http://www.thongthailand.com
  สร้างเว็บไซต์Engine by iGetWeb.com 
 หน้าแรก  เว็บบอร์ด  บทความ  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  ข่าวสาร
ค้นหา  ประเภทการค้นหา   Cart รายการสั่งซื้อ (0) 
สถิติ
เปิดเว็บไซต์ 15/03/2009
ปรับปรุง 07/08/2024
สถิติผู้เข้าชม14,367,670
Page Views16,699,201
« October 2024»
SMTWTFS
  12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031  
ท่องเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก
ศิลปะ วัฒนธรรม ประเพณี วิถีชีวิต และความเชื่อ
รีวิว ร้านอาหาร โรงแรม รีสอร์ทและสปา
  foo&bed
ธรรมชาติ,สัตว์ป่าและพันธุ์พืช...มีคุณ(nature)
บทบรรณาธิการ สกู๊ฟพิเศษ และเรื่องเล่า
ข่าวสาร
http://www.thongthailand.com/index.php?mo=3&art=42365202
 

ค่ำคืนแสนสุขสมที่ ซือวานบูติกโฮมสเตย์ คีรีวง

ค่ำคืนแสนสุขสมที่ ซือวานบูติกโฮมสเตย์ คีรีวง

ค่ำคืนแสนสุขสมที่ ซือวานบูติกโฮมสเตย์ คีรีวง

โดย ธงชัย เปาอินทร์ เรื่อง-ภาพ

บินไปในราคาประหยัด 830 บาท ดอนเมือง-นครศรีธรรมราช

            ด้วยความรักความผูกพันในสายเลือด ทำให้ได้เดินทางไปเยือนหมู่บ้านคีรีวง โดยไม่คาดคิดว่าจะได้เรื่องราวมากมายให้รำลึกถึง เป็นความประทับใจที่เปลี่ยนแปลงตัวตนคนคีรีวงแต่วิถีชีวิตดั้งเดิมยังคงอยู่ ยากที่จะพบเห็นได้ในหลายพื้นที่ท่องเที่ยว  และนี่คือเรื่องราวที่บอกเล่าจากคนคีรีวง เรียกว่ากลั่นออกมาจากหัวใจคือความจริง  


ถ่ายรูปหมู่กันหน่อยที่หน้าซือวานบูติกโฮมสเตย์

            ตัวละครสำคัญ  อาจารย์สุภา เปาอินทร์(แม่)  บัณฑิตศึกษาศาสตร์ สาขาประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงและนางสาว ปุญพัฒน์ เปาอินทร์(ลูกสาว) บัณฑิตนิเทศศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราฏภัชพระนคร


ย้อนอดีตหมู่บ้านคีรีวง วงเวียนชีวิตที่หวนคืน

             อาจารย์สุภา  เปาอินทร์ เล่าว่า หนูเกิดที่นี่ บ้านคีรีวง เป็นหมู่บ้านชาวไทยพุทธและอิสลามในอ้อมกอดของขุนเขา มีเขาหลวงเป็นต้นน้ำสำคัญ บนเขาพวกเราชาวคีรีวงขึ้นไปทำสวนสมรมหรือสวนผสม ซึ่งเป็นวิถีชีวิตที่แตกต่างไปจากชาวสวนในภูมิภาคอื่น พ่อกับแม่ปลูกผลไม้หลายชนิดผสมกัน สวนผสมนั่นแหละแต่ชาวคีรีวงเรียกว่า สวนสมรม



ลงทะเบียนแขกทุกคนตามระเบียบ

            สวนสมรมที่พ่อแม่ทำก็ปลูกเหมือนเพื่อนบ้าน ได้แก่ ผลไม้ เช่น มังคุด เงาะ  ลองกอง ทุเรียน ละไม มะพร้าว หมาก  พืชอาหาร เช่น สะตอ เหรียง  หมุย ฯลฯ  และผลผลิตที่ขายได้เช่น ยางพารา ด้วยแนวคิดของบรรพบุรุษคือ มีผลหมากรากไม้เก็บขายเก็บกินได้ทั้งปี นี่คือวิถีชีวิตของชาวคีรีวง ที่เห็นต้นไม้บนเขาที่รายรอบหมู่บ้าน 

