ข่าวสาร [Engine by iGetWeb.com]

รายงาน-สกู๊ป | เรื่องเด่น - สำนักข่าวอิศรา

Tags

ก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ | สำนักข่าวอิศรา

“…เมื่ออ่านเสร็จ ได้อุทานว่า “ฉิบห..แล้ว” ก่อนที่จะขอให้ผู้สื่อข่าวรอสักครู่ และเดินเข้าไปในห้องผู้บังคับบัญชา (ไม่ทราบว่าเป็นห้องใคร เนื่องจากเต็มไปด้วยกล่องวางไว้อยู่เต็มห้อง) หลังจากนั้นได้ออกมาบอกว่า “เรื่องนี้เรามีเอกสารจัดเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ว่าต้องให้ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ เป็นผู้เขียนหนังสือรายละเอียดตามเอกสารราชการ ดังนั้นขอให้กลับไปยังศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารก่อน”…”

เงื่อนงำในการก่อสร้าง ‘อุทยานราชภักดิ์’ ยังคงเป็นปริศนาคลุมเครือ ?

ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นกองทัพบก โดย ‘บิ๊กหมู’ พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ‘บิ๊กป้อม’ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และ ‘บิ๊กโด่ง’ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และอดีต ผบ.ทบ. แม้ว่าจะให้สัมภาษณ์ทำนอง การก่อสร้างโปร่งใส ไร้การทุจริตก็ตาม

แต่กลับไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลรายละเอียดก่อสร้าง ไม่ว่าจะเป็นยอดเงินบริจาคทั้งหมดมีเท่าไหร่ ใช้ไปเท่าไหร่ งบประมาณแผ่นดินใช้ไปเท่าไหร่ มีบริษัทอะไรเข้ามารับงานบ้าง สรุปแล้วมีการหักหัวคิวจริงหรือไม่ ใครเกี่ยวข้องบ้าง ?

ทำแค่เพียงให้ปลัดกระทรวงกลาโหม นำโดย ‘บิ๊กติ๊ก’ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา น้องชาย ‘บิ๊กตู่’ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ‘ชุดใหม่’ ขึ้นมาตรวจสอบเท่านั้น

และด้วยความ ‘เทา ๆ’ เช่นนี้ ทำให้สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ดำเนินการยื่นหนังสือตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารทางราชการ พ.ศ.2540 กับกองทัพบกเพื่อขอให้เปิดเผยรายละเอียดการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์

(อ่านประกอบ :อิศรา’ใช้ พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารขอ ทบ.เปิดรายละเอียดสร้าง‘อุทยานราชภักดิ์’)

แต่เชื่อหรือไม่ กว่าจะทำเรื่องยื่นหนังสือกระทั่งได้เลขรับหนังสือตามขั้นตอนของทางราชการ ใช้เวลากว่าชั่วโมงเศษ !

โดยช่วงเย็นวันที่ 30 พ.ย. 2558 ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศราเดินทางไปที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) ถ.ราชดำเนิน เพื่อเข้าไปยื่นหนังสือขอให้กองทัพบกเปิดเผยรายละเอียดการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์

ภายหลังแลกบัตรแสดงตนเป็นผู้สื่อข่าวแล้ว จึงจ้ำอ้าวเดินไปตึก ‘สำนักงานเลขานุการกองทัพบก’ เพื่อติดต่อกับศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารของกองทัพบก เนื่องจากตามขั้นตอนของทางราชการต้องยื่นขอข้อมูลข่าวสารที่หน่วยงานนี้

เมื่อไปถึงได้พูดคุยกับฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อขอติดต่อกับศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ สื่อสารกันอยู่นานหลายนาทีจึงเข้าใจว่า จะเข้ามายื่นขอข้อมูลการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เนื่องจากฝ่ายประชาสัมพันธ์ยืนยันว่า ไม่มีอำนาจในส่วนนี้ แต่เป็นอำนาจของกรมกิจการพลเรือนทหารบก

เมื่อขึ้นไปชั้นสี่ ตึกสำนักงานเลขานุการกองทัพบก ห้องของศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ ทั้งนี้ตามระเบียบของกองทัพบก จะต้องกรอกรายละเอียดชื่อ สกุล ที่อยู่ติดต่อได้ และรายละเอียดสิ่งที่จะขอข้อมูล โดยมีให้เลือกว่าจะดูเลย คัดสำเนา หรือคัดสำเนาพร้อมลงลายมือชื่อ (สองอย่างหลังระบุว่าเสียเงิน แต่ไม่มีรายละเอียดว่าเท่าไหร่)

เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อย ได้สอบถาม ผอ.ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ (พ.อ.หญิง รพีพัทธ์ ตรีจิตรฐิติกุล) ถึงการขอข้อมูลเหล่านี้ว่าจะได้เมื่อไหร่ อย่างไร

แต่ พ.อ.หญิง รพีพัทธ์ ระบุว่า ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ ดูแลแค่ในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทั่วไป ส่วนข้อมูลการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น เป็นหน้าที่ของ ‘กรมกิจการพลเรือนทหารบก’ เป็นคนละส่วนกัน และไม่มีอำนาจในการเรียกเอกสารเหล่านั้นมาให้ได้ ต้องติดต่อไปที่กรมกิจการพลเรือนทหารบกก่อน

