เปิดงาน “สมุทรสาคร นครแห่งความซื่อสัตย์” อย่างยิ่งใหญ่

                     เปิดงาน “สมุทรสาคร นครแห่งความซื่อสัตย์” งานยกย่องเชิดชูความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์  แล้วอย่างยิ่งใหญ่ตระการตา โดยมีนายวิชัย ศรีขัวญ ประธานคณะกรรมการตรวจติดตามและประเมินผลฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงานสมุทรสาคร นครแห่งความซื่อสัตย์ ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติมากมาย ได้แก่ ว่าที่ ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายวินิตย์  ปิยะเมธาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร, นายสุรเชษฐ์ รัตนนุกูล ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร, นายศรีศักดิ์ วัฒนพรมงคล นายกสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาครและนายวัฒนา แตงมณี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ ณ บริเวณหน้าศาลพันท้ายนรสิงห์ ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

                     การเปิดงาน “สมุทรสาคร นครแห่งความซื่อสัตย์” เริ่มจากขบวนแห่เชิญธงชาติไทย ธงประจำจังหวัดสมุทรสาคร และธงสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรสาคร ตามด้วยขบวนกลองยาว  ขบวนของนักแสดงละครอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “พันท้ายนรสิงห์”  ต่อด้วยขบวนว่าวไทย ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า ว่าวนานาชาติ ตามติดด้วยธงชาติต่างประเทศที่เข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์มวยไทย ปิดท้ายด้วยขบวนนักชกมวยไทยและนักชกต่างชาติ จากนั้นก็เป็นการแสดงการชนไก่ที่สนุกและครื้นเครง  ตามติดด้วยละครอิงประวัติศาสตร์จากศิษย์เก่าโรงเรียนสมุทรสาคร เรื่อง “พันท้ายนรสิงห์” ในตอนที่สมเด็จพระสรรเพชญ์ที่ 8 (พระเจ้าเสือ)  เสด็จประพาสทางชลมารถ โดยมีพันท้ายนรสิงห์เป็นนายท้ายเรือ ขณะที่เรื่อพระที่นั่งเข้าไปในคลองที่คดเคี้ยว อีกทั้งกระแสน้ำแรง พันท้ายนรสิงห์ไม่สามารถควบคุมเรือพระที่นั่งได้ ทำให้หัวเรือชนกับตลิ่ง จนหัวเรือพระที่นั่งหัก  ซึ่งต้องโทษอาญาถึงประหารชีวิต แต่พระเจ้าเสือทรงยกเว้นโทษตาย ให้ทหารนำดินมาปั้นเป็นพันท้ายนรสิงห์ แล้วให้เพชฌฆาตตัดศรีษะ แต่พันท้ายนรสิงห์ก็ได้กราบบังคมทูลให้ประหารชีวิตตนเสียเพื่อรักษากฎระเบียบมณเฑียรบาล พระเจ้าเสือจึงให้ตั้งศาลเพียงตา  เพื่อระลึกถึงความซื่อสัตย์สุจริต และความจงรักภักดีของพันท้ายนรสิงห์  ระหว่างแสดงก็มีการโชว์ว่าวจุฬา ว่าวปักเป้า และว่าวนานาชาติไปด้วย ตามด้วยการแสดงศิลปะแม่ไม้มวยไทยจากนักมวยกว่า 200 คน

                      แล้วก็ถึงเวลาแห่งการห้ำหั่นนั่นคือการชกมวยชิงแชมป์พันท้ายนรสิงห์ ที่ต่อสู้กันมาตั้งแต่ช่วงบ่าย ทั้งมวยเด็ก มวยหญิง มวยชาย มวยแต่ละคู่เข้าห้ำหั่นกันด้วยศิลปะแม่ไม้มวยไทย จนได้คู่มวยที่ผ่านเข้ารอบสุดท้าย เพื่อมาชกกันในรอบชิงแชมป์พันท้ายนรสิงห์ มวยคู่ชิงแชมป์นี้ต่อกรกันด้วยยุทธวิธีทั้งหมดของแม่ไม้มวยไทย ทั้งเตะ ทั้งเข่า ศอก กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ท่ามกลางเสียงเชียร์ข้างเวทีดังสนั่น แต่เมื่อครบยกนักมวยทั้งสองก็เข้ามากอดกันขอโทษขอโพยกันอย่างยิ้มแย้มด้วยน้ำใจนักกีฬา นายวิชัย ศรีขัวญ ประธานคณะกรรมการตรวจติดตามและประเมินผลฯ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็ให้เกียรติคาดเข็มขัดพันท้ายนรสิงห์ให้แก่ผู้เป็นแชมป์มวยพันท้ายนรสิงห์ โดยมีว่าที่ ร.ต.ท.อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครเป็นผู้มอบเงินรางวัล นอกจากนี้ภายในงานยังมีว่าวไฟ และกิจกรรมต่างๆ อีกมากมาย รวมทั้งการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินชื่อดัง

                       และในวันที่  14 กุมภาพันธ์ 2557  วันแห่งความรัก จะมีพิธีจดทะเบียนสมรส “สัญญารัก....จากนี้ชั่วนิรันดร”, วันที่  15 กุมภาพันธ์ 2557 จะเป็นการแข่งขันจักยานเพื่อการท่องเที่ยว “ปั่นสองน่องท่องเมืองสาคร”  และวันที่  16 กุมภาพันธ์ 2557 จะมีการแข่งขันเดิน–วิ่ง  มินิฮาล์ฟ มาราธอน พันท้ายนรสิงห์