วิถีชีวิต คนกินเจ ของคนจีนโพ้นทะเล ยังโอฬาร
โดย ธงชัย เปาอินทร์- เรื่อง/นิวัตร เปาอินทร์-ภาพ
หลังการปฏิวัตรวัฒนธรรมคนจีนกว่า 1,300 คนในประเทศจีนจะกินอยู่อย่างไรไม่รู้ แต่คนจีนโพ้นทะเลที่มีอยู่ทั่วโลกอีกจำนวนเหลือคณานับ เขามีวิถีชีวิตอย่างหนึ่งที่ยึดมั่นถือมั่นเสมือนหนึ่งว่าเป็นประเพณีที่ทุกๆปีจะเวียนมาบรรจบ เป็นวงจรชีวิตที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลง และถือเป็นสาระสำคัญหนึ่งในสาระชีวิตของเขาเหล่านั้น
ใช่แล้วครับ ประเพณีกินเจ หรือเจียะเจ หรือเจียะฉ่าย(ถือศีลกินผัก) ของชาวจีนโพ้นทะเลโดยเฉพาะที่อยู่อาศัยและเติบใหญ่อยู่ในประเทศไทย เกรียวกราวโดยยึดถือตามปฏิทินจีน วันขึ้น 1 ค่ำ ถึงวันขึ้น 9 ค่ำ เดือน 9 แต่แต่ละแห่งก็แตกต่างกันอยู่บ้าง
ข่าวดังที่สุดจนกลายเป็นจุดขายของการท่องเที่ยวไปทั่วโลก เห็นจะไม่มีเทศกาลกินผักกินเจที่ไหนโด่งดังเท่ากับเทศกาลถือศีลกินผักของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งมีร่างทรงทิ่มแทงร่างกายจนเลือดไหลปรี่ ดูหวาดเสียว แต่ก็ดูเหมือนเป็นเรื่องอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ นอกจากนั้นทั่วทุกจังหวัดของเมืองไทยก็มีประเพณีกินเจ หรือกินผัก ทั่วไป เน้นนะครับ ในชุมชนชาวจีนโพ้นทะเล หรือคนไทยเชื้อสายจีน ที่แทรกซอนไปทั่วทุกหัวระแหง
การจัดงานเทศกาลกินเจ มักจะทำกันที่ศาลเจ้าต่างๆเป็นหลัก เช่นศาลเจ้าแม่ทับทิม ศาลเจ้าแม่กวนอิม หรือศาลเจ้าพ่อกิ้วเทียนเก้ง ฯลฯ เมื่อถึงวันเริ่มกินเจมักจะจัดขบวนแห่ธงหรือแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่ทั้งหลายที่ทรงอิทธิฤทธิ์ไปรอบเมือง ตรงนี้แหละครับที่ทำให้มันโด่งดังไปทั่วโลก เรียกว่า มีนักท่องเที่ยวแห่กันเข้ามาเที่ยวเมืองภูเก็ตในช่วงนั้นตรึม
ส่วนจังหวัดอื่นๆก็จัดกันตามประเพณี ยิ่งใหญ่บ้าง เงียบๆบ้าง ไม่ได้ทำให้มันเอิกเกริกเกรียวกราว แต่ก็เกิดกระแสการหยุดกินเนื้อสัตว์ หยุดกินผักกลิ่นแรง ร่วมกิจกรรมด้วยการสมทบทุนให้กับศาลเจ้า ในการทำอาหารเจเป็นทานแก่ผู้ที่อยากเข้ามากินผัก เกิดความผูกพันผู้คนในชุมชนคนไทยเชื้อสายจีนทั่วไป
ส่วนตำนานการกินเจ(Nine Emperor Gods Festival) ของคนจีนโพ้นทะเลในประเทศไทยซึ่งส่วนใหญ่เป็นจีนแคะ จีนฮกเกี้ยน จีนไหหนำ(ไหหลำ) จีนแต้จิ๋ว และจีนกวางตุ้ง อันเป็นกลุ่มอารยะธรรมหลิ่งหนาน มีตำนานที่กล่าวถึงประเพณีกินเจที่พอจะประมวลมาได้จากฐานข้อมูลหลายแหล่งดังนี้คือ
1. เพื่อรำลึกถึงวีระชน "หงี่หั่วท้วง"ที่แต่งตัวด้วยชุดขาว งดกินเนื้อสัตว์ทุกชนิดและผักที่มีกลิ่นฉุนทั้ง 5 ชนิด (กระเทียม หัวหอม กุ่ยช่าย หลักเกียว(ไม่รู้ว่าคืออะไร) และใบยาสูบ ประท้วงกองทัพแมนจู
