บ้านปากคลองประมง
ชมวิถีชีวิตชาวประมงและโลมาน่ารัก
โดยป่าน ศรนารายณ์ เรื่อง-ภาพ
ป่านเบื่อหน่ายมากที่วันว่างๆกลับไม่รู้ว่าจะทำอะไร ตัดใจออกเดินทางจากบ้าน(กรุงเทพ)ขับรถยนต์กันไปเรื่อยๆ คุยกันว่าจะไปที่ไหนกันดีในชั่ววันเดียวกลับแล้วยังไปรับลูกจากโรงเรียนได้ทันเวลา ความคิดตกผลึกรถยนต์ก็วิ่งดิ่งข้ามสะพานพระรามเก้าไปตามถนนพระราม 2 แล้วไปออกถนนเพชรเกษม ล่องใต้ไปจังหวัดสมุทรสาคร จุดหมายคือ "ศาลเพียงตาพันท้ายนรสิงห์" ในวัดพันท้ายนรสิงห์ เรื่องราวของลูกผู้ชายตัวจริงจากแขวงเมืองวิเศษไชยชาญ ผู้ยอมตายเพื่อรักษากฎกติกาของบ้านเมือง
รูปปั้นจำลองพันท้ายนรสิงห์
หลังจากเลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปตามป้ายบอกทางว่า 14 กม.ถึงศาลพันท้ายนรสิงห์ รถยนต์แล่นผ่านป่าชายเลน มีต้นไม้ที่รู้จักก็เช่นต้นแสม ต้นโกงกาง ต้นตะบูน ฯลฯ ขึ้นระรายทาง กลุ่มใหญ่บ้าง กลุ่มเล็กๆบ้าง
มีอยู่ช่วงหนึ่งผ่านหมู่บ้านสหกรณ์โคกขาม ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร เป็นสหกรณ์ที่ทำนาเกลือ ภาพที่เห็นเป็นหนุ่มนาเกลือข้อลำบึกบึนกำลังตักเกลือจากท้องนาใส่รถเข็นเพื่อทยอยขนส่งเข้า"โรงเกลือ" แล้วเพลงหนุ่มนาข้าวสาวนาเกลือก็ดังขึ้นจากฝาละมีตัวดี ทำให้ป่านต้องร้องต่อท่อนของผู้หญิงเพื่อเติมเต็มให้ แต่เพลงทำให้อารมณ์เบิกบานและสอดประสานกับภาพที่ได้เห็น
ชาวนาเกลือร้อง รัฐบาลไม่เคยช่วยเหลือใดๆ
แต่พอลงไปถ่ายรูปโรงเกลือ ชาวนาเกลือเล่าให้ฟังว่า
ชาวนาข้าวมีรัฐบาลกำหนดนโยบายจำนำข้าว แต่ชาวนากลือไม่มีเงินช่วยเหลือใดๆเลย
จากหมู่บ้านสหกรณ์โคกขามไปอีกกว่า 6 กม.มีป้ายบอกทางว่าไปศาลพันท้ายนรสิงห์ทางซ้ายมือ และไปหมู่บ้านปากคลองประมง ชม "ปลาโลมา" ป่านขอให้สารถีขับมุ่งไปชมปลาโลมาก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยวกกลับไปศาลพันท้ายนรสิงห์ เรียกว่าไปจุดไกลสุดก่อนค่อยกลับมาจุดตายใกล้กว่า
อันว่าปลาโลมานั้นเรียกกันตามปาก แท้จริงเขาเป็น ”สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม" เขาจึงไม่ใช่ปลา แต่อยู่อาศัย หากินและขยายเผ่าพันธุ์อยู่ในน้ำ เลยเรียกเหมารวมว่าเป็นปลา ซึ่งก็พบทั้งใน น้ำทะเล น้ำกร่อย(น้ำทะเลท่วมถึง) และในน้ำจืดด้วย
กุ้งแห้งชุบสีส้มให้สวย
รถยนต์แล่นไปบนถนนราดฝุ่นสีแดงๆเลียบบ่อเลี้ยงปู นานๆจะได้เห็นบ่อเลี้ยงกุ้งสักบ่อ ข้อสังเกตคือ ถ้าเป็นบ่อเลี้ยงปูจะไม่เห็นเครื่องปั่นเติมอ็อกซิเจนให้กับน้ำ พอเข้าไปใกล้ๆจึงได้เห็น "กุ้งฝอยใส่สีส้ม" ตากแห้งบนผ้าพลาสติกริมถนน ส่วนบ้านเรือนชาวประมงก็มีซากเปลือกหอยทิ้งเป็นกองไปทั่ว หน้าบ้านต่างสีสันล้วนหันหลังลงคลอง มีเรือหางยาวพร้อมอุปกรณ์ "อวนลุน" เพื่อช้อน"กุ้งฝอย" และ "เคยเพื่อใช้ทำกะปิ" ก้านอวนเป็นไม้ไผ่ลำใหญ่ๆสองลำ