เมื่อสอบถามว่า ไม่สามารถเรียกเอกสารรายละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์มาได้เลยหรือ พ.อ.หญิง รพีพัทธ์ ยืนยันว่า ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ ดูแลแค่เรื่องการจัดซื้อจัดจ้างทั่วไปเท่านั้น เรื่องการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ เป็นหน้าที่ของกรมกิจการพลเรือนทหารบก ขอให้ผู้สื่อข่าวติดต่อหน่วยงานนั้นก่อน

หลังจากนั้นจึงส่งเจ้าหน้าที่ทหารหญิงรายหนึ่ง พาผู้สื่อข่าวไปยังกรมกิจการพลเรือนทหารบก ที่ชั้น 1 ตึกด้านหลัง บก.ทบ. เมื่อเข้าไปถึง ผู้สื่อข่าวแสดงตัวว่ามาจากสำนักข่าวอิศรา และขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ ขอให้เปิดเผยรายละเอียดการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ตามเอกสารที่แนบมาด้วย

แต่มีเจ้าหน้าที่ทหารชายรายหนึ่ง แต่งนอกเครื่องแบบท่อนบน ระบุว่า “นี่มันเรื่องใหญ่เลยนะน้อง ยากไปมั๊ง มันคงไม่ใช่ข้อมูลสาธารณะหรือเปล่า”

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทหารชายรายนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ทหารชายอีกรายหนึ่ง พาผู้สื่อข่าวไปยังชั้น B ของตึกดังกล่าว โดยให้เข้าไปสอบถามเรื่องนี้อีกห้องหนึ่งของกรมกิจการพลเรือนทหารบก

คราวนี้เมื่อเข้าไปถึง และแสดงตนเป็นผู้สื่อข่าว พร้อมกับขอใช้สิทธิตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ เพื่อขอข้อมูลดังกล่าว มีเจ้าหน้าที่ทหารหญิงรายหนึ่ง เข้ามาขอดูเอกสารแนบ

เมื่ออ่านเสร็จ เจ้าหน้าที่ทหารหญิงรายนั้นอุทานว่า “ฉิบห..แล้ว”

ก่อนที่จะขอให้ผู้สื่อข่าวรอสักครู่ และเดินเข้าไปในห้องผู้บังคับบัญชา (ไม่ทราบว่าเป็นห้องใคร เนื่องจากเต็มไปด้วยกล่องวางไว้อยู่เต็มห้อง) หลังจากนั้นได้ออกมาบอกว่า “เรื่องนี้เรามีเอกสารจัดเตรียมไว้หมดแล้ว แต่ว่าต้องให้ศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารฯ เป็นผู้เขียนหนังสือรายละเอียดตามเอกสารราชการ ดังนั้นขอให้กลับไปยังศูนย์บริการข้อมูลข่าวสารก่อน”

ผู้สื่อข่าวจึงเดินกลับไปยังชั้น 4 ตึกสำนักงานเลขานุการกองทัพบกอีกครั้ง เพื่อแจ้งให้ พ.อ.หญิง รพีพัทธ์ ทราบ โดย พ.อ.หญิง รพีพัทธ์ ระบุว่า “ถ้าเป็นอย่างนั้น ก็ต้องทำเรื่องตามขั้นตอน หลังจากนั้นจะดำเนินการส่งเรื่องให้กรมกิจการพลเรือนทหารบกทราบ” ก่อนที่จะได้เลขรับหนังสือ และเสร็จสิ้นกระบวนความ

ใช้เวลาเบ็ดเสร็จราวชั่วโมงเศษ !

ล่าสุด ‘บิ๊กโด่ง’ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ยังไม่ลาออกจากการเป็น รมช.กลาโหม และได้ชี้แจงกับคณะกรรมการของกองทัพบกไปแล้วเกี่ยวกับกรณีการจัดสร้างอุทยานราชภักดิ์ ทั้งนี้ในการทำงานที่ผ่านมาตั้งแต่เริ่มจนถึงตนเกษียณอายุมีความตั้งใจเรื่องความโปร่งใสในการจัดสร้าง

“ผมยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ โดยเฉพาะจุดประสงค์การตั้งโครงการก็เพื่อให้ประชาชนได้มีสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจทำให้เป็นสมบัติของชาติ และรำลึกสิ่งที่มีพระคุณต่อชาติ เราไม่คิดที่จะหวังเอาประโยชน์อะไรจากสิ่งเหล่านี้ มีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้โครงการนี้ดำเนินไป แม้แต่ว่าทุนทรัพย์ของเราหรือการบริจาคจากคนที่เรารู้จักที่ได้ชักชวนมาก็ตาม”

เป็นคำยืนยันที่ชัดเจนของ พล.อ.อุดมเดช ต่อเรื่องนี้ ส่วนข้อเท็จจริงจะเป็นอย่างไร ต้องรอตรวจสอบกันต่อไป !

อ่านประกอบ :

ผู้รับเหมาจ.นนท์ โผล่รับงานปูพื้นหินสักการะอุทยานราชภักดิ์ 34 ล้าน

เปิดเอกสารกองทัพบกใช้งบ11.9 ล. จ้างวิธีพิเศษฐานหินอ่อนพระบรมรูป 7 รัฐกาลราชภักดิ์

ทหารตามเงินได้แล้ว แต่ไม่มีใครเอาคืน! โรงหล่อแจงยิบปมจ่ายเงิน 'เซียนพระ'