2. เพื่อบูชาพระพุทธเจ้า 7 พระองค์และพระโพธิสัตว์ 2 พระองค์ หรือดาวนพเคราะห์ 9 ดวง อันได้แก่ ดาวพระอาทิตย์ ดาวพระเสาร์ ดาวพระจันทร์ ดาวพระอังคาร ดาวพระพุธ ดาวพระศุกร์ ดาวพระราหูและดาวพระเกตุ
3. เพื่อบูชาเทพเจ้า 9 องค์คือ ไต้อวยเอี๊ยงเม้งทัมหลังไทแชกุน ไต้เจียกอิมเจ็งกื้อมึ้ง
งวนแชกุน ไต้กวนจิงหยิ้งลุกช้งเจงแชกุน ไต้ฮั่งเฮี่ยงเม้งม่งเคียกนิวแชกุน ไต้ปิ๊กตังง้วนเนี้ยบเจงกังแชกุน ไต้โพ้วปั๊กเก๊กบู๊เอียกกี่แชกุน ไต้เพียวเทียนกวนพัวกุงกวนแชกุน ไต้ตั่งเม้งงั่วคูแชกุน ฮุ้ยกวงไตเพียกแชกุน
4. เพื่อบูชากษัตริย์เป๊ง แห่งราชวงศ์ซ้องซึ่งมีอายุเพียง 9 ขวบ ในระหว่างการเดินทางไปไต้หวัน
5. เพื่อบูชาลูกตัญญู ที่รักแม่และเมียอย่างยิ่งยวด เขากินเจเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้กับมวลมนุษย์และสรรพสัตว์
6. เพื่อรำลึกถึงเศรษฐีลีฮั้วถ่ายที่ฟังประกาศของขอทานคนหนึ่งว่าให้กินเจ 9 วัน 9 คืน หากปฏิบัติแล้วจะเกิดความเจริญรุ่งเรือง มั่งมีศรีสุข รักษาทรัพย์ฤศงคารไว้ได้ เศรษฐีคนนี้เชื่อจึงปฏิบัติตามแล้วเขียนบันทึกไว้เป็นหลักฐาน
ด้วยความเชื่อเช่นที่ตำนานต่างๆก็มีข้อแตกต่างกันไป แต่ที่เหมือนกันคือ เขาละเว้นการกินเนื้อสัตว์ กินแต่ผัก(ยกเว้นผักกลิ่นฉุน 5 ชนิด) แต่งตัวด้วยชุดขาวสะอาดตา ถือศีลแปดอย่างเคร่งครัด ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ปราศจากอคติ และที่ขาดไม่ได้คือการให้ทานแก่คนที่ตกทุกข์ได้ยาก
9 วัน มันไม่นานจนเกินไป ถ้าปฏิบัติได้ก็จะช่วยให้จิตใจสงบและงดงามด้วยคุณความดี
ภาพประกอบในเรื่องนี้ นิวัตร เปาอินทร์ เฒ่านั้งคนหนึ่งของตลาดเก่าเมืองระยอง ซึ่งได้ใช้ชีวิตช่วงปลายในชุมชนชาวจีนเมืองระยองอย่างใกล้ชิด ประหนึ่งญาติ แต่ด้วยความที่เป็นคนละเอียดอ่อนและมีมิตรสัมพันธ์ที่ดี ประเภทมีวิญญาณเข้าสิง ทุกปีช่วงกินเจ นิวัตรจึงกินเจไปด้วยถึง 9 วัน
ศาลเจ้าแม่ทับทิม ตลาดเก่าเมืองระยอง เป็นศาลเล็กๆของชุมชนชาวจีน แต่ก็ยึดมั่นในประเพณีที่ดีงามสืบทอดกันตลอดมาอย่างเหนียวแน่น ภาพที่ปรากฎบนหน้าต่างนี้จึงไม่ได้สวยอลังการอย่างมหกรรมกินเจที่จังหวัดอื่นๆแต่อย่างใด แต่มีความดีงามเกิดขึ้นอย่างท้วมท้น
ปล.ว่ากันว่าเมื่อคราวที่เจ้าแม่กวนอิมเดินทางตามหาพี่ชายอยู่กลางทะเลนั้น หิวจนอธิษฐานว่า จะมีอะไรให้กินได้บ้างไหม ปรากฎว่าหอยนางรมลอยขึ้นมาให้เป็นภักษาหาร ดังนั้นหอยนางรมจึงเป็นเนื้อสัตว์ชนิดเดียวที่ให้กินได้ในระหว่างกินเจ
เช่นเดียวกับกรณีที่เคยมาพุทธศานิกชนคนนอกถามพระพุทธทาสว่า เหตุใดจึงยังฉันเนื้อสัตว์ พระพุทธทาสได้ตอบว่า เราฉันภักษาหารไม่ได้ฉันเนื้อสัตว์