            ในอดีตหมู่บ้านคีรีวงใหญ่มาก ทุกครัวเรือนได้อาศัยแม่น้ำหรือคลองท่าดี เป็นเส้นเลือดใหญ่ น้ำบ่อขุดเจาะได้ทั่วไป มีวัดคีรีวงเป็นศูนย์กลางชุมชน  การคมนาคมหลักคือเท้าที่ก้าวเดิน เกวียน ล้อ และจักรยานสองล้อถีบ คลองท่าดีโอบไปหลังวัด เลียบเชิงเขาด้านทิศเหนือ มีสะพานข้ามคลองถาวร  น้ำใช้จากบ่อขุด  สภาพภูมิประเทศดั้งเดิมจึงเป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตเรียบๆ


วิกฤตคือโอกาส อุทกภัยครั้งสำคัญ

             เดิมบ้านคีรีวงเป็นหมู่บ้านเดียว แต่ต่อมาได้ขยายตัวออกจนกลายเป็น 4 หมู่บ้าน ได้แก่ บ้านคีรีวง  บ้านคีรีทอง  บ้านคีรีธรรม และบ้านคีรีขุนน้ำ ตั้งอยู่ในเขตปกครองของตำบลกำโหลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช  มีเขาหลวงสูงที่สุดถึง 1,835 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง ปัจจุบันนี้จัดตั้งเป็นวนอุทยานเขาหลวง มีเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง


            แต่เนื่องจากชุมชนคีรีวงทั้งหุบเขาได้รับผลกระทบมรสุมทั้งจากทะเลฝั่งอันดามันและอ่าวไทยจึงเกิดอุทกภัยหลายครั้ง  แต่ครั้งสำคัญที่เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของชาวคีรีวงคือ ปีพ.ศ.2531 ซึ่งมรสุมครั้งนั้นทำให้เกิดฝนตกติดต่อกันถึง 10 วัน  ดินบนเขาไม่สามารถดูดซับน้ำไว้ได้ เกิดแผ่นดินสไลด์ไหลลงมาทั้งก้อนหิน ต้นไม้ซุง ไม้ยางพารา ต้นทุเรียน มังคุด ฯลฯ ถล่มจนหมู่บ้านราบเป็นหน้ากลอง สัตว์ป่า สัตว์เลี้ยงและผู้คนล้มตายครั้งใหญ่ อุทกภัยบ้านคีรีวงและบ้านกะทูนนั่นเอง


แช่น้ำเย็นๆ ได้ตลอดลำน้ำ

            คลองที่เห็นอยู่หน้าบ้านซือวานโฮมสเตย์นี้คือคลองที่เกิดจากการไหลทะลายของน้ำฝนในครั้งนั้น กวาดหมู่บ้าน ชีวิตสัตว์เลี้ยง สัตว์ป่า ต้นไม้ในสวนสมรม และป่าไม้ ตลอดจนวัดคีรีวงก็พังไปทั้งหมด แต่ตายกันไปเท่าไรไม่ทราบได้ อุทกภัยครั้งนั้นเกิดขึ้นพร้อมบ้านกะทูน เป็นโศกนาถกรรมครั้งใหญ่ เกิดลำคลองใหม่ดังที่เห็นในปัจจุบันนี้ สะพานข้ามคลองเป็นแลนด์มาร์คถ่ายรูป


            กรมชลประทานเข้ามาพัฒนาคลองให้เป็นแม่น้ำสายใหม่ ถือว่าเป็นธรรมชาติเปลี่ยนทางน้ำใหม่  มีการปรับภูมิทัศน์สองฝั่งคลอง ปลูกต้นไทรไว้ยึดดินและให้ร่มเงาชายคลอง  มีถนนเลียบทั้งสองฝั่ง บ้านซือวานเลยกลายเป็นติดชายคลอง พระเจ้าทรงเมตตาประทานมาให้โดยแท้ ซือวานโฮมสเตย์อยู่ในเขตบ้านคีรีวงหลังสุดท้าย ถัดไปเป็นบ้านคีรีทอง