"ขากลับซื้อกุ้งฝอยตากแห้งสักหน่อยดีไหม" สารถีถามลอยๆ ป่านก็ได้แต่ตอบว่าว่าเอาซิ
ศาลเจ้าพ่อปู่ทะเล
รถผ่านศาลเจ้าพ่อปู่ทะเลหลังสีแดงๆ ก็จอดที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งในจำนวนมากมายหลายร้าน แต่เนื่องจากวันที่ไปเที่ยวกันนี้ไม่ใช่วันหยุด จึงไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวหรือนักกินเลย
ประมงเรือเล็กติดอวนลุน
เลือกได้ร้านอาหารริมคลองที่มองออกไปเห็นปากอ่าว(ทะเล) มี"รอไม้ไผ่" ปักอยู่เพื่อป้องกันการกัดชะพังทลายของแผ่นดิน และ "ก่ำหอยแมงภู่" ซึ่งก็เป็นลำไม้ไผ่ปักทิ้งไว้ในทะเลเพื่อให้หอยแมงภู่เกาะ
รอปัองกันคลื่นจากทะเลและก่ำหอยแมงภู่
รอยต่อระหว่างทะเลบางขุนเทียนกับทะเลที่บ้านปากคลองประมง เกิดปัญหาจากการกัดชะพังทลายของชายฝั่งจนแผ่นดินจมหายไปมหาศาลนับพันๆไร่นั้น ได้รับการแก้ไขและปกป้องผืนดินด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น จากการใช้วัสดุจากธรรมชาติอันได้แก่ ไม้ไผ่ ก็แค่การปักเหมือนรอด้วยลำไผ่ขนาดใหญ่ๆเช่นไผ่ตงที่ปลูกเพื่อกินหน่อ หรือไผ่ฮกจากป่าดงในบ้านเรา
นกยางจับก่ำหอยแมงภู่รอเหยื่อ
ระหว่างนั่งรออาหารที่สั่ง ป่านเดินถ่ายรูปเพื่อใช้ประกอบเรื่องที่เขียน ภาพที่ได้ไม่สวยสมตามสภาพท้องฟ้าอากาศและช่วงเวลาที่ใกล้เที่ยงเต็มที ได้เห็นวิถีชีวิตชาวประมงเรือเล็ก เรือหางยาวลุนอวนกุ้งและเคย ได้เห็นนกกาน้ำตัวดำๆคอยาวๆดำน้ำไปจับปลากินแล้วบินขึ้นมาผึ่งปีกบนตอไผ่ในน้ำ และได้เห็นนกกระยางสีขาวบินกันว่อน
นกกาน้ำผึ่งปีกและขนจนแห้ง
เน้นย้ำเลยว่า ไปเที่ยวชายฝั่งทะเลบางขุนเทียนหรือหมู่บ้านปากคลองประมง สั่งอาหารจานเดียวกินประหยัดเงินในกระเป๋าที่สุด เว้นแต่นานๆทีจะพาครอบครัวไปกินอาหารทะเลละก้อไม่ว่ากัน จะหมดกี่พันก็ได้ตามชอบ
ยำหอยแครงแพงฉิบ.....80 บาท
ขากลับแวะเข้าไปกราบ"ลูกผู้ชายตัวจริงพันท้ายนรสิงห์ผู้ซื่อสัตย์" ททท.ได้สร้างศาลใหม่ให้ท่านสถิตสวยงามอลังการมากๆ มีร้านค้าหาซื้อของฝากและของกินเล่นได้สะดวกดี ยกข้อมือดูเวลาก็เลยต้องรีบกลับไปรับลูกกันอีก เรื่องราวของพันท้ายนรสิงห์จึงไม่มีเล่าในตอนนี้ แต่ตอนหน้ามีแน่ แม้ว่าฝนจะตกปรอยๆ อันเป็นปัญหาหนึ่งของกล้องดิจิตอล ประกอบกับแบตเตอรี่กล้องหมด ก็จบกัน
ประมงเรือเล็ก วิถีชีวิตพื้นบ้าน
ปล.ถ้าจะไปเที่ยวที่นี่ให้สมใจไม่ควรไปวันพุธเพราะว่าศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่ง(พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ)ปิดทำการ อดล่องเรือชมโลมา จึงต้องไปแต่เช้าๆ ศึกษาเส้นทางให้ดีๆไม่เช่นนั้นจะเสียเวลา อักโขจ้า
ร้านอาหารปากคลองประมงพร้อมเรือนำชมโลมา
ปูม้าเป็นกก.ละ....
ต้มยำกุ้งอร่อยแต่ปลาหมึกเหนียวจริงๆ
หอยอะไรไม่รู้จัก
ก่ำหอยแมงภู่