http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,276,857
Page Views16,603,478
« September 2024»
SMTWTFS
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930     
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ต้นข้าวแย้มยิ้มที่มิวเซียมสยาม โดยพอแพง เรื่อง-ภาพ

ต้นข้าวแย้มยิ้มที่มิวเซียมสยาม  โดยพอแพง  เรื่อง-ภาพ

ต้นข้าวแย้มยิ้มที่มิวเซียมสยาม 

“พอแพง” 

          ฝนที่ตกลงมาทั้งคืนเพิ่งขาดเม็ดเมื่อเสียงไก่บอกเวลารุ่งสาง  ฉันลุกไปแง้มหน้าต่างต้อนรับอากาศสดชื่นซึ่งยังคงมีละอองไอให้สัมผัสได้  เสียงกบและเขียดในอ่างบัวที่เรียงรายอยู่หน้าบ้านดังขึ้นระงม ปลุกเจ้านกบนกิ่งกระท้อนให้ออกมาส่งเสียงอรุณสวัสดิ์ผสมผสานด้วยกัน   พวกมันก็คงสัมผัสได้ในความสดชื่นของอากาศหลังฝนของเมืองกรุงเทพมหานครยามนี้เช่นกัน  สายฝนที่กระหน่ำถั่งเทลงมาได้ชะล้างเอาคราบฝุ่นละอองที่เนืองนองปะปนในบรรยากาศห่อหุ้มกรุงเทพให้เบาบางลง  และอากาศก็สดชื่นขึ้นมาแทน

 

            ประชากรหลายคนของเมืองกรุงอาจจะบ่นว่าให้สายฝนที่ไหลหลั่งลงมารบกวน  แต่คนบ้านนอกมาอยู่กรุงอย่างฉันกลับสัมผัสถึงความงามและน้ำใจของสายฝน  เช่นเดียวกับเจ้าเขียดน้อยในอ่างบัว  และเจ้านกบนกิ่งกระท้อนหน้าบ้าน

            เพราะสายฝนมีความหมายนักหนากับประชากรจากที่ราบสูงอย่างฉัน  โดยเฉพาะในฤดูทำนาที่เราเพาะต้นกล้าขึ้นมารอคอยสายฝน  เราจึงรักและเรียกหาสายฝนเสมอ ผิดกับคนกรุงที่เพียงมองเห็นเมฆตั้งเค้าก็บ่นออดแอดกระปอดกระแปดไปแล้วเพราะกลัวฝนตก 

            กลัวฝนตก  กลัวแดดออก  กลัวการสัมผัสกับธรรมชาติจนจะพากันเป็นกบในกะลาครอบไปหมดแล้ว  เด็ก ๆ จะเรียนรู้เรื่องสัตว์สักตัวก็ต้องท่องจำเป็นการบ้านปากเปียกปากแฉะ  อย่างเช่นว่าวัวมีสี่ขา  ม้าไม่มีเขานะ  ไก่นั้นเป็นสัตว์ปีก...จำไว้นะหนู  ต้นข้าวนั้นเป็นพืชตระกูลหญ้า ...  เด็ก ๆ ก็ท่องพลางกังขา ข้าวกับหญ้ามันไม่น่าเป็นพืชตระกูลเดียวกัน  เพราะต้นข้าวเป็นเช่นไรไม่รู้จัก 

            “ข้าวสวยในจานเนี่ยนะ ที่เคยมีเปลือกหุ้ม  เป็นไปได้อย่างไร”

            “สอนเท่าไหร่ไม่เคยจำ”  คุณครูบ่น  และคิดวางโครงการของบประมาณมาซื้อต้นข้าวเทียมจากญี่ปุ่นมาเป็นอุปกรณ์การสอน  เพราะสงสารเด็กจะได้สัมผัสต้นข้าวแบบใกล้ความจริงเสียที  แต่เอ๊ะ...น่าจะเป็นของจากจีนมากกว่า  เพราะจีนเขาเก่งราคาก็จะถูกกว่าด้วยช่วยประหยัดงบของชาติได้มากกว่า

             “แต่วันนี้  โชคดีของเด็ก ๆ ชาวกรุง  ที่ต้นข้าวมาแย้มยิ้มพริ้มเพราอยู่กลางกรุงให้ได้เห็นกับตา  และสัมผัสด้วยใจ”