สวนสมรมหรือสวนผสม

บุพการีคือชีวิต  ต้องกลับมาทดแทน

             อาจารย์สุภา เล่าว่า ครอบครัวหนูมีกัน 3 คนพี่น้อง  พี่สาวอยู่บ้านติดกับบ้านพ่อแม่  น้องชายคนเล็กเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างอยู่ภูเก็ต  คุณพ่อคุณแม่ชราภาพมากอยู่กันสองคน แต่เมื่อพี่สาวเสียชีวิตไป หนูจึงตัดสินใจขอย้ายมาสอนหนังสือที่โรงเรียนบ้านคีรีวง เพื่อทดแทนพระคุณบุพการี ประจวบกับลูกสาว กระแต(ปุญพัฒน์) สำเร็จปริญญาตรีพอดี ปีพ.ศ.2552  


            ปีพ.ศ.2553 คุณแม่สิ้นบุญตอนอายุ 88 ปี  ปีพ.ศ.2554 คุณพ่อก็สิ้นบุญตอนอายุ 95 ปี หนูก็เลยต้องอยู่กันสองคนแม่ลูก แต่ก็อบอุ่นใจที่ได้กลับมาอยู่บ้านเกิด บ้านหลังนี้แหละที่พ่อเป็นคนสร้างไว้ รูปทรงจึงแปลกตาไปจากบ้านทั่วๆไป เพราะคุณพ่อเป็นช่างไม้มืออาชีพ บ้านหลังกะทัดรัด ไม่ใหญ่และก็ไม่เล็กเกินไปสำหรับเราสองคนแม่ลูก


นอนแบบบ้านๆมีมุ้งเก๋กันยุง กลางคืนเย็นสบาย

            น้องชายสร้างบ้านหลังเล็ก ๆชั้นเดียวมีห้องน้ำในตัว  ไว้หลังบ้าน เผื่อเวลากลับมาเยี่ยมพี่น้องเขาจะพักที่บ้านหลังนั้น  แต่ตอนนี้ใช้เป็นที่พักลูกค้าไปแล้ว 


นั่งสบายๆใต้ถุนบ้าน รอหม่ำ

คืนสู่เหย้าคืนสู่วิถีชีวิตคนคีรีวง แต่ชีวิตกระแตและแม่เปลี่ยนไป

            กระแต (ปุญพัฒน์) เล่าว่า ชีวิตเราสองแม่ลูกอยู่กินอย่างคนคีรีวง แบบว่าบ้าน ๆ แต่โลกออนไลน์ทำให้เกิดประกายความคิด กระแตเปิดหน้าเว็บไซต์เพื่อขายสินค้าสำหรับผู้หญิง ประเภทเครื่องสำอาง ไม่ได้ลงไปทำสวนสมรมที่ได้รับมรดกจากคุณตาและคุณยาย สารภาพเลยว่า สองคนแม่ลูกทำไม่ไหว สวนสมรมจึงปล่อยไปตามประสาธรรมชาติ ไม่ได้ไปเร่งสารเคมีหรือใส่ปุ๋ย ได้แค่ไหนก็ได้แค่นั้น

 

ผักกูด สดๆ

              แต่ชีวิตปกติ หากไม่มีงานอะไรเลยก็เหงาและเงียบ จึงตัดสินสินใจไปสมัครงาน ได้เงินเดือนๆละ 6,000 บาท วุฒิปริญญาตรีนะคะ หนูก็จะทำ หนูต้องอยู่ได้ วันนัดให้ไปทำงาน หนูแต่งตัวแต่เช้า กำลังว่าจะไปทำงานวันแรก แม่เดินเข้ามาหาแล้วบอกว่า

            “ไม่ต้องไปทำหรอก แม่ว่าไม่คุ้มค่าแน่ ๆ” เลยต้องถอดชุดสวยแขวนไว้เหมือนเดิม ขายของออนไลน์ต่อไป


