งานกตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว
พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ประธานในพิธี
งานกตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มก่อเหนี่ยว ณ บริเวณศาลเจ้าเล่งจูเกียง โดยปีนี้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติมากมาย อาทิ นายวิทยา พานิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีนายพิทักษ์ ก่อเกียรติพิทักษ์นายกเทศมนตรีเมืองปัตตานี นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดปัตตานี นายอะหมานหมัดอะดัม ผู้อำนวยการ ททท.สำนักงานนราธิวาส, นายประยูรเดช คณานุรักษ์ รองประธานมูลนิธิเทพปูชนียสถาน, รดา จิรานนท์ นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดปัตตานี และอาจารย์อรรถพร อารีหทัยรัตน์ มัคคุเทศก์เฉพาะท้องที่ปัตตานี
พร้อมชมการแสดงชมการแสดงทางวัฒนธรรมจากนักเรียน มูลนิธิ และสมาคมต่างๆ ในจังหวัดปัตตานี ได้แก่ อุปรากรจีน (งิ้ว) มโนราห์ ฯลฯ จากนั้นเดินทางไปยังเชิงสะพานเดชานุชิต ริมแม่น้ำปัตตานี ชมการแสดงประกอบแสง สี เสียง และสื่อผสม เรื่อง “เรืองอารยะปัตตานี บารมีลิ้มกอเหนี่ยวสถิต ศรัทธาศาสนิกสัมพันธ์ ภูมิบดีพระปรมินทร์แผ่นดินสยาม”
เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ปัตตานี
งานสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งจัดขึ้นหลังจากวันตรุษจีน 15 วัน คือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 3 เมื่อไปถึงจะมีประชาชนจากทั่วสารทิศที่นับถือองค์เจ้าแม่ มายืนรอกันจนแน่นขนัด จนได้เวลาตามฤกษ์ ปีนี้เป็นเวลา 05.30 น.ก็จะเริ่มการอัญเชิญองค์เจ้าแม่หลิมกอเหนี่ยว พระหมอองค์ประธานในศาล พร้อมด้วยพระหลายองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในศาลเจ้า ได้แก่ เจ้าแม่กวนอิมเจ้าแม่ทับทิมเทพเจ้ากวนอูพระแป๊ะกงเทพตั่วเล่าเอี้ย– ไท้ส่วยเอี๊ยไฉ่ซิ้งเอี๊ย รวม 25 องค์โดยชายหนุ่ม 4 คน จะหามเกี้ยวเริ่มทยอยออกจากศาลเจ้า
โดยธรรมเนียมปฏิบัติ องค์ประธานพระหมอจะเป็นคานหามนำ ตามด้วยคานหามเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว เป็นอันดับ 2 แล้วจึงต่อด้วยคานหามพระองค์อื่นๆ ขบวนคานหาม ตามความเหมาะสมแห่ทั่วเมืองปัตตานี ถ้าใครได้หามเกี้ยวจะถือว่าได้บุญเป็นพิเศษ จึงมีผู้คนแย่งกันหามเกี้ยวกันหามมากมายโดยจะแห่ไปตามถนนต่างๆ รอบเมือง พร้อมกับมีการเชิดสิงโต แห่ธงทิว คณะดนตรีบรรเลง ตีฉิ่ง ตีกลอง ท่ามกลางเสียงกลอง และเสียงประทัดประดังจนแสบแก้วหูตลอดทางแวะเข้าไปในบ้านที่ตั้งโต๊ะกระถางธูปเทียนไว้หน้าบ้าน เพราะถ้าบ้านใดตั้งโต๊ะไว้เช่นนี้แสดงว่าต้องการอัญเชิญพระเข้าไปในบ้าน เพื่อความสิริมงคลทำมาค้าขึ้น
เมื่อขบวนแห่ไปถึงเชิงสะพานเดชานุชิต(สะพานข้ามแม่น้ำปัตตานี) เราจะเห็นประชาชนจำนวนมากมารอชมองค์เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและองค์พระ 25 องค์ ทำพิธีลุยน้ำข้ามแม่น้ำปัตตานีกันเนืองแน่นทั้งสองฝั่งแม่น้ำ รวมทั้งบนสะพานเต็มไปหมดพระหมอ เจ้าแม่เจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวและองค์พระรวม 25 องค์จะลงลุยน้ำทั้งคนหามและพระลอยไปข้ามแม่น้ำปัตตานี เมื่อเสร็จจากการลุยน้ำแล้วก็จะแห่พระต่อไปรอบเมือง เพื่อระลึกถึงเจ้าแม่ในอดีตที่ได้ข้ามน้ำข้ามทะเลด้วยความลำบาก ตามหาพี่ชายถึงเมืองปัตตานี จากนั้นก็จะแห่เยี่ยมเยียนประชาชนรอบเมืองอีกก่อนที่จะกลับไปยังศาลเจ้าเพื่อกระทำพิธีกรรมหามพระลุยไฟ อันเป็นพิธีกรรมที่สำคัญที่สุดยอดของงาน คนที่จะหามพระลุยไฟได้ต้องทำ ร่างกายให้สะอาด งดเว้นเกี่ยวข้องกับสตรีเพศอย่างเด็ดขาด บางคนจึงมานอนค้างที่ศาลเจ้าโดยนอนเฝ้าคานหามตลอดคืนเพื่อให้ร่างกายสะอาดอย่างแท้จริง และเป็นการเฝ้าคานหามมิให้ผู้อื่นแย่งไปหามก่อนตน
ด้วยกองไฟได้ถูกก่อด้วยถ่านไฟรอไว้กลางลานดินหน้าศาลเจ้า กองพูนสูงเทียมหัวเข่า มีพนักงานคอยกระพือพัดให้ไฟลุกแดงจนได้ที่ เมื่อได้เวลาน้ำมนต์จากโอ่งมังกรใบใหญ่ถูกนำมาราดรดผู้หามคานหามจนชุ่มโชก เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแล้วแล้วคนหามทั้ง 4จะอัญเชิญพระเซ๋าซูกง (พระหมอ) เป็นองค์แรก เดินลุยฝ่า เข้าไปในกองไฟด้วยเท้าที่เปลือยเปล่า โดยมีพระองค์อื่นๆ ลุยไฟตามบริเวณหน้าศาลเจ้า การลุยไฟนี้พระองค์หนึ่งๆ จะลุยไฟกี่เที่ยวก็ได้ คนหามพระสามารถเดินเหยียบผ่านบนกองไฟที่ลุกโชนได้โดยไม่ไหม้ นับเป็นปาฏิหาริย์ที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง พิธีลุยไฟนี้ได้สร้างความตื่นเต้นต่อผู้ชมมาก ซึ่งปัจจุบันได้สร้างอัฒจันทร์ให้ผู้ชมนั่งชมได้สะดวก เมื่อเสร็จพิธีลุยไฟก็อัญเชิญองค์พระทุกองค์เข้าประดิษฐานในศาลเจ้าเล่งจูเกียงตามเดิม