            ใช่แล้ว....ต้นข้าวแย้มยิ้มที่มิวเซียมสยาม

            มิวเชี่ยมสยาม  พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้อยู่บนถนนสนามไชยในบริเวณอาคารที่เป็นกระทรวงพาณิชย์เก่า  กรุงเทพมหานครนี่เอง  อยู่ในการดูแลของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ  เป็นแหล่งการเรียนรู้หนึ่งที่เน้นจุดมุ่งหมายการแสดงตัวตนของชนในชาติไทย  เหมาะอย่างยิ่งจะให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึงรากเหง้าของไทยอยู่แล้ว  และในช่วงฤดูทำนาปีนี้ทางมิวเซียมสยามร่วมกับสถาบันอาศรมศิลป์ได้จัดแสดงนิทรรศการ   “Know-How  ชาวนานักค้นคว้าแห่งท้องทุ่ง”ขึ้นกลางลานที่เคยเป็นสนามหญ้าหน้าพิพิธภัณฑ์นั่นเอง  เป็นการแสดงถึงวิถีชีวิตชาวนาไทย  การทำนาข้าว  มีการปลูกข้าว  และจัดแสดงเครื่องมือ  เครื่องใช้ ขั้นตอนการทำนา  ตั้งแต่เมล็ดข้าวเปลือกถูกหว่านลงในดินรอเวลาต้นข้าวเติบใหญ่  ออกดอก  ผลิรวง  ผลิตเมล็ดข้าว  รวมถึงการพิธีกรรมในการทำนาซึ่งมีตารางบอกไว้เป็นระยะตั้งแต่วันเริ่มงาน วันที่ ๑๒  พฤษภาคม  ถึงวันที่ ๒๕ กันยายน

            ช่วงนี้กลางเดือนสิงหาคมข้าวกำลังแย้มยิ้มผลิรวงสวยงามเชียว  แม้ว่าหุ่นไล่กา  และกองฟางถูกฝนชะจนคออ่อนคอพับไปบ้าง  แต่หลายอย่างที่อยู่ในส่วนนิทรรศการยังคงมีชีวิต  อย่างเช่น กระท่อมกลางนาหลังน่ารักที่วันนั้นมีใครบางคู่ไปจับจองนั่งดื่มด่ำบรรยากาศท่ามกลางต้นข้าวจนใครๆ อีกหลายคนขาดโอกาสจะเข้าไปสัมผัสบ้าง  ส่วนระหัดวิดน้ำเข้านาแบบใช้แรงขาปั่นนั้นเป็นที่ฮิตที่สุดที่เยาวชนทั้งไทยและเทศเข้าไปทดลองปั่นเอาน้ำจากหนองน้ำเล็ก ๆ ให้ไหลผ่านไปตามรางสู่แปลงนา  หลายคนสนุกจนเกรงว่าน้ำในหนองจะแห้งไปแหละค่ะ

            ไปดูกันหรือยังละคะ  อย่าลืมว่าต้นข้าวในนาเติบโตขึ้นทุกวันนะคะ  ประเดี๋ยวเขาก็จะมีการเก็บเกี่ยวกันแล้ว ตามกำหนดการเขาจะลงแขกเกี่ยวข้าวในวันที่ ๒๔ สิงหาคม จากนั้นก็วันที่ ๑๑ กันยายน นวดข้าว ตีข้าว ๑๗ กันยายนทำบุญข้าวใหม่  ๒๔-๒๕กันยายน ตำข้าว สีข้าว  ผู้เขียนเองก็ยังไม่รู้เลยว่าในวันดังกล่าวจะมีโอกาสไปเก็บบรรยากาศมาให้อ่านกันไหม

            ยังงั้นก็ไปดูเองนะคะ  คุณครูพาเด็ก ๆ ไปจะยิ่งดี  เด็ก ๆ จะได้ศึกษาหาความรู้ภายในตัวพิพิธภัณฑ์ด้วย  อ่านรายละเอียดอีกทีจากเว็บไซค์ของมิวเซียมโดยตรงนะคะ

๐๐๐๐๐

           

           

           

           

 

Tags : ต้นข้าวแย้มยิ้มที่มิวเซียมสยาม

 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view