อาหารใต้ใช้ผักเคียงเยอะ

แกงส้มกุ้งใส่มะละกอ ลูกค้าชอบ

            ปีพ.ศ.2558 เราตัดสินใจร่วมกับเพื่อนบ้านทำโฮมสเตย์ โดยคิดกันว่า หลักเกณฑ์การทำโฮมสเตย์ไม่ยุ่งยากและไม่ต้องลงทุนด้วยเงินก้อนใหญ่ เรามีทรัพยากรเป็นบ้านที่คุณตายกให้ บ้านของคุณน้าหลังเล็กห้องน้ำในตัวกำลังเหมาะ จึงตัดสินใจต่อเติมห้องด้านทิศตะวันตกเพิ่มอีก 1 ห้อง สุขา 2 ห้อง พร้อมห้องครัวอีกหนึ่งห้อง ซื้อเครื่องนอน โต๊ะเก้าอี้เพิ่มเพื่อให้ลูกค้าได้นั่งเล่น ตั้งใจเลยว่าจะทำบ้านให้พักอย่างเดียว แต่ให้อาหารเช้าเป็นกาแฟ โอวัลตินและปาท่องโก๋หรือข้าวเหนียวปิ้งหรือขนมครกที่จะไปซื้อตอนเช้ามาได้  

  

คั่วกลิ้งเผ็ดน้อย

          “ปัญหาใหญ่คือจะตั้งชื่อโฮมสเตย์ว่าอะไร  คิดๆๆๆๆ แต่แม่เขาคิดได้ว่า ชื่อซือวานโฮมสเตย์ ซึ่งคนทั่วไปคิดว่าเป็นภาษาจีน หรือไม่ก็ภาษาต่างถิ่น แต่ความหมายที่แท้จริงนะคะ  ซือวานมาจากคำดั้งเดิมของชาวคีรีวงว่า ตั้งซือ  ซึ่งแปลเป็นไทยว่า วันซืนหรือวานซืน ไม่ใช่วันวาน  ได้ชื่อลงตัวว่า ซือวานโฮมสเตย์  กลายเป็นว่า ชื่อนี้ขลังมาก ใคร ๆก็สงสัยและชวนให้อยากรู้ค่ะ กระแตสร้างเว็บไซต์ www.seuahwan Homestay”


น้ำพริกกะปแกล้มด้วยผักสารพัดผัก+ปลาทูคอหัก

             ทรัพยากรท่องเที่ยวสำคัญของชาวคีรีวงคือ อากาศที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก สามารถมาท่องเที่ยวได้ทั้งปี ถ้าชอบหน้าฝนด้วยนะ คลองเกิดใหม่คือไฮไลท์ของนักท่องเที่ยว  ถ้าครอบครัวไหนมีเด็ก ๆมาด้วยจะชอบลงไปแช่น้ำในลำห้วย ถ้าเป็นหนุ่มสาวก็จะไปถ่ายรูปบนสะพานข้ามคลอง ถีบจักรยานสองล้อไปเรื่อย ๆ ร้านอาหารแบบเพิงริมทางมีทั่วไป ผมยังแวะไปนั่งดื่มกาแฟที่เรียกว่าโกปี๊ ไม่โขกสับนักท่องเที่ยวด้วยแก้วละ 15 บาทแถมน้ำชาร้อนอีก 1 กา


ผักกูดยำตำรับซือวานหร่อยอย่าบอกใครเชียว

ต้มไก่บ้านใส่ขมิ้น ห้อมหอม

            ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างคือ วิถีชีวิตชาวคีรีวง ไม่ใช่แค่เช้าเข้าสวน แต่เช้าจะมานั่งดื่มน้ำชา กาแฟ แลกเปลี่ยนความรู้และเรื่องแปลกใหม่ทุกวัน หลังจากนั้นจึงจะเข้าไปสวนสมรมหรือไปทำภารกิจอื่น ๆ วันนี้คีรีวงเปลี่ยนไป มีระบบระเบียบที่ยึดถือ แบ่งกลุ่มสร้างความแตกต่าง ได้แก่ กลุ่มผ้าทอมัดย้อมสีธรรมชาติ  กลุ่มลูกไม้  กลุ่มสมุนไพรผลิตภัณฑ์ที่ทำออกจำหน่าย และกลุ่มจักรสาน ผลิตกะลามะพร้าวแปลงโฉม  กลุ่มแปรรูปผลไม้เช่นทุเรียนกวนห่อด้วยกาบหมาก

