวบ้านทั้งหลายกลับมาช่วยกันปลูกป่า ปลูกต้นไม้รายล้อมจนพงหนาป่าทึบขึ้นมาอีกน่าอัศจรรย์
มีเรื่องเล่าว่า เมื่อเขื่อนสิรินธรสร้างเสร็จ น้ำก็ท่วมผืนป่าตามประสาเขื่อน ผืนป่ากลายเป็นทะเล ป่าหนาดงเถื่อนที่ผู้คนเห็นเป็นที่ผีบ่ท่องคนบ่เทียวมาก่อนกลายเป็นเหมือนบ่ทองที่พายเรือเข้าไปได้ง่าย ๆ ปรากฏมีเกาะสวยงามอยู่ริมเขื่อนฝั่งตรงกันข้ามกับอำเภอสิรินธรและที่ทำการเขื่อน
ทุกวัน(ทุกคืนด้วย)ก็มีผู้แลเห็นป่าเป็นบ่ทองไปลักลอบตัดโค่นต้นไม้ไม่เว้นแต่ละวัน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี(สายสิทธิ์ พรแก้ว)ไปกราบหลวงปู่และว่าขอยกเกาะสวยงามที่อาศัยของนกหนูปูปีกนี้ให้หลวงปู่ โห...ญาติโยมทั้งหลายต่างถอนหายใจสงสารหลวงปู่ สงสารพระสงฆ์องค์เจ้าจะต้องไปอยู่แดนกันดารท่ามกล่งป่าที่มีน้ำล้อมรอบ พระจะต้องพายเรือข้ามน้ำกว้างใหญ่มาบิณฑบาต ใครจะไปนึกว่าปัจจุบันเกาะแห่งนั้นเป็นวัดป่าที่สวยงามท่ามกลางธรรมชาติพงหนาป่าไม้ในเขื่อนสิรินธร
นี่เป็นเพียงเสี้ยวของตำนานวัดป่าสายหลวงปู่ชาที่เราชาวอุบลราชธานีสามารถตะโกนได้อย่างภาคภูมิในในความโชคดีของเรา
โชคที่มีหลวงปู่ชา และวัดป่า
เราจึงมีป่าธรรมชาติไว้เป็นมรดกของลูกหลานท่ามกลางสายธารทางเศรษฐกิจที่ไหลเชี่ยวพัดเป็นเกลียวท่วมท้นจนป่าป่นในทุกวันนี้
๐๐๐๐๐