ชุดอาหารค่ำ

ชุดอาหารเช้า

กติกาของซือวานโฮมสเตย์ เน้นย้ำสำคัญ

            อาจารย์สุภาและกระแตเล่าว่า  กติกาสำคัญของโฮมสเตย์คือ จัดเตรียมที่พักให้หลับนอนด้วยความสุข มีมุ้งหมอนที่นอนสอาดพร้อม มีม้านั่งหรือตั่งให้นั่งนอกห้องได้  ไม่อนุญาตให้สูบบุหรี่  ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์  ไม่มีการเปิดเครื่องเสียงร้องคาราโอเกะ  อนุญาตให้เข้าพักเพื่อการพักผ่อนอย่างแท้จริง  อาหารเช้าฟรีเช่น กาแฟ โอวัลติน ข้าวเหนียวปิ้ง หรือปาท่องโก๋ อาหารกลางวันและมื้อเย็น ลูกค้าต้องออกไปหากินตามร้านในคีรีวง ลูกค้าเข้าพักต้องคืนกุญแจก่อนเวลา 11.30 น. เพราะลูกค้าใหม่มารอเข้าต่ออีก ต้องรีบทำห้องใหม่


             เรื่องแปลก  อาหารมื้อค่ำตั้งราคาไว้สูงถึงหัวละ 200 บาท เพื่อจะได้ไม่มีใครสั่ง กลับมีแต่ลูกค้าสั่งให้ทำให้ด้วย  ก็เลยต้องทำ แต่ก็ให้อาหารครบเครื่อง เผ็ด จืด กลางๆ หลายอย่าง  หลังจากกลับไปแล้วเมื่อกลับมาใหม่ก็สั่งอีก ลูกค้าที่มาและกลับวนเวียนมาตลอด ทั้งที่เราก็อธิบายก่อนตกลงรับหรือไม่รับละเอียด เพื่อให้ลูกค้าทุกห้องได้พักผ่อนอย่างสุขสม


พิเศษก๋วยจั๊บญวนจากอุบลฯ

ชุดอาหารเช้าฟรีตามกติกา 

              แต่ก็จะให้คำแนะนำแหล่งท่องเที่ยวให้ค่ะ  เช่นไปน้ำตกต่าง ๆ  ไปสวนสมรม  ไปร้านอาหารเจ้าดัง ไปชมการมัดย้อมผ้า ไปแหล่งผ้าบาติก  ไปกลุ่มลูกไม้ หรือไปกลุ่มผลิตภัณฑ์สมุนไพร หรือจะไปกราบไหว้พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช  แต่ทั้งคีรีวงไม่มีสถานบันเทิงใด ๆ แม้กระทั่งร้านเกมส์ หรือ คาราโอเกะ หรือร้านอาหารประเภทมีนักร้องน้องนั่งดริ๊งค์


นี่แหละวิถีชีวิตมื้อเช้าชาวคีรีวง

สวนสมรมเปลี่ยนไปอย่างไร

            คนคีรีวงหัวก้าวหน้าและทันต่อสถานการณ์สำคัญๆทางการค้า  ทุกวันนี้สวนสมรมเปลี่ยนไปจากเดิมก็เพราะว่า ราคาที่พ่อค้ามารับซื้อให้ในราคาสูงมาก ประกอบกับผลไม้ของคีรีวงได้ดินดีมีคุณภาพและอร่อยเป็นพิเศษ จึงนิยมปลูกกันแต่ทุเรียนหมอนทอง และมังคุด ส่วนมังคุดคัด ภูมิปัญญาของชาวคีรีวง ยังไม่เปลี่ยนแปลงไป แต่แพงขึ้น ๆ



หนุ่มเหน้าสาวสวย ถ่ายรูปทั้งเซลฟี่และถ่ายตรงจากกล้องโปร

            มังคุดคัดเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวคีรีวง นครศรีธรรมราช เป็นผลไม้เสีบไม้ที่ขายได้ราคา รสชาติอร่อย เป็นที่นิยมของคนทั่วไป คนคีรีวงก็ทำมังคุดตัดขายกันตามฤดูกาล โดยชาวสวนมังคุดจัคัดมังคุดแก่ก่อนสุก 1 เดือน นี่แหละคือภูมิปัญญาที่จะต้องเรียนรู้การดูมังคุดได้เหมาะสม เปลือกยังเขียวๆอยู่  กรรมวิธีผลิตมังคุดคัดคือ


            ปาดหัวท้ายมังคุดแล้วนำไปล้างน้ำยางออกใน น้ำที่ผสมด้วยสารส้ม 1 กำมือ เกลือป่นครึ่งถุงๆละ 2 บาท น้ำเปล่า 8 ลิตร แล้วนำมังคุดมาแคะออกด้วยมีดคม ได้เนื้อมังคุดทั้งลูกแล้วก็เอาไปล้างในน้ำเปล่าอีกครั้ง  ใช้ไม้ไผ่เสียบ ไม้ละ 2 ลูก จำหน่ายไม้ละ 20 บาท ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้ แต่รสชาติมังคุดคัดนั้นไม่เปลี่ยนไป

            ผมไปคีรีวงต้นเดือนพฤษภาคม มังคุดเพิ่งแทงดอก อดซี


            ติดต่อ ซือวาน โฮมสเตย์ ได้ที่อาจารย์สุภา เปาอินทร์  และกระแต (ปุญพัฒน์) เปาอินทร์  โทร.096-4288988 หรือ www.Seuahwan.com

            ผมอยากจะบอกว่า เปาอินทร์นั้นคนทั่วไปเข้าใจกันว่ามีแต่ตำรวจ-ทหารและนักมวย(ค่ายมวย ป.เปาอินทร์) โฮมสเตย์ก็มีที่นี่แหละครับ


ทุเรียนกวนในกาบหมากหรือเรียกว่าหมาต้อ 

มื้อคำ่นอกโฮมสเตย์  เปลี่ยนบรรยากาศ

โฮมสเตย์และรีสอร์ทกว่า 700 แห่ง ป้ายคงรกไปทั่ว ทำไงกันดี

ก๋วยจั๊บญวนมาจากอุบลราชธานี

เหมารถสองแถวไปเที่ยววัดพระธาตุและในคีรีวง

ไปกราบไหว้พระธาตุนครและจตุคามรามเทพ

ใบไม้และเนื้อไม้ต้มเพื่อย้อมสีผ้า

               บ้านซือวาน บูติก โฮมสเตย์ มีบ้านหลังหลักพักแรมได้ 2 ห้องนอน พักรวม 3 คน มีพัดลมให้ ไม่ติดแอร์ ห้องสุขาต้องลงไปใช้ห้องสุขากลางหลังครัว  บ้านที่ต่อเติมเอาใจลูกค้าพิเศษด้วยการติดแอร์ ห้องนี้นอนได้ 4 คน และบ้านหลังเล็ก พักแรมได้ 4 คน มีพัดลมให้ 2 ตัว  รวมทั้งหมด 11 คน ถ้าลูกค้ารายใดติดต่อมา เราจะเล่าเรื่องราวให้ฟังจนเข้าใจว่า มีการสนองให้ได้ดังกล่าว ถ้าพอใจก็เข้าพักได้ แต่เพราะไม่ใช่รีสอร์ทจึงไม่ได้อำนวยการเต็มรูปแบบ โฮมสเตย์นั้นเหมือนญาติมาเยี่ยมเยียน เจ้าบ้านกินนอนอย่างไรก็บริการอย่างนั้น


เสน่ห์ของหน้าต่างและฝาไม้


 
 หน้าแรก  บทความ  ข่าวสาร  รวมรูปภาพ  ติดต่อเรา  เว็บบอร์ด

อัตราค่าโฆษณา    

แบบเนอร์ กลางหน้า.  ขนาด 800 x 400-600 พิกเซล เห็นหน้าแรก  5,000 บาท/เดือน

แบนเนอร์ เหนือโลโก้เว็บไซต์ ขนาด 1000 x 80 พิกเซล เห็นทุกหน้า 4,000 บาท/เดือน

 แบนเนอร์ ซ้าย  ขนาด 240 x 120-160 พิกเซล เห็นทุกหน้า 3,000 บาท/เดือน

ทำข่าวแถลง รีวิวโรงแรมและร้านอาหาร  เขียนสารคดี เชิญได้โดยตรงที่ โทร.081-9416364

ติดต่อ 135 ม.12 ต.กำแพงแสน อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม 73140

 
view